บันทึกหน้า 4
ถือเป็นพระกรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีเตรียมพระราชทานเหรียญกล้าหาญให้ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และทหารพรานจากการปฏิบัติงานชายแดนไทย-กัมพูชา โดย “พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมระบุว่า ได้ทำเรื่องขอไป 2 ลักษณะ คือ ลักษณะเป็นบุคคลและหน่วยงาน คาดว่าต้นเดือนกันยายนจะเรียบร้อย …๐
ส่วนความคืบหน้าของสถานการณ์ชายแดนนั้นก็ต้องบอกว่า ทหารเขมรที่บ้าโซเชียลเผาบ้านตัวเองซะแล้ว
โดยเฉพาะ คลิปทุ่นระเบิดสังหารชนิด PMN-2 ที่ภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ เพราะงานนี้แม้พยายามปั่นและโต้ว่าเป็นพี่ไทยทำเพื่อจัดฉาก แต่เสียงที่ออกมาจากคลิปนั้นก็มัดแน่นว่าเป็นภาษาเขมร งานนี้จึงไม่เห็น “โฆษกดอกไม้” ออกมาแก้ต่างแต่ประการใด เพราะจำนนด้วยหลักฐาน …๐
พูดถึงเขมรจะไม่เอ่ยถึง “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็กระไรอยู่ เพราะดูเหมือนจะพยายามเลี่ยงในประเด็น การฟ้องร้องศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) รวมถึงเรื่องการตรวจสอบธุรกิจและทรัพย์สินของตระกูลฮุน ในประเทศไทยเสียเหลือเกิน จึงไม่แปลกที่ “รังสิมันต์ โรม” สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาขนจะตั้งข้อสังเกตว่า อาจเพราะมีอะไรในกอไผ่กับผู้ทรงอิทธิพลในรัฐบาลหรือเปล่า จึงทำให้ “บิ๊กอ้วน” เงื้อง่าราคาแพง …๐
แหม! จะโทษ “ภูมิธรรม” ก็ไม่ได้ เพราะ งานด่วนของรัฐบาลยามนี้คือการสับเปลี่ยนเก้าอี้ต่างๆ เพื่อล้างบางเครือข่ายสีน้ำเงินให้หมดสิ้นไปเสียมากกว่า เราจึงไม่เห็นรัฐบาลจะกระตือรือร้นกับพ่อลูกตระกูลฮุน ที่เรียกว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนกับนายใหญ่ซักเท่าไหร่ แต่ก็ต้องบอกว่า “ขำไม่ออก” เพราะ “บิ๊กอ้วน” ยังอุตส่าห์หาเรื่องโทษกัมพูชาว่าเป็นต้นเหตุให้การปราบปรามยาเสพติดหยุดชะงักไปช่วงหนึ่ง ทั้งที่ความจริงมันไม่เกี่ยวกันเลยด้วยซ้ำ …๐
พูดถึงคดีความไม่เอ่ยถึงวันที่ 21 ส.ค.ที่ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมต้องไปชี้แจงข้อเท็จจริงในคดีคลิปอังเคิล พร้อมกับ “ฉัตรชัย บางชวด” เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ เพราะล่าสุดเจ้าตัวเก็บตัวเงียบและยกเลิกหมายต่างๆ ซึ่งคงช้ำใจว่าในวันคล้ายวันเกิดครบ 39 ปีแท้ๆ แต่กลับต้องไปขึ้นโรงขึ้นศาล งานนี้หากถามบรรดาสายมูต่างบอกตรงกันว่า จะเป็นการเบิกฤกษ์ไม่ดี และแนะนำให้ “อุ๊งอิ๊ง” ไม่ไปแน่นอน ซึ่งก็ต้องลุ้นกันว่าสุดท้ายแล้ว “อิ๊งค์” จะเชื่ออะไร …๐
เอ่ยถึงการขึ้นโรงขึ้นศาล จะไม่เอ่ยถึง “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชนก็มาได้ เพราะเล่นหนีบ “วรภพ วิริยะโรจน์” และ “ศุภโชติ ไชยสัจ” 2 สส.บัญชีรายชื่อของพรรคมาแถลงข่าว การเดินหน้าปกป้องผลประโยชน์ประชาชนจากทุนพลังงานผูกขาด โดยแถลงในท่วงทำนองว่าถูกบริษัทกลุ่มทุนพลังงานใหญ่ฟ้องหมิ่นประมาท จากการทวงคืนค่าไฟที่เป็นธรรมให้ประชาชน รวมมูลค่าทางแพ่งกว่า 300 ล้านบาท ทั้งที่เป็นการทำหน้าที่ในฐานะผู้ทรงเกียรติโดยสุจริต พระเจ้าจอร์จ! เลิกอ้างประชาชนเสียที อย่าลืมว่ากฎหมายและระเบียบด้วยว่า การอภิปรายนั้น เขาระบุชัดว่าห้ามพาดพิงบุคคลที่ 3 เพราะไปแก้ต่างแก้ตัวไม่ได้ เมื่อกล้าพูดและยืนยันว่าเป็นข้อเท็จจริงก็ไปพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรมสิพ่อคุณ จะมาร้องแรกแหกกระเชอหาพระแสงอะไรมิทราบ …๐
เอ่ยถึงพรรคประชาชนจะไม่เอ่ยอ้างถึง “ศุภณัฐ มีนชัยนันท์” สส.มีนบุรีของค่ายส้มไม่ได้ เพราะเห็นไปโผล่ในกิจกรรม “Hack งบกรุงเทพ” แต่ชาวบ้านชาวช่องชาวมีนบุรีเขาถามว่าไปส่งเสียงแจ่วๆ พูดน้ำไหลไฟดับทั้งในสภาและในกิจกรรมดังกล่าวนั้นทำไมไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกบ้าง เพราะสร้างเสร็จมานานนมแต่ยังไม่เปิดใช้บริการจนหยากไย่ขึ้นสถานีแล้ว แล้วที่ชาวมีนบุรีสาปส่งอย่างมากคือเรื่องการเพิ่มค่าจับเก็บขยะจาก 20 บาทเป็น 60 บาทต่อเดือน ซึ่งต่างก็รู้ว่าแถวมีนบุรีมีบ้านจัดสรรจำนวนมากที่ต้องมาเจอภาระเพิ่มเติมในยุคข้าวยากหมากแพง แต่ไม่เคยเห็น สส.แบงค์พูดหรือขยับในเรื่องดังกล่าว มัวแต่ไปเพ้อในเรื่องไกลตัวที่ชาวมีนุบรีจับต้องไม่ได้อยู่นั่นแล…๐
ทิ้งท้ายด้วยข่าวทวงถามไปยังขุนคลังและหัวหน้าทีมไทยแลนด์อย่าง “พิชัย ชุนหวชิระ” รองนายกฯ และ รมว.การคลังอย่างหนาหูว่าจวนเจียวนจะครบ 1 เดือนอยู่รอมร่อหลังจากได้บทสรุปเรื่องภาษีทรัมป์ที่ไทยต้องเสีย 19% แต่จนถึงทุกวันนี้คนไทยทั้งชาติยังไม่รู้เลยว่าต้องแลกกับอะไรบ้างแบบละเอียดชัดเจน โดยอ้างเหตุผลว่ายังต้องเจรจาในรายละเอียดอยู่นั่นแล หรือว่าติดนิสัยรัฐบาลที่ชอบทำอะไรลับลมคมในและมีวาระซ่อนเร้นกันแน่…๐
ท.ศักดิ์