สภาประชุมลับ ภท.หนุนตั้งกมธ.ศึกษาล้มMOU43-44 ปชน.ย้ำต้องรอบคอบ รื้อข้อตกลง
สภาประชุมลับ ภูมิใจไทย หนุนตั้งกมธ.ศึกษาล้มเอ็มโอยู ‘ณัฐพงษ์’ เตือนให้รอบคอบรื้อข้อตกลง ขณะ ‘นพดล’ ห่วงยกเลิกมีผลเสียมากกว่าดี
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 ส.ค.2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม หลังพิจารณากระทู้ถามทั่วไปแล้ว ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ เกี่ยวกับบันทึกความเข้าใจ MOU 43 และ 44 ระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ นายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้เสนอให้ประชุมลับโดยระบุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส.ฝ่ายค้านและสส.ฝ่ายรัฐบาล ต่างมีความเห็นไม่ตรงกันกับวิธีการประชุม ขณะเดียวกันนายวัชระพล ยืนยันให้ประชุมเป็นการลับ ทำให้นายไชยยา วินิจฉัยว่า การเสนอให้ประชุมลับ ต้องมีสมาชิกรับรอง ไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 หรือ 123 เสียง โดยผลการรับรองให้ประชุมลับ 198 เสียง และที่ประชุมได้ตกลงให้ประชุมลับ ภายหลังจากการเสนอญัตติของผู้เสนอเสร็จ
จากนั้นที่ประชุมสภาฯ อนุโลมให้ผู้เสนอญัตติเอ็มโอยู 43 และ 44 ทั้ง 5 คน ได้ชี้แจงหลักการและเหตุผลของการเสนอญัตติแต่ละคน แต่เมื่อถึงตอนอภิปรายของสมาชิกจะให้เป็นการประชุมลับ
โดยน.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย ชี้แจงการเสนอญัตติว่า ความตั้งใจของพรรคที่เสนอญัตตินี้ เพราะอยากให้ศึกษากฎหมายต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศนำผลการศึกษามาให้ประชาชนตัดสินใจ เรื่องเอ็มโอยู 44 นับตั้งแต่มีการเซ็น ยังไม่เคยมีผลสรุปได้แม้แต่ครั้งเดียวว่าจะกั้นเขตหรือลากเส้นแบบใด ผ่านไปกี่ปีก็คุยไม่จบ ไม่รู้จะเดินหน้าหรือถอยหลัง
หากจะให้ยกเลิกเอ็มโอยู 43 และ 44 จึงควรตั้งกมธ.มาพิจารณาศึกษาแล้วให้ประชาชนตัดสินใจผ่านการทำประชามติ การยกเลิกเอ็มโอยู 43 และ 44 ไม่ใช่จะล้างทุกอย่างทั้งหมด เหตุใดเราเป็นฝ่ายเดียวที่ยังกอดไว้ เป็นผลประโยชน์ทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องอธิปไตย แต่คนที่ถูกกระทำวันนี้ มีแต่คนไทยและทหารไทยใช่หรือไม่ แม้หลังจากนี้จะประชุมลับ แต่อยากให้ทุกคนร่วมกันตั้งกมธ.ขึ้นมา
ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้เสนอญัตติ กล่าวว่า ขอสนับสนุนให้ตั้งกมธ.มาศึกษาเอ็มโอยู 43 และ 44 ก่อนแล้วส่งต่อให้รัฐบาลชุดหน้าที่มาจากการเลือกตั้ง และมีความชอบธรรมสูงกว่านี้เป็นผู้พิจารณา เข้าใจดีถึงข้อกังวลของสมาชิกที่บอกเอ็มโอยูขาดประสิทธิภาพ
แต่ถ้าจะรื้อกระบวนการทั้งหมด ต้องอย่าลืมเรื่องผลกระทบด้วย เรามีจุดประสงค์เดียวกันคือ ให้ประเทศไทยมีอำนาจต่อรองมากที่สุด แต่ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนส่งผลการศึกษานี้ให้รัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมพิจารณา
ทั้งนี้ กรอบการพิจารณาของกมธ. ควรมี 4 ข้อ คือ 1.ศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเวทีระหว่างประเทศ 2.ศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับทวิภาคีในการเจรจาด้านเขตแดน 3.หากจะยกเลิกเอ็มโอยู จะต้องมีกลไกอื่นมาแทนที่เรื่องการเจรจาไทย-กัมพูชา 4.การตกลงด้านเขตแดนของประเทศ
ระหว่างที่ขาดกลไกเดินหน้าปักปันเขตแดนทั้งสองประเทศ ตนเห็นด้วยใช้กลไกสภาฯ ให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์สูงสุดในการเจรจา แต่อย่าลืมการเยียวยาบาดแผลที่ฝังลึกของคนไทยจากการบริหารที่ผิดพลาดของรัฐบาล อยากให้สภาฯ ตั้งกมธ.วิสามัญมาศึกษาเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบ
ขณะที่นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวนำเสนอญัตติว่า การยกเลิกเอ็มโอยู 43 มีข้อเสียมากกว่าข้อดี ทำให้การแก้ไขเขตแดนไม่มีกรอบเจรจา และไม่สามารถห้ามกัมพูชาไม่ให้เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมได้ ถ้าไปสร้างวัด โรงเรียน หรือตลาด ไม่สามารถประท้วงได้ อาจต้องใช้กำลังทหารผลักดัน เสี่ยงการปะทะต่อสู้ เมื่อไม่มีกรอบเจรจา ทำให้กัมพูชายกระดับเรื่องเขตแดนไปศาลโลก
การมีเอ็มโอยู 43 ทำให้ไทยได้เปรียบ ไม่ได้คิดเอง เพราะกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงต่างประเทศแถลงชัดเจน เอ็มโอยู 43 ทำให้ไทยได้เปรียบ ส่วนเอ็มโอยู 44 เป็นสิ่งยืนยันเขตแดนและผลประโยชน์ทางทะเลให้กัมพูชาและไทยต้องเจรจาร่วมกัน กัมพูชาอยากเจรจาเรื่องผลประโยชน์แก๊ส และน้ำมัน แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะเอ็มโอยูกำหนดให้ทำได้ เมื่อเจรจาเรื่องเส้นเขตแดนร่วมกันไปด้วย
ส่วนเฟกนิวส์ที่ระบุว่า อดีตนายกฯบอกหากตกลงไม่ได้ ให้แบ่ง 50 ต่อ 50 นั้น ไม่จริงและเป็นไปไม่ได้ มีบางคนกล่าวหาในโซเชียลมีเดียว่า เป็นเอ็มโอยูขายชาตินั้น ไม่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง และเหตุผล ยินดีหากสภาฯมีมติตั้งกมธ.ศึกษา ระดมสมองรับฟังความเห็น
จากนั้นเวลา 16.20 น. หลังผู้เสนอญัตติชี้แจงเหตุผลเสร็จสิ้น ได้เปิดให้สมาชิกอภิปรายความเห็นโดยเป็นการประชุมลับ ทั้งนี้ คาดว่าเมื่ออภิปรายจบจะส่งญัตติทั้ง 5 ฉบับ พร้อมข้อคิดเห็นของสมาชิกให้กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สภาประชุมลับ ภท.หนุนตั้งกมธ.ศึกษาล้มMOU43-44 ปชน.ย้ำต้องรอบคอบ รื้อข้อตกลง
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th