ศบ.ทก. ยันไม่หนุนความรุนแรง หลังมีเหตุทำร้ายทหารกัมพูชา
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 14 กรกฎาคม 2568 เวลา 21.36 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมททำเนียบ 14 ก.ค.- ศบ.ทก. ยืนยันไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง หลังพบเหตุนักท่องเที่ยวทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา ขณะที่ กต.ทำหนังสือประท้วง ปมวัดภูม่านฟ้า มองแอบแฝงการเมือง ลั่นมรดกทางวัฒนธรรมควรเสริมสร้างความสัมพันธ์ มิใช่ทำแบ่งแยก
พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และ นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ประจำวันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2568
โดยพลเรือตรีสุรสันต์ กล่าวถึงกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า ทางฝ่ายไทยได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบความสัมพันธ์กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งได้ดำเนินการกับผู้ก่อเหตุ ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ ตามขั้นตอนกฎหมายของไทยเรียบร้อยแล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง ไม่ว่าฝ่ายใด โดยในช่วงสถานการณ์ที่มีความตึงเครียดและมีการยั่วยุ ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ใช้ความอดทนอดกลั้น
ด้านนางมาระตี กล่าวถึงมิติด้านการต่างประเทศ ยืนยันว่าสถานการณ์ในพื้นที่โดยรวมยังคงสงบเรียบร้อย ไทยยังคงความเข้มงวดในการผ่านแดนเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการดำเนินการอย่างเข้มงวดและมีการงดเว้นด้านมนุษยธรรม
ด้านการต่างประเทศ มีพัฒนาการในด้านการต่างประเทศที่สำคัญ แนวเรื่องการรักษาและปกป้องผลประโยชน์และท่าทีของไทยในเวทีระหว่างประเทศ คือการดำเนินการส่งเสริมภารกิจด้านการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ รัฐบาลจัดตั้งกลไกหลักในเรื่องนี้ คือ ศอ. ปชด.
นอกจากนี้ได้มีการปรากฏในรายงานข่าวฝ่ายกัมพูชาได้หยิบยกในที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 47 โดยระบุว่าวัดภูม่านฟ้า จังหวัดบุรีรัมย์ เลียนแบบนครวัด ภายหลังจากที่ ขณะผู้แทนไทยได้กล่าวถ้อยแถลงโต้ตอบในการประชุมดังกล่าวแล้ว ว่าฝ่ายไทยรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งต่อถ้อยแถลงของฝ่ายกัมพูชาโดยเห็นว่าการกระทำดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ทางการเมืองแอบแฝงและเป็นเรื่องที่ควรมีการหารือในระดับทวิภาคีมากกว่าที่จะหยิบยกในเวทีระหว่างประเทศเช่นคณะกรรมการมรดกโลก ทางการไทยได้ส่งหนังสือประท้วง อย่างเป็นทางการไปที่อยู่เนสโกแล้ว ก่อนย้ำว่าใส่ไทยเชื่อมั่นว่ามรดกทางวัฒนธรรมควรเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนมิใช่นำมาซึ่งความแบ่งแยกซึ่งไทยพร้อมที่จะปรึกษาหารือกับทางฝ่ายกัมพูชาในประเด็นดังกล่าวรวมถึงประเด็นอื่นๆบนพื้นฐานของการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน
นอกจากนี้ฝ่ายไทยยังคงยืนยันจุดยืนเดิมที่จะเจรจาทวิภาคี กับเพื่อนบ้านเพื่อแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดในปัจจุบันผ่านกลไกที่มีอยู่อย่าง JBC มีกำหนดจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ .-316 -สำนักข่าวไทย