โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

3 ฉากทัศน์ ‘เขากระโดง’ ยื้อ-รื้อถอน-ยอมเช่า วัดใจ ‘ชิดชอบ’

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เงื่อนปมข้อพิพาท “เขากระโดง” กำลังร้อนแรง พลันที่ “มท.อ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย และ “มท.ชาย” เดศอิศม์ ขาวทอง เดินเกมสั่งเพิกถอนที่ดินบริเวณ “เขากระโดง” จ.บุรีรัมย์ กว่า 5,083 ไร่ ตามคำพิพากษาอันถึงที่สุดของศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ และศาลปกครองสูงสุด โดยยกเลิกคำสั่งของคณะกรรมการตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ที่ตั้งขึ้นในยุค “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็น รมว.มหาดไทย และสั่งให้กรมที่ดินดำเนินการเพิกถอนทันที มีผลนับตั้งแต่วันที่2 ส.ค. เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ในจำนวน 5,083 ไร่นั้น มีอย่างน้อย 12 แปลง 288 ไร่เศษ เป็นของเครือข่ายธุรกิจ “ตระกูลชิดชอบ” ที่ปรากฏชื่อ “ครูใหญ่อีสานใต้-ครอบครัว” เข้าไปถือหุ้นอยู่ ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวจาก “ก๊กน้ำเงิน” ทันควัน ส่งทนายความ แถลงคัดค้านคำสั่ง มท.ที่ “สนามช้างฯ” พร้อมกับเดิน “เกมมวลชน” ปลุกชาวบ้านที่มีเอกสารสิทธิหลายร้อยราย ยืนกรานค้านคำสั่ง มท.ดังกล่าว โดยยืนยันว่า จะไม่ยอมย้ายออกจากที่ดินเป็นอันขาด เนื่องจากได้มาอย่างถูกต้อง

นอกจากกลยุทธ์ต่อสู้ในทางกฎหมาย เดินเกมมวลชนกดดันภาครัฐแล้ว ยังมีความพยายามปล่อยข้อมูล-ปล่อยเอกสารผ่านหลายสื่อ กล่าวอ้างที่ดินเขากระโดงดังกล่าว มิใช่ของ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในฐานะ “เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน” เนื่องจากไม่มี พ.ร.ฎ.รองรับ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา นอกจากนี้การกล่าวอ้างคำพิพากษาของศาลต่าง ๆ นั้น เป็นการฟ้องเฉพาะราย ไม่สามารถ “เหมารวม” ได้ หากต้องการที่ดินทั้งหมดคืน ต้องฟ้องไล่เบี้ยรายบุคคล

ขณะที่ทีมทนายความ ซึ่งเป็นทีมทนายทีมเดียวที่ใช้ในการต่อสู้ “คดีซุกหุ้น” ของ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ในศาลรัฐธรรมนูญ แทบจะแถลงรายวัน ปล่อยข้อมูลทั้งด้านกฎหมาย และด้านประวัติศาสตร์ของที่ดินเขากระโดง เพื่อยืนยันว่า ที่ดินเหล่านี้มิใช่ของ รฟท. และชาวบ้าน-นิติบุคคลที่ได้มาในปัจจุบันถือครองโดยชอบ

แม้แต่ “เนวิน ชิดชอบ” ครูใหญ่อีสานใต้ ก็ออกมาเคลื่อนไหวผ่านโซเชียล โดยโพสต์ผ่าน “ลุงเนวิน” ว่า “ช้างอารีนา คือ บ้านของฅนบุรีรัมย์ ฅนบุรีรัมย์ คือ ลมหายใจของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ภายหลังมรสุม “มหาดไทย” เพิกถอนเอกสารสิทธิเขากระโดง ซึ่งสนามช้างฯ ซึ่งส่วนหนึ่งของสนามอยู่ในข้อพิพาทดังกล่าวด้วย

ล่าสุด มีอดีตตุลาการศาลปกครองสูงสุดบางราย วิเคราะห์ 4 ฉากทัศน์ข้อพิพาทที่ดินเขากระโดง โดยสรุปข้อเท็จจริงได้ว่า เสนอให้กรมที่ดิน แต่งตั้งคณะกรรมการฯชุดใหม่ ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุด มาตรวจสอบแนวเขตที่ดินขึ้นใหม่ เพื่อให้ได้ข้อยุติอีกรอบ ก่อนดำเนินการเพิกถอน นอกจากนี้ยังเสนอให้ “ผู้เสียหาย” ใช้สิทธิฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยจากภาครัฐได้

นอกจากเรื่องนี้แล้ว “ก๊กน้ำเงิน” ยังพยายามเทียบเคียงกรณี “เขากระโดง” กับ “อัลไพน์” ว่า “มหาดไทย” ในยุค “ก๊กแดง” จะปฏิบัติด้วยมาตรฐานเท่าเทียมกันหรือไม่ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า “สนามกอล์ฟอัลไพน์” เปรียบเสมือนกล่องดวงใจ “ตระกูลชินวัตร”

โดยกำลังเผชิญวิบากครั้งสำคัญ ภายหลังถูก “บิ๊ก มท.” ยุค “สีน้ำเงิน” เตรียมเพิกถอนเอกสารสิทธิ กลับไปเป็น “ที่ธรณีสงฆ์” ทำให้ “บริษัท อัลไพน์ฯ” เจ้าของสนามกอล์ฟ อาจตกเป็นหนึ่งในนิติบุคคลที่ต้องจ่ายค่าเสียหายแก่รัฐ 7.7 พันล้านบาท

นอกจากเรื่อง “อัลไพน์” แล้ว “ก๊กน้ำเงิน” ยังพยายามเดินเครื่องพาดพิงไปถึง “คดีโรงแป้งมัน” ถูกกล่าวหาว่า “บุกรุก” ที่ดินสาธารณประโยชน์ โดยอ้างว่ามีผู้ต้องหาหลายรายรวมถึง “อดีตรัฐมนตรี” ผู้เป็นสามี นายก อบจ.นครราชสีมา ผู้เป็นภรรยา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)

อย่างไรก็ดีฝ่ายภาครัฐ ทั้ง “ก๊กสีแดง” และ “มหาดไทย” ต่างยืนกรานตรงกันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การกลั่นแกล้ง แต่เป็นการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่ดำเนินการมาหลายปี ยืนยันว่า หากผู้ใดเสียสิทธิจากการกระทำดังกล่าว สามารถฟ้องร้องเพื่อเรียกค่าเยียวยาเสียหายได้

ประเด็นที่น่าสนใจ 3 ฉากทัศน์ต่อไปที่ “ก๊กน้ำเงิน” จำเป็นต้องเลือกในข้อพิพาทเขากระโดง จะมีอะไรบ้าง?

1.ยื้อการพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิดังกล่าวออกไปก่อน เช่น การฟ้องศาลปกครอง หรือยื่นอุทธรณ์ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ตามมาตรา 61 ขึ้นใหม่ ยืดเวลาให้ทอดออกไป จนกว่าจะมีกลยุทธ์ใหม่มาสู้ต่อ ซึ่งทางเลือกนี้มีแนวโน้มค่อนข้างสูง แต่ต้องดูช่องทางกฎหมายว่าจะทำได้หรือไม่ อย่างไร

2.ยอมตามที่ รฟท.ชงออปชั่นทางเลือกให้คือ “เสียค่าเช่า” โดยคิดย้อนหลังนับตั้งแต่ถือครอง หรือราว 55 ปีที่แล้ว โดยเสียค่าเช่า และค่าปรับที่ “สมน้ำสมเนื้อ” ช่องทางนี้ก็มีความเป็นไปได้ หากฉากทัศน์แรกไม่สามารถเกิดขึ้น เนื่องจากติดขัดด้านกฎหมาย

3.ไม่ยอม-ไม่จ่าย เดินเกมมวลชนเป็น “ผนังทองแดง กำแพงเหล็ก” ปักหลักยืนยันอยู่ที่เดิม อาจทำให้ รฟท.ต้องเสียเวลาฟ้องศาลเพื่อทำการ “ขับไล่” แต่แนวโน้มนี้เป็นไปได้ยากทั้ง 2 ฝ่าย เพราะต้องผ่านกระบวนการยุติธรรมอีกหลายปี และหากบทสรุปสุดท้าย ไม่ว่าฝ่ายใดพ่ายแพ้ ก็ได้ไม่คุ้มเสีย

ทั้งหมดคือ 3 ฉากทัศน์ของข้อพิพาท “เขากระโดง” เท่าที่จะเป็นไปได้ในขณะนี้ ส่วนบทสรุปสุดท้ายจะออกมาหน้าไหน “ก๊กน้ำเงิน-ก๊กแดง” จะรบกันอีกกี่ยก ต้องติดตามกันต่อไป

แต่ทั้งหมดอยู่ภายใต้การจับตาจากสาธารณชน โดยเฉพาะ “มาตรฐาน” ในกระบวนการยุติธรรมว่า “เขากระโดง-อัลไพน์-โรงแป้งมัน” จะออกมาโดยใช้ไม้บรรทัดเดียวกันหรือไม่?

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

Humanica ผนึก TBS ขับเคลื่อน HR วงการแพทย์ไทยสู่ยุคดิจิทัล

14 นาทีที่แล้ว

'สว.อลงกต' ระบุ 'วุฒิสภา' ไม่คว่ำ-ไม่ยื้อ "ร่างพ.ร.บ.งบฯ69"

17 นาทีที่แล้ว

ทบ. ขู่ใช้สิทธิ์ปกป้องตัวเอง โต้กลับกัมพูชาละเมิดหยุดยิง

40 นาทีที่แล้ว

'KFCI Butterbear' ชูความคุ้มค่า ฉีกสงครามราคา ลุ้นควง 'น้องเนย' โกอินเตอร์

53 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

Thai soldier loses leg in landmine blast on Thai-Cambodian border in Surin

Thai PBS World

ทบ.แฉกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดต่อเนื่อง ไม่สนอนุสัญญาออตตาวา ลั่นพร้อมใช้สิทธิ์ป้องกันตนเอง

สยามรัฐ

อดีตบิ๊กข่าวกรองสุดทน! ทหารโดนกับระเบิดในวันแม่ ลั่นปรับมาตรการเชิงรุก ไม่ต้องเกรงใจรัฐบาล

ไทยโพสต์

'สว.อลงกต' ระบุ 'วุฒิสภา' ไม่คว่ำ-ไม่ยื้อ "ร่างพ.ร.บ.งบฯ69"

กรุงเทพธุรกิจ

สภาฯ ถกร่างงบฯ ปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วันที่ 13-15 ส.ค.นี้

Thai PBS

‘บก.ลายจุด’ ค้านสร้างกำแพงไทย-เขมร หยามเป็นสิ่งก่อสร้างที่ล้าหลังทางความคิด ไม่มีความคุ้มค่า และน่าเกลียด

ไทยโพสต์

ข่าวและบทความยอดนิยม