ชัวร์ก่อนแชร์ : 6 ผลเสียที่ควรรู้ก่อนดื่ม “ชามัทฉะ” จริงหรือ ?
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 22 กรกฎาคม 2568 เวลา 20.33 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทบทความนี้เรียบเรียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(Artificial Intelligence : AI)โดยมีเนื้อหาหลักจากคลิปวิดีโอ
21 กรกฎาคม 2568
ตามที่มีการแชร์เตือนเตือน 6 ผลเสียที่ควรรู้ก่อนดื่มชามัทฉะ เช่น ดื่มผสมนมวัว จะลดประโยชน์ของมัทฉะ มัทฉะก่อนิ่วในไต รบกวนการนอน ต้นเหตุท้องผูก ขาดน้ำ และโลหิตจาง นั้น
บทสรุป : แชร์ได้ อธิบายเพิ่ม
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ อาจารย์ ดร.พิมพ์อร สุขแล้ว สาขาอาหาร โภชนาการ และการกำหนดอาหาร ภาควิชาคหกรรมศาสตร์ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
(สัมภาษณ์เมื่อ 15 กรกฎาคม 2568)
มัทฉะ : ดื่มอย่างไรให้ได้ประโยชน์เต็มที่ และใครบ้างที่ควรระวัง
“มัทฉะ” เครื่องดื่มสีเขียวนวลที่มาพร้อมกับรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ได้กลายเป็นเมนูโปรดของใครหลายคน ไม่ใช่แค่เพราะความอร่อย แต่ยังรวมถึงคุณประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระที่มีสูงกว่าชาเขียวทั่วไป
อย่างไรก็ตาม บนโลกออนไลน์ก็มีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับผลเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการดื่มมัทฉะเช่นกัน บทความนี้จะพาไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเหล่านั้น พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เราสามารถดื่มด่ำกับเครื่องดื่มแก้วโปรดได้อย่างปลอดภัยและได้ประโยชน์สูงสุด
ไขข้อข้องใจ 6 ผลเสียจากการดื่มมัทฉะ จริงหรือมั่ว ?
- ดื่มมัทฉะผสมนมวัวแล้วประโยชน์ลดลง จริงหรือ ?
ตอบ : จริงบางส่วน โปรตีนในนมวัวสามารถจับกับสาร “แทนนิน” ในมัทฉะได้จริง ทำให้การดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดลดลง แต่ก็ยังคงได้รับประโยชน์จากโปรตีนในนมและสารอาหารอื่น ๆ ในมัทฉะอยู่ หากต้องการประโยชน์สูงสุด แนะนำให้ดื่มมัทฉะเพียว ๆ หรือผสมกับนมจากพืช เช่น นมอัลมอนด์หรือนมข้าวโอ๊ตแทน
- มัทฉะเป็นสาเหตุของนิ่วในไต จริงหรือ ?
ตอบ : ยังไม่มีงานวิจัยยืนยันโดยตรง แม้จะยังไม่มีหลักฐานโดยตรงว่าการดื่มมัทฉะทำให้เกิดนิ่ว แต่ในมัทฉะมีสาร “ออกซาเลต” สูง ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของนิ่วชนิดแคลเซียมออกซาเลต ดังนั้น ในผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นนิ่วในไตอยู่แล้ว หรือผู้ที่ดื่มน้ำน้อย ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ
- มัทฉะรบกวนการนอนหลับ จริงหรือ ?
ตอบ : จริง มัทฉะมีปริมาณกาเฟอีนสูงกว่าชาเขียวทั่วไปถึง 2-3 เท่า และใกล้เคียงกับกาแฟ 1 แก้ว ซึ่งกาเฟอีนจะอยู่ในร่างกายได้นาน 5-6 ชั่วโมง ดังนั้นควรกินดื่มมัทฉะในช่วงเช้าหรือก่อนนอนอย่างน้อย 6 ชั่วโมง และดื่มไม่เกิน 2 แก้วต่อวัน
- มัทฉะทำให้ท้องผูก จริงหรือ ?
ตอบ : จริงบางส่วน สาร “แทนนิน” ในมัทฉะมีผลทำให้ลำไส้บีบตัวช้าลงได้ หากดื่มในปริมาณมาก ประกอบกับการดื่มน้ำน้อย ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการท้องผูกได้
- มัทฉะทำให้ร่างกายขาดน้ำ จริงหรือ ?
ตอบ : จริง เนื่องจากกาเฟอีนมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ การดื่มมัทฉะในปริมาณมากจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น จึงควรดื่มน้ำเปล่าควบคู่ไปด้วยเสมอเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
- มัทฉะทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง จริงหรือ ?
ตอบ : จริง สารแทนนินในมัทฉะสามารถขัดขวางการดูดซึม “ธาตุเหล็ก” โดยเฉพาะธาตุเหล็กที่มาจากพืช (Non-heme iron) การ
ดื่มมัทฉะพร้อมหรือหลังมื้ออาหารเป็นประจำ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กได้ในระยะยาว
ใครบ้างที่ควร “ระวัง” ในการดื่มมัทฉะ ?
แม้จะเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ แต่ก็มีกลุ่มคนที่ควรบริโภคอย่างระมัดระวังหรือควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ : กาเฟอีนอาจกระตุ้นให้หัวใจทำงานหนักขึ้น
- ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารหรือกรดไหลย้อน : กาเฟอีนกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้อาการกำเริบได้
- ผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง : ควรระวังให้มาก ๆ ดื่มในปริมาณน้อยและไม่ควรดื่มพร้อมมื้ออาหาร
- ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง : มัทฉะมีแร่ธาตุบางชนิดสูง อาจทำให้ไตทำงานหนักขึ้น
- หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร: ควรจำกัดปริมาณกาเฟอีนไม่เกิน 1 แก้วต่อวัน เพราะสามารถส่งผ่านรกและน้ำนมไปยังทารกได้
สุดท้ายนี้ อย่าลืมใส่ใจกับ “น้ำตาล” และ “ไขมัน” ที่อาจแฝงมาในเมนูมัทฉะแก้วโปรดของคุณ การเลือกสั่งแบบหวานน้อยและเลือกนมไขมันต่ำ ก็จะช่วยให้คุณมีความสุขกับการดื่มมัทฉะได้อย่างเต็มที่และดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริงค่ะ
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์
ตรวจสอบบทความโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส