กมธ.สิ่งแวดล้อม วุฒิสภาส.ว.แฉ โรงงานแป้งมัน รุกป่าสงวน ชี้การบังคับใช้กฎหมายล่าช้าอย่างมีนัยสำคัญ
กมธ.สิ่งแวดล้อม วุฒิสภา แฉ เครือข่ายโรงงานแป้งมัน รุกป่าสงวน ศาลตัดสินแล้ว ไม่ยอมออกจากพื้นที่ ไม่ฟื้นฟูตามคำสั่ง ชี้การบังคับใช้กฎหมายที่ล่าช้าอย่างมีนัยสำคัญ
วันที่ 27 สิงหาคม นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการฯ เพื่อสางปมร้อนกรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงอีจานใหญ่ ซึ่งเป็นที่ดินที่ทับซ้อนกับเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา โดยเรียกหน่วยงานสำคัญเข้าชี้แจง ได้แก่ นายกิตติศักดิ์ ธีนะวัฒนา รองผู้ว่าการจังหวัดนครราชสีมา , นายวัฒนา มังธิสาร รองเลขาธิการสำนักงาน ส.ป.ก. , ผู้แทนจากอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา, กรมป่าไม้, กรมพัฒนาที่ดิน, และผู้แทนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ การตรวจสอบครั้งนี้ถือเป็นการใช้กลไกของฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารอย่างจริงจัง ซึ่งสิ่งที่คณะกรรมาธิการฯ ได้รับทราบคือ “การบังคับใช้กฎหมายที่ล่าช้าอย่างมีนัยสำคัญ” โดยเฉพาะในส่วนของการฟื้นฟูพื้นที่ที่เสียหาย
นายชีวะภาพ กล่าวว่า ส.ป.ก. ได้ฟ้องร้องบริษัทแป้งมันแห่งหนึ่งและบุคคลที่เกี่ยวข้องในข้อหาบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. ที่ทับซ้อนป่าสงวนฯ และในคำพิพากษาของศาลได้สั่งให้จำเลยฟื้นฟูพื้นที่บ่อบำบัดน้ำเสีย 8 บ่อ โดยให้นำดินมาถมให้เสร็จภายใน 6 เดือน หากไม่ดำเนินการต้องชดใช้ค่าเสียหายกว่า 26 ล้านบาท
แต่กลับพบว่าบริษัทได้ฟื้นฟูบ่อเพียง 1 บ่อ ส่วนอีก 7 บ่อยังไม่มีการดำเนินการ โดยอ้างว่ามีโครงการของวิสาหกิจชุมชนมาร้องขอใช้พื้นที่ ซึ่งทำให้คณะกรรมาธิการฯ ตั้งข้อสังเกตว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้รัฐเสียหาย เนื่องจากไม่มีการฟื้นฟูพื้นที่หรือชดใช้ค่าเสียหายตามคำพิพากษาของศาล และจากการตรวจสอบจากภาพถ่ายทางอากาศล่าสุด ก็ยังพบว่าพื้นที่ดังกล่าวยังคงถูกใช้ประโยชน์อยู่
”สิ่งที่น่าจับตาคือ ผู้ต้องหาในคดีนี้เป็นบุคคลเดียวกับผู้ที่พัวพันในคดีบุกรุกป่าที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งชี้ให้เห็นถึงรูปแบบการกระทำที่อาจเป็นขบวนการ ซึ่งทางคณะกรรมาธิการฯ ในฐานะตัวแทนของประชาชนจะตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ผมยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นทางการเมือง แต่เป็นเรื่องของความถูกต้องและผลประโยชน์ของชาติ รวมทั้งจะติดตามการแก้ไขปัญหาของทุกหน่วยงานอย่างใกล้ชิดจนกว่าจะสำเร็จเป็นรูปธรรม” นายชีวะภาพกล่าว
นายชีวะภาพ กล่าวว่า ทั้งนี้คณะกรรมาธิการฯ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ดินของโรงงานแห่งนี้มีเอกสารสิทธิ์เป็น นส.3 ก. และ นส.3 ที่น่าจะออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะพื้นที่ดังกล่าวประกาศเป็นป่าไม้ถาวรตั้งแต่ปี 2506 จึงเสนอให้กรมป่าไม้กับ DSI ไปประสานงานกับ ส.ป.ก. เพื่อตรวจสอบการถือครองและใช้ประโยชน์ที่ดินให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายต่อไป.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : กมธ.สิ่งแวดล้อม วุฒิสภาส.ว.แฉ โรงงานแป้งมัน รุกป่าสงวน ชี้การบังคับใช้กฎหมายล่าช้าอย่างมีนัยสำคัญ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th