แม่ทัพภาค 2 รับโดรนจากกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน แง้มจ่อปิดปราสาทตาเมือนธมขั้นต่ำ 7 วัน หากฝ่ายกัมพูชาฝ่าฝืนระเบียบ
วันนี้ (22 กรกฎาคม) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รับมอบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน จาก ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ในฐานะ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมด้วย นิติธร ล้ำเหลือ หรือ ‘ทนายนกเขา’ และ จตุพร พรหมพันธุ์ ตัวแทนจากกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เพื่อนำไปมอบให้กับทหารในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และในโอกาสต่อไปจะส่งมอบแอนตี้โดรน 1 ลำ โดยขอให้แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้เลือกเพื่อความเหมาะสมในพื้นที่
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขอบคุณกลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ และประชาชนที่แสดงจุดยืนยึดแผ่นดินเป็นหลัก ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง พร้อมทั้งขอชื่นชม ซึ่งทหารตามแนวชายแดนยังขาดแคลนสิ่งที่จำเป็น พร้อมกับกล่าวย้ำว่า จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และไม่ยอมให้เสียแผ่นดินเด็ดขาด แต่เรามีหลายวิธีและกำลังดำเนินการอยู่ ไม่จำเป็นที่จะต้องยกกำลังเข้าไปต่อสู้กัน
พล.ท. บุญสิน ยังกล่าวถึงกรณีสร้างรั้วกั้นชายแดนในบางจุดหากจำเป็น โดยระบุว่า ในพื้นที่กลุ่มปราสาทตาเมือน กัมพูชาไม่ยอมรับว่าเป็นของไทย ตอนนี้ทั้ง 2 ประเทศคุยกันคนละเรื่อง หากจะทำรั้วต้องยิงกันยึดพื้นที่กันให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะเกิดแรงเสียดทานจากกลุ่มมวลชน แม้เราจะยืนยันว่าเป็นของไทย แต่เขาไม่ยอมรับ นี่คือปัญหาที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน
ขณะที่การจัดระเบียบการท่องเที่ยว แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า นักท่องเที่ยวทุกชาติสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของไทย หากมีการก่อกวนหรือมีเรื่องชกต่อย จะสั่งปิดปราสาททันที 1 สัปดาห์เพื่อจัดระเบียบใหม่ และขณะนี้มีตำรวจภูธรภาค 3 มาสนับสนุนกองร้อยควบคุมฝูงชน และเจ้าหน้าที่ทหารพรานเข้ามาช่วยในพื้นที่ และคัดกรองอาวุธต่างๆ ก่อนเข้าไปยังตัวปราสาท พร้อมยืนยันว่าขณะนี้มีแผนรองรับและแผนเผชิญเหตุอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันยังมองในแง่ดีว่าไม่มีเหตุการณ์อะไร
พล.ท. บุญสิน เปิดเผยว่า ทางกัมพูชาขอไม่ให้ปิดปราสาท และได้พูดคุยกับ พล.ต. เนี๊ยะ วงศ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 42 ของกัมพูชา พร้อมเน้นย้ำว่า ต้องควบคุมคนของตัวเองให้ได้ หากคุมไม่ได้ก็จะปิดปราสาทอย่างต่ำ 7 วัน เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย โดยจำกัดนักท่องเที่ยวบริเวณปราสาทให้ไม่เกินวันละ 100 คน
แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า กองทัพไม่นิ่งเฉย แต่การเมืองก็ว่ากันไป แต่เราดูในเรื่องความมั่นคง กรณีที่ทหารเหยียบกับระเบิดก็เป็นอีกกรณีที่จะต้องเข้าไปแก้ไขปัญหา แม้ว่าทางกัมพูชาจะออกมายืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้วางทุ่นระเบิด แต่เราก็รู้ดีว่าประเทศเพื่อนบ้านเราเป็นอย่างไร เขาก็พยายามดิ้นให้หลุด เพราะหากกระทรวงการต่างประเทศของไทยเดินหน้าเรื่องนี้เต็มที่ ก็จะสร้างความเสียหายกับศักดิ์ศรีของประเทศกัมพูชาเช่นกัน จึงเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ต้องดำเนินการ
สำหรับในส่วนของทหารก็ได้ดำเนินการประท้วงไปแล้ว แต่หลังจากนี้จะไม่ใช้การเดินลาดตระเวนแบบเก่า ไม่เอาลูกน้องไปเสี่ยง แต่จะใช้รถไถและจะดำเนินการตรวจสอบพื้นที่อื่นๆ ด้วยว่ามีอีกหรือไม่
ทั้งนี้ พล.ท. บุญสิน ยังกล่าวถึงบุคคลที่จะมารับช่วงเป็นภาคที่ 2 คนต่อไป โดยยืนยันว่า ต้องมีบุคลิกเป็นผู้นำ ทำหน้าที่ให้ดี และเป็นหลักให้ประเทศชาติ ประชาชน และลูกน้อง ส่วนตัวเชื่อมั่นว่า ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) จะเลือกคนที่ดี ทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ในขณะที่ตนเองจะอยู่เบื้องหลัง คอยช่วยงานในฐานะพลเมืองที่ดี และมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาในช่วงรอยต่อ