อึ้ง! ม่ายสาวตัดรอยสักบนผิวหนังสามีผู้ล่วงลับมาใส่กรอบเป็นที่ระลึก
หลังจากที่แองเจลิกา ราเดฟสกี พยาบาลและคุณแม่ลูกหนึ่งจากเวสต์เวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ได้สูญเสียสามีของเธออย่างกะทันหันเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เธอก็ตัดสินใจครั้งสำคัญที่ทำให้ผู้คนหลายล้านคนบนโลกออนไลน์ตกตะลึง
แทนที่จะเก็บอัฐิของสามีไว้ในโกศหรือมีรูปถ่ายเป็นของที่ระลึกแบบที่คนทั่วไปทำกัน ราเดฟสกีกลับเลือกที่จะนำผิวหนังส่วนที่มีรอยสักของสามีมาเก็บรักษาและใส่กรอบ โดยเธออ้างว่า เคยคุยเรื่องนี้กับสามีไว้แล้ว ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต
ราเดฟสกี วัย 35 ปี และทีเจ สามีของเธอ เป็นเพื่อนสนิทก่อนที่จะแต่งงานกันในปี 2564 พวกเขามีลูกชายด้วยกัน 1 คนชื่อว่า เพรสตัน ปัจจุบันอายุ 10 ขวบ
ในเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา หลังจากที่ทีเจเสียชีวิตกะทันหันในวัย 55 ปี ราเดฟสกีไม่ต้องการของที่ระลึกถึงสามีตามธรรมเนียมดั้งเดิม เธอต้องการใส่กรอบผิวของสามีเพื่ออวดรอยสักของสามีส่วนที่เป็นภาพโปรดของลูกชาย
“ฉันรู้ว่าเราจะทำแบบนี้เพราะเราเคยคุยกันเรื่องนี้มาก่อน” ราเดฟสกีกล่าวในคลิปวิดีโอที่เธอโพสต์บนติ๊กต็อกและกลายเป็นไวรัลในปัจจุบัน
จากรอยสักกว่า 70 ภาพที่ทีเจสักลงบนร่างกาย พวกเขาเลือกเก็บลายหมวกนิรภัยของทีมอเมริกันฟุตบอลพิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส เอาไว้ ภาพนี้เป็นภาพหัวกะโหลกสวมหมวกสีดำและสีทองของทีมที่เขารัก นี่เป็นรอยสักบนแขนครั้งแรกของเขา และเป็นรอยสักที่ลูกชายชื่นชอบที่สุด และเพรสตันเป็นคนตัดสินใจเลือก
“นี่คือพ่อ” เขาบอกกับแม่ของเขา
หลังพิธีศพ ราเดฟสกีใช้ปากกามาร์คเกอร์วาดกรอบรอบรอยสักที่ต้องการจะเก็บไว้ซึ่งอยู่บนแขนขวาของทีเจ จากนั้น เจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพจะค่อยๆ ลอกผิวหนังส่วนนั้นออกก่อนที่จะเผาศพ แล้วเก็บไว้ในภาชนะบรรจุพิเศษสำหรับเก็บรักษาที่บริษัท “เซฟมายอิงค์ฟอร์เอเวอร์” ส่งมาให้จากรัฐโอไฮโอ
กระบวนการเก็บรักษารอยสักทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 90 วัน เมื่อได้รับรอยสักของสามีที่อยู่ในกรอบรูปคืนมา ราเดฟสกีและลูกชายก็รู้สึกซาบซึ้งมาก เพราะรอยสักนั้นยังคงมีรายละเอียดริ้วรอยบนผิวหนัง มีแม้กระทั่งเส้นขนที่หลงเหลืออยู่
ราเดฟสกีบอกว่า "นี่ไม่ใช่ของที่จำลองขึ้นมา คุณสามารถเห็นเส้นขน รอยย่นบนผิวของเขา รวมถึงหมึกสักที่ฉันเคยจูบราตรีสวัสดิ์" เธอและลูกชายรู้สึกว่าของที่ระลึกชิ้นนี้ช่วยให้พวกเขารู้สึกถึงความเชื่อมโยงทางกายภาพและอารมณ์กับสามีผู้ล่วงลับได้มากกว่าการเก็บอัฐิไว้ในโกศ
คลิปวิดีโอของเธอที่แบ่งปันเรื่องราวนี้บนติ๊กต็อกมียอดผู้เข้าชมเกือบ 30 ล้านครั้ง แม้ว่าจะมีบางส่วนชื่นชมและให้กำลังใจ แต่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่วิจารณ์และเปรียบเทียบการกระทำของเธอว่าน่าสยดสยองไปหน่อย
แต่ราเดฟสกีไม่ได้รู้สึกกังวลกับคำวิจารณ์เหล่านั้น เธอบอกว่าของที่ระลึกชิ้นนี้เติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายไปและทำให้รู้สึกว่าสามียังคงอยู่เคียงข้าง ทั้งยังหวังว่าเรื่องราวของเธอจะช่วยให้ผู้คนเริ่มพูดคุยและวางแผนเกี่ยวกับความตายกันอย่างเปิดอกมากขึ้น
ที่มา : nypost.com
เครดิตภาพ : Facebook/angelica.schultze