คณะ IOT เยี่ยมเชลยศึก-รพ.พนมดงรัก
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 20 สิงหาคม 2568 เวลา 20.53 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทสุรินทร์ 20 ส.ค. – วันที่ 3 การลงพื้นที่ของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT 8 ประเทศ ไปเยี่ยมเชลยศึกกัมพูชา ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ จ.สุรินทร์ และไปที่โรงพยาบาลพนมดงรัก
วันนี้ (20 ส.ค.68) เป็นวันสุดท้าย ที่กองทัพไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT 8 ประเทศ พร้อมสื่อมวลชนไทยและต่างชาติ ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ตรวจสอบข้อเท็จจริงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา ซึ่งวันนี้ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ หลัง 2 วันที่ผ่านมา ได้ไปที่ จ.อุบลราชธานี และ ศรีสะเกษ
จุดแรก ตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมเชลยศึก เพื่อยืนยันว่าการปฏิบัติของไทยเป็นไปตามหลักมนุษยธรรมสากลและอนุสัญญาเจนีวา ทั้งด้านอาหาร การแพทย์ และการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐาน ซึ่งจุดนี้ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนติดตามเข้าไปถ่ายทำข่าว
จุดที่ 2 ไปที่โรงพยาบาลพนมดงรัก เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ตรวจสอบผลกระทบจากการถูกโจมตีด้วยจรวด BM-21 ของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมสากลอย่างชัดเจน เพราะโจมตีพลเรือนและสถานพยาบาล ทำให้โรงพยาบาลต้องปิดบริการตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม และเพิ่งกลับมาเปิดบริการผู้ป่วยได้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยกระสุน BM 21 เข้ามาตกในพื้นที่โรงพยาบาล 3 ลูก จุดแรก บริเวณใกล้เสาธงด้านหน้าโรงพยาบาล ลูก 2 ตกใส่อาคารกลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติดพังเสียหาย และอีกลูก ตกที่ด้านหลังแฟลตเจ้าหน้าที่ สะเก็ดระเบิดทำให้ห้องพักเสียหายหลายห้อง ตอนนี้ยังไม่สามารถเข้าพักได้ ทางโรงพยาบาลต้องจัดหาที่พักให้เจ้าหน้าที่เพิ่มเติม
จากนั้นคณะ IOT จะไปชมการทำลายระเบิดตกค้างในพื้นที่บ้านโนนมะยาง ก่อนที่จุดสุดท้ายจะไปยังช่องจุ๊ปตะโมก บริเวณใกล้ปราสาทตาเมือนธม ตรวจสอบเหตุการณ์ทหารพรานไทยเหยียบกับระเบิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นหลังมีข้อตกลงการหยุดยิง ตอกย้ำว่าฝ่ายกัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง
การลงพื้นที่ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คณะผู้สังเกตการณ์จากนานาชาติ ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และตรงไปตรงมาในพื้นที่จริง อีกทั้งสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงชายแดนและประชาชนผู้บริสุทธิ์
กองทัพไทย ขอยืนยันว่า ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมสากล และการแก้ไขปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธี แต่จะไม่ยอมให้มีการละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนและความปลอดภัยของประชาชนไทยโดยเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย