"หลวงพ่ออลงกต" สึกแล้ว หลังโดนบุกจับกลางดึก งานนี้บอกเลยว่า หนัก
ยิ่งค้นยิ่งมีเรื่องให้ว้าวมาเรื่อยๆ ซึ่งในรายการโหนกระแสวันนี้ หนุ่ม กรรชัย ยังพูดคุยกันต่อหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลางได้นำกำลังเข้าจับกุม พระราชวิสุทธิประชานาถ อลงกต พูลมุข เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ จ.81/2568 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ในข้อหาทุจริตยักยอกเงินบริจาคของวัด เบียดบังทรัพย์ของวัดเป็นของตน หรือยอมให้ผู้อื่นนำทรัพย์นั้นไปโดยทุจริต
ในปฏิบัติการเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้จับกุม หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ตามหมายจับข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 157 และข้อหาฟอกเงิน ขณะนี้ทั้งสองถูกควบคุมตัวเพื่อสอบสวนที่กองปราบปราม กรุงเทพมหานคร ซึ่งทาง หมอบี สีหน้าเคร่งเครียด ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ
ในรายการ หนุ่ม กรรชัย ได้ร่วมพูดคุยกับ เบิร์ด อดีตจิตอาสาที่เคยทำงานร่วมกันกับ หมอบี บอกว่า หลวงพ่อต้องรู้พฤติกรรมการชักเงินของหมอบี ตั้งแต่ตอนที่มีการซื้อรถ Suzuki Jimny แล้ว โดยครั้งนั้น หมอบีต้องโอนเงินมาจ่ายหลวงพ่อ 2.8 ล้าน แต่ปรากฏว่าเงินมาถึงมือหลวงพ่อ แค่ 1.5 ล้าน หายไป 1.3 ล้าน ซึ่งเชื่อว่าเป็นเงินที่เอาไปซื้อรถ Suzuki Jimny เพราะรถมาส่งในวันต่อมา โดยไม่ได้ระบุว่าตอนนี้รถอยู่กับใคร
ขณะที่ มหาหมี บอกว่า ย้อนกลับไปตั้งแต่จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ที่เราทำรายการกันต่อเนื่องมาตั้งแต่วันแรก คือ เรื่องของหมอบี ความผิดทั้งหมดมันปรากฏชัด เป็นความผิดสำเร็จแล้ว แต่สุดท้ายที่หมอบียังไม่ถูกจับก็เป็นเพราะว่าตำรวจต้องการขยายผลให้สืบไปถึงวัดและหลวงพ่อให้ได้ เพราะถ้าจับแค่หมอบี ก็จะตัดตอนไปแค่หมอบี
สุดท้ายความผิดที่ปรากฏชัดก็คือ การยักยอกเงินวัด ความผิด ม.147 ม.157 และหมอบีก็ถูกแจ้งข้อหาเดียวกันในฐานะผู้สนับสนุน และจะไม่จบแค่นี้ เพราะความผิดนี้เป็นความผิดมูลฐานของการฟอกเงิน จะต้องถูกอายัดทรัพย์สิน จำเลยมีหน้าที่มาพิสูจน์ทรัพย์ ว่าทรัพย์แต่ละอย่างได้มายังไง และแน่นอนว่าจะไม่จบแค่นี้ จะมีการขยายวงต่อไป คนที่ได้ทรัพย์อันมิชอบ ก็ต้องถูกตรวจสอบเป็นวงต่อๆ ไปเช่นกัน
และเชื่อมั่นว่า จากพฤติการณ์ที่ปรากฏ หมอบี และ พระอลงกต โอกาสได้ประกันตัวน้อยมาก เพราะเชื่อได้ว่ามีพฤติกรรมหลบหนี รวมทั้งหลังจากนี้ขั้นตอนต่อไป จะต้องจับสึกให้พ้นจากสมณเพศภายใน 48 ชั่วโมง
ขณะที่ทนายเกิดผล ซึ่งเคยเป็นทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ ก่อนจะยุติบทบาทตัวเองออกมา ไม่เกี่ยวข้องกับทางวัดอีก ได้มาย้อนเล่าเหตุการณ์เมื่อครั้งมีเรื่องขึ้นมาใหม่ๆ และได้เข้าไปประชุมร่วมกับคณะกรรมการวัด และหลวงพ่อ สิ่งที่ตนรู้สึก ณ เวลานั้นคือ ความรู้สึกอึดอัด และรู้สึกถูกปกปิดข้อเท็จจริง เป็นทนายแต่กลับไม่ได้เห็นหลักฐาน ข้อเท็จจริงหลายอย่างที่ควรรู้จากหลวงพ่อ กลับมารู้จากคนอื่น จากสื่อ จากหมอบี จนตนไปถามกับหลวงพ่อทีหลัง ถึงได้รู้ว่าเป็นจริงตามที่คนอื่นพูด
สิ่งที่เห็นปรากฏชัดตั้งแต่วันนั้น ตนได้เตือนหลวงพ่อไปแล้วว่า ขอให้รีบจัดการแก้ไข ไปแจ้งความหมอบี ไปแสดงความบริสุทธิ์ของทางวัด ไม่อย่างนั้นจะมีความผิดฐานฉ้อโกง และยักยอกเงินวัด ทนายเกิดผลได้เตือนหลวงพ่อตั้งแต่วันแรกแล้ว แล้วสุดท้ายเรื่องก็เดินมาถึงจุดนี้จนได้
ทนายเกิดผลยังบอกอีกว่า สิ่งที่ทำให้เสียใจที่สุด นอกเหนือจากเรื่องเงิน ก็คือเรื่องของการปลอมแปลงชื่อ ปลอมแปลงประวัติ สร้างตัวตนที่ไม่จริง เพราะที่ผ่านมาเราศรัทธาในตัวหลวงพ่อ ท่านเป็นคนที่สอนอะไรดีๆ ให้เรามาตลอดเวลาที่รู้จัก แต่สุดท้ายกลับมารู้ความจริงแบบนี้ บอกตรงๆ ว่ายังรู้สึกผิดหวัง เจ็บ เหมือนคนอกหัก เหมือนเรารักใครสักคนแล้วอกหักไปเลย
ล่าสุดมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต สึกแล้วเรียบร้อย