พริษฐ์ อภิปรายค้านงบสร้างสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด 15 จังหวัด 375 ล้าน ชี้เช่าที่ใหม่ คุ้มกว่า-ปลอดภัยกว่า
วันนี้ (15 สิงหาคม) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่ 2-3 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม ซึ่งเป็นการพิจารณาเป็นรายมาตรา (วาระ 2) เป็นวันที่สาม
พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายเสนอให้ปรับลดงบประมาณโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด 15 จังหวัด ที่ใช้งบรวม 375 ล้านบาท ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเสนอให้เปลี่ยนจากวิธีการก่อสร้างอาคารใหม่มาเป็นวิธีการเช่าสถานที่ใหม่ หรือวิธีการอื่น
พริษฐ์กล่าวว่า ตนต้องย้ำชัดๆ กับเจ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการทุกท่าน ว่าตนและ กมธ. เราทุกคนเห็นตรงกันว่าสถานที่ทำงานปัจจุบันของศึกษาธิการจังหวัดใน 15 จังหวัด นี้ มีปัญหาจริงและเรามีความจำเป็นต้องหาสถานที่ทำงานใหม่ที่ปลอดภัย และสะดวกสำหรับเจ้าหน้าที่ แต่สิ่งที่เราเห็นต่างกันใน กมธ. คือ ทางออกที่ดีที่สุดของปัญหานี้ควรเป็นการสร้างอาคารใหม่ 15 อาคาร หรือการหาสถานที่ใหม่ด้วยวิธีการอื่น
ทั้งนี้ ตนมี 2 เหตุผลว่า ทำไมเราไม่ควรใช้วิธีสร้างอาคารใหม่ 15 อาคาร เหตุผลแรก เรื่องความคุ้มค่าของงบประมาณ หากศึกษาธิการจังหวัดเป็นหน่วยงานที่จะทำงานต่อในรูปแบบเดิมไปอีก 100 ปี การลงทุนสร้างอาคารใหม่ ก็อาจเป็นทางเลือกที่พอรับฟังได้ แต่ข้อเท็จจริงคือใน ร่าง พ.ร.บ.การศึกษา ฉบับใหม่ที่ถูกเสนอเข้ามาโดยพรรคการเมืองและคาดว่าจะถูกพิจารณาในเร็วๆ นี้
ทุกฉบับล้วนมีข้อเสนอให้ทบทวนเรื่องโครงสร้างของศึกษาธิการจังหวัด ภายใต้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ถูกเพิ่มเข้ามาในสมัย คสช. และวันนี้ถูกมองโดยหลายฝ่ายว่าอาจมีความซ้อนทับหรือไม่ บูรณาการร่วมกันเท่าที่ควรกับโครงสร้างของเขตพื้นที่การศึกษาภายใต้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
ดังนั้น ในวันนี้ที่เรายังไม่รู้ว่า ศธ. จังหวัด กับเขตพื้นที่การศึกษาจะยังแยกกันทำงานแบบนี้ต่อไปหรือไม่ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าภายใต้ พ.ร.บ. การศึกษา ฉบับใหม่ เราจึงไม่ควรเร่งสร้างอาคารสำนักงานใหม่ขึ้นมาอีก 15 อาคาร แต่ควรพิจารณาทางเลือกอื่นที่คุ้มค่ากว่า อย่างน้อยจนกว่าจะมีข้อสรุปผ่าน พ.ร.บ. การศึกษาฉบับใหม่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ทางเลือกที่ 1 คือการดูความเป็นไปได้ในการไปใช้พื้นที่ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ ส่วนราชการอื่นในกระทรวงอื่น ในชั้น อนุ กมธ. หน่วยงานชี้แจงตนว่าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาใน 15 จังหวัด ไม่มีพื้นที่เหลือแล้วจริงๆ แต่ตนก็อดสงสัยไม่ได้ ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ในเมื่อผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงท่านอื่น พูดขึ้นมาตอนหนึ่งในชั้น อนุ กมธ. ว่า ศึกษาธิการจังหวัด กับ เขตพื้นที่การศึกษา อาจทำงานในที่เดียวกันได้ยากเพราะเป็นเหมือนน้ำคนละสี
ทั้งนี้ ตนก็ได้แต่หวังว่ากระทรวงไม่ได้กำลังจะขอเงินภาษีประชาชน มาแก้ปัญหาภายใน ของกระทรวงเองที่ 2 หน่วยงานภายใต้สังกัดเดียวกันกลับไม่สามารถทำงานในสถานที่เดียวกันได้ .แต่หากเราไม่มีพื้นที่เหลือในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือส่วนราชการอื่นจริงๆ ใน 15 จังหวัด
ทางเลือกที่ 2 ที่ยังคุ้มค่ากว่าการก่อสร้าง คือการหาสถานที่ใหม่ในการเช่า ในเมื่อ 15 อาคาร มีการตั้งงบประมาณไว้เฉลี่ยที่อาคารละ 25 ล้านบาท หากค่าเช่าสถานที่ใหม่อยู่ที่ 50,000 บาทต่อเดือน เงิน 25 ล้านบาท จะทำให้เราเช่าสถานที่ได้มากกว่า 40 ปี หากค่าเช่าสถานที่ใหม่ เพิ่มมาเป็น 100,000 บาทต่อเดือน เงิน 25 ล้านบาท ก็ยังทำให้เราเช่าสถานที่ได้มากกว่า 20 ปี
ส่วนเหตุผลที่สองคือ ความปลอดภัย หากสถานที่ทำงานปัจจุบันมีความทรุดโทรมจนไม่ปลอดภัยแล้วที่จะทำงานต่อ การเลือกแก้ปัญหาด้วยการก่อสร้างอาคารใหม่ยิ่งดูเป็นวิธีที่ประหลาดและไม่เท่าทันต่อสถานการณ์ เพราะหากเราเลือกของบมาใช้ก่อสร้างอาคารใหม่ ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะสร้างเสร็จ แต่หากเราเลือกของบมาหาสถานที่ใหม่เพื่อเช่า เราหาที่ได้เมื่อไหร่ ก็น่าจะย้ายเข้าได้แทบจะทันที
ดังนั้น หากเราให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัย การใช้วิธีเปลี่ยนงบก่อสร้างในงบ 2569 มาเป็นงบเช่าสถานที่ใหม่ได้ ก็จะดีที่สุด แต่แม้ในกรณีที่เราไม่สามารถเปลี่ยนงบ 2569 มาเป็นงบเช่าได้จริงๆ เพราะระเบียบใด การใช้งบ 2570 มาเช่าสถานที่ใหม่ ก็น่าจะยังทำให้เจ้าหน้าที่ย้ายเข้าสถานที่ใหม่ได้เร็วกว่าการใช้งบ 2569 สร้างอาคารใหม่อยู่ดี
ที่สรุปแบบนี้ เป็นเพราะในบรรดา 8 จังหวัดที่ได้งบก่อสร้างสำนักงาน ศธ.จังหวัด ในงบ 2568 จากการสำรวจเบื้องต้น จะเห็นว่ามีแค่ 1-2 จังหวัดเท่านั้นที่สร้างเสร็จแล้ว โดยสำนักงบประมาณชี้แจงว่าส่วนใหญ่จะยังย้ายเข้าไม่ได้ก่อนปี 2569 นั่นหมายความว่า หากการก่อสร้าง 15 อาคารในงบ 2569 ใช้เวลาเท่าๆ กัน แม้เราอนุมัติงบก่อสร้างให้วันนี้ อาคารเหล่านี้ก็มีแนวโน้มที่จะยังสร้างไม่เสร็จและยังไม่พร้อมย้ายเข้า จนกว่าจะถึงปี 2570
ในทางกลับกัน แม้เราต้องรอถึง พ.ร.บ. งบ 2570 ในการตั้งงบค่าเช่าสถานที่ใหม่ แต่หากหน่วยงานทำงานเร็วและเตรียมการล่วงหน้า หน่วยงานอาจจะสามารถดำเนินการหาสถานที่ใหม่เพื่อเช่าและย้ายเข้าได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2569 ด้วยซ้ำ
ดังนั้นไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเรื่องความคุ้มค่าของงบประมาณ หรือ ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่การหาสถานที่เช่าใหม่น่าจะตอบโจทย์กว่าการก่อสร้างอาคารใหม่ ในการแก้ปัญหาให้กับ ศธ.จังหวัดใน 15 จังหวัดนี้
พริษฐ์ทิ้งท้ายด้วยการชวนผู้แทนราษฎรทุกคน ถามใจตนเองดูว่าหากท่านทำธุรกิจและท่านต้องหาสถานที่ทำงานในต่างจังหวัดให้กับพนักงานของท่าน 50 คน โดยที่ท่านไม่รู้ว่าธุรกิจท่านจะอยู่ได้เกิน 3 ปีหรือไม่ ท่านจะตัดสินใจอย่างไรระหว่างหาที่เช่ากับสร้างอาคารใหม่ และหากท่านทำธุรกิจและพนักงานท่าน 50 คน กำลังทำงานในสถานที่ที่ไม่ปลอดภัย ท่านจะตัดสินใจอย่างไรระหว่างเร่งหาที่เช่าใหม่ที่ปลอดภัย เพื่อรีบย้ายเข้ากับลงทุนสร้างอาคารใหม่และรอย้ายเข้าเมื่ออาคารสร้างเสร็จ