โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“Lanvin” แบรนด์หรูฝรั่งเศส กับความสำเร็จที่อบอวลด้วยความรักของแม่

PPTV HD 36

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ย้อนจุดเริ่มต้นหนึ่งในแบรนด์หรูเก่าแก่จากฝรั่งเศส “Lanvin” ที่มีจุดกำเนิดเล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ “ความรักของแม่”

“ความรักของแม่” เป็นพลังอำนาจที่ประเมินค่าไม่ได้ ทำให้ผู้หญิงหลายคนมีกำลังกายกำลังใจในการดำเนินชีวิต ทำงาน และทำทุกวิถีทางเพื่อลูกน้อยอันเป็นที่รัก และมีผู้หญิงไม่น้อย ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตเพราะมีลูกเป็นแรงผลักดัน

หนึ่งในนั้นคือ “ฌานน์ ลองแวง” ผู้ก่อตั้ง LANVIN” (ลองแวง) แบรนด์แฟชั่นหรูสัญชาติฝรั่งเศส เจ้าของตำแหน่งแบรนด์แฟชั่นฝรั่งเศสที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งยังคงดำเนินกิจการอยู่

เรื่องราวของฌานน์และแบรนด์ลองแวงอบอวลไปด้วยความรักที่เธอมีต่อลูกสาวเพียงคนเดียว “มาร์เกอรีต์ ลองแวง” และกลายเป็นที่มาของความสำเร็จในระดับโลกของแบรนด์นี้

เริ่มต้นจากการเป็นช่างทำหมวกเลื่องชื่อ

ฌานน์เป็นลูกสาวคนโตในครอบครัวที่มีลูก 11 คน เธอเกิดที่ปารีสเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 1867 เธอเป็นเด็กที่ไม่ต้องพึ่งพาใคร มีบุคลิกเข้มแข็ง และเริ่มหาเงินด้วยตัวเองตั้งแต่อายุเพียง 13 ปี

ฌานน์ได้รับค่าจ้างครั้งแรกจากการทำงานกับช่างทำหมวกคนหนึ่งบนถนน Rue du Faubourg Saint-Onoré โดยรับหน้าที่ส่งหมวกทั่วปารีสด้วยรถโดยสารประจำทาง แต่เธอต้องการประหยัดค่าตั๋ว จึงใช้วิธีการเดินเท้าตามรถโดยสารประจำทางแทน จนได้รับฉายาว่า “รถประจำทางตัวน้อย” กลายเป็นที่รู้จักของชาวปารีส

จนเมื่ออายุ 16 ปี เธอได้เป็นช่างทำหมวกฝึกหัดให้กับร้าน Felix และ ณ ที่แห่งนี้เองที่ฌานน์ได้ออกแบบหมวกใบแรกของตัวเอง

หมวกที่ฌานน์ออกแบบเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และได้รับความนนิยมอย่างมาก จนเกิดเสียงร่ำลือถึง “หมวกของมาดมัวแซลฌานน์”

นั่นทำให้ฌานน์เริ่มฝันที่จะเปิดร้านของตัวเอง ซึ่งเป็นจริงเมื่อเธออายุได้ 22 ปี โดยเปิดร้านขายหมวกแห่งแรกในปี 1889 ที่ชั้นบนของร้านค้าแห่งหนึ่งบนถนน Rue Boissy d’Anglas

4 ปีต่อมา ฌานน์ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เธอได้เช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์บนถนน Rue du Faubourg Saint-Onoré อันทรงเกียรติ และตั้งแบรนด์ “Lanvin” ขึ้นอย่างเป็นทางการ

เครื่องประดับศีรษะเป็นรากฐานสำคัญของ Lanvin ฌานน์ได้ออกแบบตั้งแต่หมวกทรงโคลชที่เธอทำให้เป็นที่นิยมตลอดช่วงทศวรรษ 1920 ไปจนถึงเครื่องประดับศีรษะหรูหราที่ทำจากผ้าไหมและขนนกที่เธอออกแบบให้เข้ากับชุดของเธอ

แต่จากช่างทำหมวก ฌานน์ผันตัวออกมาออกแบบเสื้อได้อย่างไร? คำตอบคือ เพราะลูกสาวของเธอ

ชีวิตพลิกผันเพราะลูกสาว

มาร์เกอรีต์ ลูกสาวคนเดียวของฌานน์ เกิดในปี 1897 และได้พลิกโฉมโลกของเธอไปอย่างสิ้นเชิง

ฌานน์ได้มอบความรักอันยิ่งใหญ่ให้กับมาร์เกอรีต์ และในขณะเดียวกัน ลูกสาวตัวน้อยก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ฌานน์สร้างสรรค์ผลงานอย่างอื่นนอกจากหมวกซึ่งโด่งดังอยู่แล้ว

ช่างทำหมวกตัวแม่เกิดความคิดว่า “ไม่มีอะไรสวยงามเกินไปสำหรับมาร์เกอรีต์” และเสื้อผ้าที่มีอยู่ในตลาดสวยไม่พอสำหรับลูกสาวของเธอ จึงเป็นที่มาให้เธอออกแบบเสื้อผ้าให้กับมาร์เกอรีต์ตั้งแต่เด็ก โดยใช้ผ้าเนื้อดีเพื่อรังสรรค์สิ่งที่ดีที่สุด

แม่ลูกคู่นี้ไม่เคยอยู่ห่างกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นมาร์เกอรีต์เดินวนเวียนอยู่ตามชั้นวางหมวกในร้าน ทำให้เธอมักจะได้รับคำชมจากลูกค้าที่มาซื้อหมวก ไปจนถึงบรรดาแม่เพื่อนของมาร์เกอรีต์ ที่ต้องการให้ลูก ๆ ของตัวเองได้สวมใส่สิ่งที่สวยงามแบบนี้เช่นกัน

นี่คือโอกาสการค้าที่เข้ามาอย่างไม่คาดคิด และด้วยประสบการณ์การเป็นนักธุรกิจที่มากขึ้น ทำให้ฌานน์เล็งเห็นความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จในตลาดใหม่ จึงเปิดแผนกเสื้อผ้าเด็กในปี 1908 และอุทิศพื้นที่ทั้งหมดในร้านให้กับธุรกิจที่กำลังเติบโตนี้

ในปี 1909 ยอดสั่งซื้อเสื้อผ้าเด็กเริ่มมีมากกว่ายอดสั่งซื้อหมวก ฌานน์ตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่แบรนด์ของเธอจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ในปีนั้น เธอได้เปิดแผนกเสื้อผ้าสำหรับหญิงแรกรุ่นและสตรี เพราะมองว่า ในอนาคต ลูกสาวของเธอจะต้องโตขึ้น และออกแบบเสื้อผ้าที่เธออยากเห็นลูกสาวของตัวเองสวมใส่ เริ่มจากออกแบบชุดเดรสด้วยความรักที่เธอมีต่อมาร์เกอรีต์

ต่อมาฌานน์ขยายการออกแบบเสื้อผ้าของเธอจนครอบคลุมชุดกลางวัน ชุดราตรี เสื้อโค้ต และชุดชั้นใน ทำให้ปรากฏบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของร้าน ที่เหล่าคุณแม่และลูกสาวจะมาเลือกชุดจาก Lanvin ด้วยกัน

ปีเดียวกันนั้น ฌานน์ ลองแวง ได้เป็นสมาชิกของสภาแฟชั่นแห่งปารีส และเปลี่ยนสถานะจากช่างทำหมวกเป็นดีไซเนอร์อย่างเป็นทางการ

เมื่อกลายเป็นดีไซเนอร์ที่ได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียง ฌานน์มักได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมงานสังคมและแวดวงแฟชั่นชั้นสูงของปารีส แต่เธอเลือกที่จะเก็บตัวเงียบเป็นส่วนใหญ่ เพื่อใช้เวลากับครอบครัว

ความรักที่ฌานน์มีต่อมาร์เกอรีต์ยังสะท้อนชัดผ่านโลโก้ของแบรนด์ที่เปิดตัวในปี 1923 ซึ่งเป็นรูปที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังของผู้หญิงคนหนึ่งและลูกกำลังจับมือกันอยู่

ปอล ไอรีเบ นักวาดภาพประกอบแนวอาร์ตเดโค ผู้ออกแบบโลโก้ ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพถ่ายปี 1907 ที่ฌานน์และมาร์เกอรีต์ไปงานเต้นรำด้วยกันในชุดรัดรูปและชุดราตรีที่เข้ากัน

โลโก้ดังกล่าวถูกใช้มาจนถึงปี 2001 ได้มีการเปิดตัวโลโก้ใหม่ โดยนำเสนอโลโก้ที่เรียบง่ายเป็นพิเศษ ใช้ตัวอักษรแบบอักษรเซอริฟที่ดูหรูหราและคมชัดเพียงอย่างเดียว

ถึงอย่างนั้น โลโก้ที่ยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำของใครหลายคนก็คือโลโก้แม่ลูกแบบดั้งเดิมนั่นเอง

น้ำหอมตัวแทนความรัก

ในปี 1924 ณานน์เปิดตัวแผนกน้ำหอม Lanvin Perfumes เพราะคิดว่าน้ำหอมเองก็เป็นเครื่องประดับสำคัญบนโต๊ะเครื่องแป้งของผู้หญิง

น้ำหอมกลิ่นแรกเป็นน้ำหอมสัญชาติอเมริกัน ชื่อว่า My Sin เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาในปี 1925 และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

แต่ไฮไลต์สำคัญคือปี 1927 น้ำหอมระดับตำนานได้ถือกำเนิดขึ้นในฝรั่งเศส นั่นคือ “Arpège”

เนื่องในโอกาสวันเกิดครบรอบ 30 ปีของมาร์เกอรีต์ ซึ่งในขณะนั้นได้กลายเป็นเคาน์เตสมารี-บลองช์ เดอ โปลิญัก แล้ว ฌานน์ตั้งใจจะมอบน้ำหอมอันเป็นเอกลักษณ์ให้กับลูกสาว

Arpège เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นของกุหลาบบัลแกเรีย ดอกมะลิ Grasse ดอกสายน้ำผึ้ง และดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์

คำว่า Arpège แปลว่า Arpeggio (อาร์เปจโจ) ซึ่งเป็นศักท์ทางดนตรี หมายถึงเทคนิคการเล่นโน้ตในคอร์ดทีละตัว แทนที่จะเล่นพร้อมกันทั้งหมด โดยเรียงจากโน้ตต่ำสุดไปสูงสุด หรือจากสูงสุดลงมาต่ำสุด ช่วยให้คอร์ดมีความน่าสนใจและมีลูกเล่นมากขึ้น เป็นเหมือนการ “เดินเสียงของคอร์ด” ให้เป็นเมโลดีนุ่ม ๆ ลื่นไหล

เมื่อมาร์เกอรีต์ได้กลิ่นน้ำหอมนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งมีกลิ่นของกุหลาบบัลแกเรีย ดอกมะลิ Grasse ดอกสายน้ำผึ้ง และดอกลิลลี่ออฟเดอะวัลเลย์ เธออุทานว่า “มันเหมือนกับอาร์เปจโจเลย”

ความหอมอันเนเอกลักษณ์ทำให้นักเขียนนิยายรายหนึ่งถึงกับบรรยายเอาไว้ว่า “Arpège เป็นน้ำหอมกลิ่นดนตรีที่ฮัมเพลงที่สนุกสนาน เป็นน้ำหอมที่แม้แต่นางฟ้ายังแนะนำ”

Arpège จึงกลายเป็นสัญลักษณ์สูงสุดของความรักที่ฌานน์มอบให้กับลูกสาวของเธอ

ตัวแม่แห่งแรงบันดาลใจ

ชื่อเสียงของลองแวงไปไกลถึงต่างประเทศในปี 1915 โดยแม้ช่วงนั้นจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่ลองแวงก็ได้เข้าร่วมงาน San Francisco World’s Fair

สำหรับฌานน์แล้ว ความสำเร็จของนิทรรศการนี้ช่วยยกระดับสถานะของเธอในสหรัฐฯ ในฐานะดีไซเนอร์ชื่อดัง

ชุดเดรสของ Lanvin มักถูกนำมาผสมผสานกับเฉดสีอันเป็นเอกลักษณ์ และได้กลายเป็นแฟชั่นที่เฟื่องฟู บางครั้งก็มีการเติมสีเงินลงไปด้วย ขณะเดียวกัน การออกแบบของเธอยังได้รับอิทธิพลจากเทรนด์อาร์ตเดโคซึ่งเป็นที่นิยมในขณะนั้นด้วย

แม้ว่าฌานน์จะชอบเก็บตัวเงียบเป็นส่วนใหญ่ แต่มักจะพบปะสังสรรค์กับจิตรกร รวมถึงเธอยังเป็นนักสะสมผลงานของจิตรกรหลายท่าน เธอได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการใช้แสงในภาพวาดแนวอิมเพรสชันนิสม์ รวมถึงผลงานเชิงสัญลักษณ์

ความหลงใหลในศิลปะเหล่านี้มักพบเห็นได้ในคอลเล็กชันของแบรนด์ Lanvin ความหลงใหลในสีสันของฌานน์ทำให้เธอเปิดโรงงานย้อมผ้าของตัวเองในปี 1923

การใช้สีดำและสีขาวมักถูกนำมาผสมผสานกับสีอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เช่น สีน้ำเงินของ Lanvin การผสมผสานนี้ บางครั้งแทรกด้วยสีเงิน สะท้อนถึงจุดสูงสุดของความเก๋ไก๋ในช่วงกลางทศวรรษ 1920 เป็นผลมาจากการวิจัยทางเรขาคณิตที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกระแสอาร์ตเดโค ซึ่งเป็นยุคที่อิทธิพลสูงสุดในขณะนั้น

ความสำเร็จของ Lanvin ยังเกิดขึ้นจากความอยากรู้อยากเห็น ความคิดสร้างสรรค์ และพลังสร้างสรรค์ของผู้ก่อตั้งอย่างชัดเจน ในแต่ละคอลเลกชันใหม่ ฌานน์มุ่งมั่นที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง และได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทาง ศิลปินในยุคสมัยของเธอ และทุกสิ่งรอบตัว

ในยามว่าง ฌานน์มักจะเดินทางบ่อยครั้ง จดบันทึกประสบการณ์และแรงบันดาลใจต่าง ๆ ของเธอ บันทึกการเดินทางของเธอไม่เคยห่างไกลจากเธอเลยแม้แต่น้อย เธอเก็บรักษาบันทึกการเดินทางไว้อย่างดีในออฟฟิศ

นอกจากความทรงจำแล้ว ฌานน์ยังเขียนถึงสิ่งของที่เธอค้นพบ ตัวอย่างผ้า หรือเครื่องแต่งกายประจำชาติของประเทศที่เธอหรือเพื่อนสนิทและครอบครัวเดินทางไปเยี่ยมเยือน ไม่ว่าจะเป็นผ้าส่าหรีอินเดีย ชุดจีน ชุดนักรบโทเรดอร์ หรืองานปักและวัสดุพื้นเมือง

ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังมีสายตาที่เฉียบแหลม ในปี 1926 ฌานน์กลายเป็นดีไซเนอร์คนแรกในปารีสที่เปิดตัวไลน์เสื้อผ้าสั่งตัดสำหรับผู้ชาย และทำให้ Lanvin เป็นสถานที่เดียวในปารีสที่นำเสนอคอลเลกชันทั้งสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ชุดสูท เน็กไท ชุดนอน เสื้อผ้าสำหรับใส่ในชีวิตประจำวัน และชุดกีฬาสำหรับลูกค้าผู้ชาย

อาณาจักร Lanvin หลังการจากไปของฌานน์

ฌานน์ ลองแวง เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 1946 ด้วยวัย 79 ปี โดยได้ทิ้งมรดกอันยิ่งใหญ่ไว้เบื้องหลัง

หลังจากที่ฌานน์เสียชีวิต มาร์เกอรีต์ลูกสาวของเธอ ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานบริษัท และยังคงออกแบบคอลเลกชันต่าง ๆ ต่อไปจนถึงปี 1950

ตั้งแต่ทศวรรษ 1950 จนถึงปัจจุบัน คบเพลิงนี้ได้รับการสืบทอดผ่านนักออกแบบหลายท่าน ซึ่งล้วนเดินตามรอยเท้าสร้างสรรค์ของผู้ก่อตั้ง ซึ่งรวมถึง จูลส์ ฟรองซัวส์ คราเฮย์, โดมินิก มอร์ลอตติ, อัลแบร์ เอลบาซ และบรูโน เซียลลี

จนมาถึงปี 2024 Lanvin ได้ประกาศแต่งตั้งให้ ปีเตอร์ คอปปิง ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของบริษัท และแต่งตั้ง แอนดี ลูว์ เป็นซีอีโอ

ปัจจุบัน Lanvin Group มีอยู่หลายแบรนด์ในเครือ ได้แก่ Lanvin, Wolford, Sergio Rossi, St. John และ Caruso

ปีงบประมาณ 2024 รายได้ของ Lanvin Group ลดลง 23% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เหลือ 329 ล้านยูโร (ราว 1.24 หมื่นล้านบาท) ส่วนกำไรขั้นต้น ลดลงจาก 251 ล้านยูโร (ราว 9.4 พันล้านบาท) เหลือ 183 ล้านยูโร (6.9 พันล้านบาท)

บริษัทระบุว่า การลดลงนี้สะท้อนให้เห็นถึง “ปีแห่งการเปลี่ยนผ่านที่เต็มไปด้วยวิวัฒนาการเชิงสร้างสรรค์และการปรับกลยุทธ์ใหม่ท่ามกลางความผันผวนของตลาด”

อเมริกาเหนือและญี่ปุ่นมีผลประกอบการที่ดีกว่า จาก St. John และ Sergio Rossi ส่วนภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) และจีนแผ่นดินใหญ่มีผลประกอบการลดลง ซึ่งบริษัทเชื่อว่าเป็นผลมาจากการชะลอตัวของธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือยในภาพรวม

แม้ ฌานน์ ลองแวง จะไม่อยู่แล้ว แต่อาณาจักร Lanvin ซึ่งถือกำเนิดจากความรักของแม่ที่มีต่อลูก ยังคงตั้งตระหง่านอย่างงดงามอยู่ในอุตสาหกรรมสินค้าหรูจนถึงทุกวันนี้

เรียบเรียงจาก (1) (2) (3) (4) (5) (6)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“YG Entertainment” เสาหลักวงการ K-Pop ผู้สร้างซุป’ตาร์ระดับโลก

จากร้านตัดผมไปถึงลาสเวกัส “UNO” เกมการ์ดอันดับ 1 ในสหรัฐฯ

“Scrub Daddy” ฟองน้ำที่เคยถูกทอดทิ้ง สร้างเงินพันล้านเพราะเมียสั่งขัดเก้าอี้

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “Lanvin” แบรนด์หรูฝรั่งเศส กับความสำเร็จที่อบอวลด้วยความรักของแม่

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

- Website : https://www.pptvhd36.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก PPTV HD 36

เปิดข้อมูลวงในพูดถึง พลเรือนอักษรย่อ "บ." โยงปมซื้อเรือดำน้ำ!

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"กัตติกา" ยอมรับเซต 3 ไทยแผ่วเลยชนะอินโดนีเซียไม่ขาด

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รมว.ท่องเที่ยวฯ แสดงความเสียใจ-สั่งเร่งดูแล เหตุ นทท. ถูกเผาเจ็บสาหัส

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"โค้ชอ๊อต" ชมสาวไทยชุดรอง เล่นทุ่มเททำผลงานเยี่ยมเกมทุบ อินโดนีเซีย

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

‘รมช.ฉันทวิชญ์’ ดันเกษตรนวัตกรรมไทยโกอินเตอร์ เปิด Pop-up Store จับตลาดต่างชาติที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ

สยามรัฐ

ไทยเวียตเจ็ททุ่มเงิน รับพนักงานใหม่ 5,000 คน ลุยแข่งตลาดการบิน | คุยกับบัญชา | 8 ส.ค. 68

BTimes

ทองฟิวเจอร์ทำ All Time High พุ่งทะลุ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ฐานเศรษฐกิจ

ไม่ต้องรีบ! พรุ่งนี้น้ำมันเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ลงลิตรละ 30 สต.

สยามรัฐ

สรวงศ์ แสดงความห่วงใยนักท่องเที่ยวมาเล โดนทำร้ายกลางกรุงฯ ย้ำดูแลเต็มที่

ประชาชาติธุรกิจ

สหรัฐจ่อขึ้นภาษีนำเข้าทองร้อยละ 39.6 ดันทองฟิวเจอร์พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

JS100

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยเงินบาทปิดตลาดที่ 32.36-รอติดตามการประชุมกนง.-ฟันด์โฟลว์-ราคาทองคำ

Manager Online

ราคาน้ำมันวันนี้ 9 ส.ค. 68 เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ลดลง 30 สตางค์ต่อลิตร

sanook.com

ข่าวและบทความยอดนิยม

ดูวอลเลย์บอลสด ไทย พบ อินโดนีเซีย ศึก ซี วี ลีก SEA V League 2025 สัปดาห์ 2

PPTV HD 36

ประวัติ “หลวงพ่ออลงกต” เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ผู้อุปการะช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์

PPTV HD 36

“มาลี โสเจียตา” ยัน กัมพูชามุ่งมั่นที่จะเคารพ-ปฏิบัติตามข้อตกลงการประชุม GBC

PPTV HD 36
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...