ภูมิธรรม ยัน เจรจาหยุดยิง “ไทย-กัมพูชา” มุ่งลดความเสียหายพลเมือง ปกป้องอธิปไตย
ภูมิธรรม ยันเจรจาหยุดยิง ไทย-กัมพูชา มุ่งปกป้องอธิปไตย ลดผลกระทบพลเรือน ไม่เกี่ยวเปิดด่าน มอบทหาร 2 ฝ่ายหาข้อยุติ
วันที่ 28 ก.ค. 2568 ที่ประเทศมาเลเซีย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเจรจาหยุดยิงกับทางกัมพูชา ว่า การคุยกันวันนี้ไม่ได้คุยถึงเรื่องการเปิดด่าน แต่คุยเรื่องการหยุดยิงเพื่อลดความเสียหายของพลเมือง และจากนี้จะเข้าสู่กลไกของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee - GBC) ที่ผ่านมาทหารทั้งสองฝ่ายมีบทบาทในการพูดคุยเพื่อหาทางออก และมีความสัมพันธ์กันในฐานะที่ฝึกรบร่วมกันมา
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นไม่สามารถยอมรับได้เพราะต้องยึดถืออธิปไตยของเรา และต้องทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ ส่วนผลสรุปการหารือโดยรวมที่ออกมา ฝ่ายคนกลางคือนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ได้แจ้งให้ทางอาเซียนทราบและทุกฝ่ายดีใจกับข้อสรุปที่ออกมา ขณะที่จีนและสหรัฐอเมริการู้สึกพึงพอใจ ส่วนไทยก็รู้สึกว่าได้ยุติปัญหาเรื่องการสูญเสียชีวิตของพลเมือง
“ขอย้ำว่าไม่ได้ให้ใครรุกล้ำอธิปไตยของประเทศเข้ามาได้ ส่วนเรื่องที่จะต้องคุยกันต่อไปต้องดูว่าจะได้ข้อสรุปอย่างไร โดยให้ทหารเป็นฝ่ายนำหาข้อสรุปในเรื่องนี้”
นายภูมิธรรมกล่าวด้วยว่า ทีมไทยแลนด์ที่เดินทางมาในครั้งนี้ ทั้งกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับการประสานงานจากทุกฝ่ายและจากประชาคมโลก ทั้งประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา จีน และอาเซียน เพราะอยากเห็นการยุติความรุนแรง
เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้พลเรือนสูญเสียชีวิต และความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการพูดคุยครั้งนี้ เชื่อว่าประชาคมโลกเข้าใจเราและรู้ว่าเราเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ ทั้งที่เราพยายามแสวงหาสันติวิธีและวิธีการที่จะทำให้เป็นไปตามกฎหมาย ผลการพูดคุยวันนี้ถือว่าบรรลุข้อตกลงตามที่เราแจ้งที่ประชุมว่าการจะยุติใดๆ ต้องยึดมั่นในผลประโยชน์ของประชาชนไทย ไม่สูญเสียเอกราชของประเทศ และไม่มีอะไรกระทบกระเทือนเรื่องเขตแดนหรืออธิปไตยของประเทศ
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ได้เล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าไทยอยู่มาอย่างสงบ แต่เมื่อเกิดความขัดแย้งตรงนี้ทำให้ลุกลามบานปลาย และเราพยายามหาข้อยุติและการพูดคุยได้ข้อยุติร่วมกันว่าจะไม่พูดเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน ตอนนี้จะพูดถึงเรื่องความเร่งด่วนในการหยุดยิง เพื่อไม่ให้พลเรือนไทยเกิดความสูญเสีย โดยเป้าหมายการเจรจาคือหยุดยิงโดยเร็ว เพื่อทำให้ประชาชนไม่เผชิญกับความยากลำบาก
“ขอย้ำว่าการพูดคุยครั้งนี้ ได้คุยกับทางกองทัพว่าเหตุที่เกิดขึ้นถ้าไม่มีอะไรสูญเสีย เรายินดี เพราะถือว่าอยู่ในจุดที่ปกป้องอธิปไตยของเราได้ ดังนั้นการยุติโดยเร็วจะช่วยให้ชีวิตของประชาชน อย่างน้อย 160,000 คน ที่กำลังระเหเร่ร่อนและพักรักษาตัวอยู่ ไม่มีปัญหา และข้อเสนอที่ให้หยุดยิงทันทีนั้น เราได้หารือกับทางกองทัพในเวลาเที่ยงคืนวันนี้และทุกฝ่ายพอใจ”
โดยเวลา 07.00 น. วันที่ 29 กรกฎาคม กองทัพภาค 1 และ 2 ของไทยจะหารือร่วมกับกองพลของกัมพูชา ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานพูดคุย โดยมอบให้ทหารเป็นผู้สรุปสุดท้าย หากการเจรจาจบลงเรียบร้อย จะประชุมร่วมกับนานาชาติเพื่อเป็นสักขีพยานในการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง