โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

“โกลเบล็ก” ประเมิน SET เดือน ส.ค. Sideway Up รับข่าวดีภาษีนำเข้าสหรัฐฯ แนะกลยุทธ์ “เก็บของถูก”

The Better

อัพเดต 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • THE BETTER
บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมิน SET เดือน ส.ค. Sideway Up ในกรอบ 1,200–1,250 จุด รับข่าวดีภาษีนำเข้าสหรัฐฯ แนะกลยุทธ์ “เก็บของถูก” ชู 9 หุ้นน้ำดี น่าลงทุน

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนสิงหาคม 2568 มีโอกาสปรับตัว Sideway Up โดยได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยต่างประเทศเป็นประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับอัตราภาษีศุลกากรใหม่ที่จะเรียกเก็บกับสินค้านำเข้าจากประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศไทยได้บรรลุข้อตกลงอัตราภาษีสำหรับสินค้าที่ 19% ลดลงจากระดับก่อนหน้าที่เคยกำหนดไว้ 36% ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป

สำหรับการลดอัตราภาษีศุลกากรใหม่ที่ 19% ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อแนวโน้มการค้าระหว่างประเทศ และช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญเพราะสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยได้ดีขึ้น เมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งในอาเซียน รวมทั้งยังสามารถดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ โดยเฉพาะบริษัทที่ต้องการย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีน เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากสงครามการค้าและต้องการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ ซึ่งไทยจะกลายเป็นฐานการผลิตที่น่าสนใจมากขึ้น

อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจไทยโดยรวมไม่ต้องประสบปัญหาเศรษฐกิจถดถอยเพราะการลดการเก็บภาษีเหลือ 19% จะช่วยพยุงไม่ให้ภาคส่งออกหดตัวรุนแรง และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศต่อเสถียรภาพทางการค้าของไทย และสามารถช่วยลดต้นทุนสำหรับผู้ประกอบการบางราย ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับภาคการส่งออกและเศรษฐกิจไทยโดยรวม ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังคงผันผวน โดยฝ่ายวิจัยมองกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,200–1,250 จุด

ทั้งนี้ทางสมาคมนักลงทุนรายย่อยอเมริกัน (AAII) ได้เปิดเผยผลสำรวจของนักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อมั่นต่อทิศทางของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในระยะ 6 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ นักลงทุนที่มีความเชื่อมั่นต่อทิศทางของตลาดหุ้นในระยะ 6เดือนข้างหน้า มีจำนวน 40.3% เพิ่มขึ้นจากระดับ 36.8% ในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ระดับ 37.5% และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ปรับตัวขึ้น 2.6%YoY ในเดือน มิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5%YoY จากระดับ 2.4%YoY ในเดือน พ.ค.

ขณะที่ธนาคารกรุงไทยประเมินว่า สถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาจะส่งผลกระทบ ผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ การค้าชายแดน การท่องเที่ยว และการลงทุน ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าความเสียหายอย่างน้อยราว 17,000 ล้านบาทต่อเดือน โดยในด้านการค้าชายแดนนั้นถือเป็นช่องทางที่จะได้รับผลกระทบจากการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชามากที่สุด เนื่องจากการค้าชายแดนไทยและกัมพูชาคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 48% ของมูลค่าการค้าระหว่างไทยและกัมพูชาทั้งหมด

อีกทั้ง SCB EIC ของธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ CLMV จะชะลอลงเหลือ 5.1% ในปี 2568 จาก 6.3% ในปี 2567 เนื่องจากอัตราภาษีของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นภายใต้นโยบาย Trump 2.0 และธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า เริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยในเดือน มิ.ย. และชะลอต่อในไตรมาสที่ 3 จากผลกระทบของนโยบายการค้าโลกต่อการส่งออกสินค้า และการผลิตทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังคงออกมาให้ข่าวต่อเนื่องว่า สหรัฐฯ เดินหน้าเริ่มเก็บภาษีนำเข้าที่เรียกว่าภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ในอัตราระหว่าง 15% -50% หลังพ้นเส้นตายเจรจาการค้าในวันที่ 1ส.ค.นี้ โดยกำหนดให้ 15% เป็นอัตราขั้นต่ำ สำหรับประเทศที่มีความสัมพันธ์ไม่ราบรื่นกับสหรัฐฯ อาจถูกเก็บในอัตราสูงสุด 50%

นอกจากนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังปัจจัยในประเทศที่อาจจะส่งผลต่อการลงทุนได้เช่นกัน อาทิ วันที่ 13 ส.ค. กำหนดประชุม กนง. ครั้งที่ 4/2568, วันที่ 14 ส.ค. กำหนดส่งงบการเงินวันสุดท้ายประจำไตรมาส 2/68, วันที่ 22 ส.ค. ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในคดีนายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ส่วนปัจจัยต่างประเทศ อาทิ วันที่ 4 ส.ค. สหรัฐฯ รายงานยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน มิ.ย., วันที่ 5 ส.ค. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุม, ญี่ปุ่น รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือน ก.ค., สหรัฐฯ รายงานยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือน มิ.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือน ก.ค. และดัชนีภาคบริการเดือน ก.ค.

นายวัชเรนทร์ จงยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชย์จากการกรณีที่สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงอัตราภาษีสำหรับสินค้ากับประเทศไทยที่ระดับ 19% ได้แก่หุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม เช่น AMATA, WHA และROJNA หุ้นกลุ่มส่งออกอาหาร เช่น TU,ITC,และ AAI และหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น HANA, KCE และ DELTAเนื่องจากช่วงก่อนหน้าราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงมาต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหุ้นมีโอกาสกลับมา Rebound ได้ในระยะสั้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Better

GBC ไทย-กัมพูชา เริ่มหารือมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ หวังเดินหน้าสู่สันติภาพ

17 นาทีที่แล้ว

รัฐเตรียมเยียวยาใหญ่! ทหาร-พลเรือน เหตุปะทะชายแดน รับสูงสุด 10 ล้าน รอฟังมติ ครม.

47 นาทีที่แล้ว

PROSPECT REIT โตต่อไม่รอแล้ว เตรียมทุ่ม 970 ล้านบาท ลุยลงทุนครั้งใหม่ BFTZ 6 เร่งเครื่องขยายพอร์ตสู่ 10,000 ล้านบาท

49 นาทีที่แล้ว

ไทยโต้กลับ! "มาริษ" เปิด 9 ประเด็นสำคัญกลางเวทีทูต ลั่นกัมพูชาเปิดฉากก่อน-ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

53 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

ราคาทองวันนี้ 4 ส.ค. ปิดตลาดขึ้น 100 บาท รูปพรรณขายออก 52,400 บาท

The Bangkok Insight

AF กำไรครึ่งปีลด 36.8% เสริมแกร่งมาตรการ ESG

หุ้นวิชั่น

หุ้นวันนี้ปิดพุ่ง 11.07 จุด รีบาวด์ระยะสั้น ขณะที่ต่างชาติซื้อสุทธิ 2.6 พันล้าน!

The Bangkok Insight

หุ้น THAI ปิดเทรดวันแรก 10.50 บาทเท่าราคาเปิด หลังกลับเข้าเทรดวันแรกเหนือคาด พร้อมลุยลงทุน MRO อู่ตะเภา-เพิ่มฝูงบินกว่า 150 ลำ

BTimes

ธอส. พักหนี้นานสูงสุด 1 ปี ช่วยเหลือลูกค้าพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

The Bangkok Insight

PROSPECT REIT โตต่อไม่รอแล้ว เตรียมทุ่ม 970 ล้านบาท ลุยลงทุนครั้งใหม่ BFTZ 6 เร่งเครื่องขยายพอร์ตสู่ 10,000 ล้านบาท

The Better

“บลจ.ยูโอบี”...ส่ง 2 กอง Term Fund ลงทุนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น “UFGOV6M12” ขาย IPO 1-6 ส.ค. 68 และ “UFGOV6M13” IPO 4-6 ส.ค. 68

Wealthy Thai

ดัชนีหุ้นไทยปิดจบวันพุ่งขึ้น 11.07 จุด รีบาวด์ตามภูมิภาค หวังฟันด์โฟลว์ไหลเข้า

BTimes

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...