‘พฤติกรรมเดียวกันแท้ๆ แต่ถูกมองไม่เท่ากัน’ ทำไมคนในสังคมเดียวกันมักถูกเหยียด แต่คนอีกกลุ่มกลับได้รับการยกย่อง
เวลาพูดถึงเรื่อง‘การเหยียดเชื้อชาติ’ เรามักนึกถึงการเลือกปฏิบัติกับบุคคลอื่นที่ต่างเชื้อชาติหรือสีผิว แต่หลายครั้งน่าแปลกที่เรากลับรู้สึกถึงสิ่งนั้นกับคนที่อยู่ในประเทศเดียวกันหรือกลุ่มสังคมเดียวกัน
บางครั้งเราเห็นเพื่อนร่วมชาติที่ ‘ถอดเสื้อ’ วิ่งออกกำลังกาย แล้วมีความรู้สึก ‘หมั่นไส้’ หรือรู้สึกว่าเขา ‘ขี้อวด’ แต่พอเปลี่ยนเป็นชาวต่างชาติ (โดยเฉพาะชาวตะวันตก) ทำสิ่งเดียวกัน เรากลับรู้สึกว่า ‘เท่’
บางครั้งเราเห็นเพื่อนร่วมชาติใส่เครื่องแต่งกายบางชนิดแล้วรู้สึกว่า ‘เด๋อ’ แต่พอไปอยู่บนร่างกายชาวต่างชาติ เรากลับรู้สึกว่า ‘ดูดี’
พฤติกรรมนี้เกิดจากหลายเหตุผล ตั้งแต่การเหยียดสีผิวภายในกลุ่มเดียวกัน(Colorism) เช่น ในสังคมเดียวกัน คนอาจมองว่าผิวขาวดีกว่าผิวคล้ำ อันเป็นผลพวงจากอิทธิพลของยุคอาณานิคม หรือการที่คนจากบางภูมิภาค ชนกลุ่มน้อย หรือชนเผ่า จะถูกมองว่าด้อยกว่า แม้กระทั่งเรื่องสำเนียงพูด ภาษา การแต่งตัว ก็เป็นตัวแบ่งชนชั้นอย่างเงียบๆ
เรื่องของการเหยียดชนชั้น (Classism) ก็มีส่วนที่ทำให้เราเหยียดกันเอง เพราะแม้จะเป็นคนสัญชาติเดียวกัน แต่ก็อาจเกิดการดูถูกกันได้จากระดับการศึกษา ฐานะทางการเงิน อาชีพ หรือความเป็น ‘เมือง’ และ ‘ชนบท’
ขณะที่ในแง่ของจิตวิทยาส่วนตัว ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดพฤติกรรมเหยียดกันเอง อันเกิดจาก ‘ความกลัว’ และ ‘ความไม่มั่นคง’ หลายคนจึงดูถูกหรือแบ่งแยก ‘ผู้อื่น’ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีกว่า มีค่า และมีอำนาจ
แล้วทำไมเราถึงชื่นชม ยกย่องคนจากกลุ่มอื่น หรือชนชั้นสังคมอื่น
พฤติกรรมนี้มักเกิดจากสาเหตุตรงข้ามกับการเหยียดคนอื่น และมักเกี่ยวข้องกับอำนาจ ค่านิยมที่ฝังลึก และข้อสำคัญคือ ความอยากเป็นเหมือนกับอีกฝ่าย
ในแง่ของอำนาจและอภิสิทธิ์ เรามักเคารพคนที่มีอำนาจหรือสถานะสูงกว่าโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นคนรวย คนดัง เซเลบ อินฟลูฯ ในสังคม หรือผู้มี ‘สถานะสูง’ ที่มักได้รับการยกย่อง เพราะสังคมจะมองว่า ความสำเร็จคือคุณค่าของมนุษย์ ไม่ต้องพูดถึงอิทธิพลจากสื่อ ที่สร้างภาพว่า คนเหล่านี้คือคนที่ควรเอาเป็นตัวอย่าง ทั้งที่ต้องไม่ลืมว่า เราเห็นคนเหล่านี้แค่จากสิ่งที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อและโซเชียลฯ เท่านั้น
แม้แต่การยกยอ ‘ชาวต่างชาติ’ โดยเฉพาะชาติตะวันตกอย่างที่กล่าวไป ก็เพราะเราคิดว่า พวกเขามาจากสังคมที่มี ‘โอกาส’ หรือ ‘เสรีภาพ’ มากกว่า ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้คือ การดูถูกตัวเองจากภายใน (Internalized Inferiority) หรือการที่เรารู้สึกว่ากลุ่มของเรา ‘ด้อยกว่า’ นั่นเอง
การยกย่องคนกลุ่มอื่นยังสามารถเกิดได้จากสาเหตุของความต้องการไต่ระดับสังคม (Social Mobility) หรือความ ‘อยาก’ เป็นเหมือนเขา เหมือนที่ยกตัวอย่างไปตอนต้น เวลาที่เห็น ‘ชาวต่างชาติ’ โดยเฉพาะตะวันตกถอดเสื้อออกกำลัง แล้วรู้สึกว่าน่าชื่นชม เท่ นั่นอาจเป็นเพราะเรามองว่าพวกเขาอยู่ ‘สูง’ กว่าจึง ‘หวัง’ ว่าจะขยับไปอยู่กับความรู้สึกแบบนั้นได้บ้าง บางคนจึงเกิดพฤติกรรม ‘เลียนแบบ’ โดยการทำตาม เผื่อจะรู้สึกถึงการ ‘ได้รับการยอมรับ’ บ้าง
ดังนั้นแม้จะมาจากชาติเดียวกันหรือสังคมเดียวกัน แต่หากมีความต่างเรื่องภูมิภาค ภาษา หรือชนชั้น ก็อาจโดนเหยียด ดูถูก และถูกมองว่าเป็น ‘คนนอก’ ส่งผลให้เกิดการแบ่งแยกได้เช่นกัน
ความน่ากลัวคือ เมื่อมันรวมกับความรู้สึกของการขาดความ ‘ภาคภูมิใจ’ ในตัวตนของตัวเองที่อยู่ลึกลงไปในจิตใจ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะโครงสร้างทางสังคม ที่ทำให้เกิดการเปรียบเทียบ จึงนำไปสู่การ ‘ยกย่อง’ คนจากกลุ่มอื่นที่เราคิดว่า ‘สูงกว่า’ จนมองข้ามความจริงว่าทุกอย่างก็มีข้อดีและข้อเสียในตัวเองทั้งนั้น
ที่มา:
- https://humanrights.gov.au/our-work/education/why-are-people-racist
- https://www.verywellmind.com/the-psychology-of-racism-5070459