รู้เขารู้เรา! หุ้นได้เสีย?
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อใกล้โซนแนวต้าน 1230 จุด แต่พักตัวจากความตึงเครียดไทย - กัมพูชา ตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา (21 – 25 ก.ค. 25) การความเคลื่อนไหวรายตลาดหุ้นที่น่าสนใจดังนี้ (ที่มา-บล.กรุงศรี)
สหรัฐ : ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวออก เนื่องจาก
1.) รอรายงานผลประกอบการหุ้นกลุ่ม Tech หลักๆ คือ Alphabet รายงานกำไร 2Q25 แข็งแกร่งและดีกว่าคาด คือ กำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ $2.31 ดีกว่าที่ตลาดคาด $2.17 หรือราว 6% แรงหนุนมาจากธุรกิจโฆษณา YouTube อยู่ที่ $9.8B , รายได้จากการ Search แตะ $54.1B และบริการ Cloud ที่โต โดยบริษัทประกาศเพิ่มงบลงทุนด้าน AI เป็น $85,000 ล้าน$ โดยจะเน้นการขยายศูนย์ข้อมูล (Data Centers) ขนาดใหญ่
2.) ตัวเลขเศรษฐกิจ ยังออกมาในโทนบวก คือ ยอดขายบ้าน ใหม่ มิ.ย. +0.6%m-m และ +6.6%y-y สู่ระดับ 6.27 แสนหลัง ต่ำกว่าตลาดคาด 6.5 แสนหลัง vs prev. 6.23 แสนหลัง
3.) ตัวแรงฝั่งแรงงาน ออกมา ยอดขอรับสวัสดิการว่างงาน (Initial Jobless Claims) ลดลง 4 พันรายจากสัปดาห์ก่อนมาที่ 2.17 แสนราย (ต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์) (MUFG ท าการศึกษา initial jobless claims ที่เพิ่มขึ้นเกิน 5 หมื่นราย มักเป็นสัญญาณของเศรษกิจถดถอยและจากการศึกษา ความเสี่ยง Hard Landing จะเกิดขึ้นผู้ขอรับสวัสดิการครั้งแรกเฉลี่ยจะสูงกว่าระดับ 4.0 แสนต าแหน่ง)
4.) พัฒนาการเชิงบวกทาง การค้าระหว่างสหรัฐ - ยุโรป อาทิ EU คืบหน้าเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ล่าสุด สหภาพยุโรป (EU) และสหรัฐฯ กำลังมีความคืบหน้าในการ บรรลุข้อตกลงการค้าที่จะกำหนด อัตราภาษี 15% และสหรัฐ – ญี่ปุ่น มีการเจรจาล่าสุดรวมเป็นรอบที่ 10 ได้ข้อสรุปเบื้องต้นคือ สหรัฐจะ เรียกเก็บภาษีน าเข้ากับญี่นในอัตรา 15% แต่ญี่ปุ่นต้องแลกกับการลงทุน 550 พันล้าน$ ที่ให้ก าไร 90% กับสหรัฐและเปิดตลาดสินค้าเกษตร, รถยนต์, ฯลฯ ยุโรป
ตลาดหุ้นยุโรปแกว่งตัว ประเด็นหลัก คือ 1.) ความคาดหวังเกี่ยวกับการเจรจาการค้าและประเด็นภาษี: มีการพูดคุยเรื่องข้อตกลง การค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป โดยเฉพาะประเด็นเรื่องภาษีนำเข้าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยืนกรานที่จะเรียกเก็บ 15%
2. ) ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน บริษัทต่างๆ ในยุโรปยังคงทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 ซึ่งมีทั้งที่ออกมา ดีกว่าคาดและต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งส่งผลให้ตลาดมีการเคลื่อนไหวแบบผสมผสานในแต่ละวัน หุ้นกลุ่มพลังงานและสุขภาพเริ่มกลับมาโดดเด่น
3.) นโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดี (24 ก.ค.) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีการประชุมและประกาศคงอัตรา ดอกเบี้ยตามคาด ซึ่งช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนบางส่วนเกี่ยวกับนโยบายการเงิน รายงานตัวเลขกิจกรรมทางธุรกิจ (PMI) ในยู โรโซน PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของยูโรโซนเดือน ก.ค. ขึ้นสู่ระดับ 51.0 จุด สูงสุดในรอบ 11 เดือนและดีกว่าตลาดคาด ซึ่งบ่งชี้ ว่ากิจกรรมทางธุรกิจเร่งตัวเร็วกว่าที่คาดไว้ในเดือนนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อเศรษฐกิจยุโรป เอเซีย ตลาดหุ้นเอเชียโดยส่วนใหญ่แกว่งตัวขึ้น / ปรับขึ้น
โดยเฉพาะตลาดหุ้นฮ่องกง และจีน เรื่องหนุนหลักคือ : กระแสข่าวรัฐบาลจีน เตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ของจีน ผสานจีนประกาศลงทุนสร้างเขื่อนยักษ์ในทิเบตมูลค่า 167,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมี ขนาดใหญ่กว่าเขื่อนสามผาถึง 3 เท่า และมีมูลค่าเงินลงทุนสูงกว่าเขื่อนสามผามากถึง 4 เท่า (เขื่อนสามผาก่อสร้างเมื่อปี 2009 มีมูลค่า 37,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ KSS มองบวกจากข่าวดังกล่าวเนื่องจากการลงทุนข้างต้นมีมูลค่าการลงทุนสูงคิดเป็น 0.9% ของ GDP จีน คาดว่าจะเพิ่มการจ้างงาน สร้างเงินหมุนเวียนในภาคก่อสร้างและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจีนทั้งระบบ
ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับขึ้นเด่นรับ และ สหรัฐ – ญี่ปุ่น มีการเจรจาล่าสุดรวมเป็นรอบที่ 10 ได้ข้อสรุปเบื้องต้นคือ สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีน าเข้ากับญี่ปุ่นในอัตรา 15% ถือว่าเป็นระดับ ที่ประเทศในกลุ่ม TIPs ยังเป็นภาพแกว่งตัวขึ้น โดยเฉพาะ อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ที่ได้ดีลภาษีน าเข้าในอัตรา 19% ต่ำกว่าเวียดนาม
โดย Fund Flow ในฝั่ง TIPs เป็นภาพซื้อสุทธิทุกประเทศ ไทย SET Index ปรับขึ้นต่อ และใกล้โซนแนวต้าน 1230 จุด แรงหนุนมาจาก 1.)ความเชื่อมั่นตลาดภาพวงจรดอกเบี้ยขาลง 2. การเมือง ภายในเดินหน้า 3.) เก็ง การเจรจาการค้าที่มีความคืบหน้า ไทยเสนอรอบสุดท้าย และตลาดเริ่มคาดจะได้ดีลภาษีใกล้เคียงกับประเทศในเอเซีย
แต่อย่างไรก็ตามกลาง – ปลายสัปดาห์ตลาดมีปัจจัยกดดันจาก ความตึงเครียดระหว่างไทย – กัมพูชา เปิดฉากรบ โดยกัมพูชาเริ่มยิง และ โจมตี โดยยิงจรวด BM-21 ตกใส่ร้านสะดวกซื้อปั๊มน้ำมัน ปตท. จ.ศรีสะเกษ และโรงพยาบาลพนมดงรัก ฯลฯ
ฝั่งไทยตอบโต้กลับ ผ่านทั้ง พื้นดินและทางกาศ ( เครื่องบิน F16) โดยล่าสุดฝั่งไทยมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ
โดยรวมหุ้นที่นำตลาดคือ กลุ่มธนาคาร (BBL, SCB) หลังจากกำไร 2Q25 ที่ออกมาดีกว่าคาดและเป็นกลุ่มที่ Flow ต่างชาติไหลเข้าต่อ กลุ่มเครื่องดื่ม (OSP) สัญญาณการแข่งขันราคามี สัญญาณผ่อนคลายทางบวก ผสาน จิตวิทยาบวกต้นทุนจากราคา น้ำตาลปรับลง และ วัสดุก่อสร้าง (SCC, TOA) ฯลฯ
กลุ่มที่ปรับลง หลักๆ นำโดยกลุ่มที่มีสัดส่วนรายในกัมพูชา อาทิ SAV
กลุ่ม ICT (ADVANC, TRUE) มองเป็นกลุ่มที่ Outperform ช่วงก่อนหน้า จึง มักถูกขายลดสถานะเปลี่ยนไปลงทุนหุ้นอื่นที่ยังอยู่ในโซนล่าง