ตลาดรับสร้างบ้าน ทรุด “พีดีเฮ้าส์” ยอดขายดิ่ง 1 ใน 4 เซ่นวิกฤตเศรษฐกิจ
ตลาดรับสร้างบ้าน ครึ่งปีแรก 2568 หดตัวรุนแรงจากเศรษฐกิจซบเซา หนี้ครัวเรือนสูง และแบงก์เข้มปล่อยสินเชื่อ พีดีเฮ้าส์เผยยอดขายลดฮวบ 24-25% ดัน Gen X, Y ขึ้นเป็นผู้นำมองโอกาสตลาดบ้านหรู-วัยเกษียณ รับมือปัจจัยลบครึ่งปีหลัง ทั้งสุญญากาศการเมือง ภัยแล้ง และสงครามต่างประเทศ
นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด เปิดเผยภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปี 2568 ว่ามีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปัจจัยหลักมาจากการรุกเข้ามาแข่งขันของกลุ่มดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่และผู้รับเหมาโครงการจัดสรร, ความต้องการสร้างบ้านและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว, และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ทั้งสามปัจจัยล้วนเป็นผลมาจากการปรับตัวของผู้ประกอบการและผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจประเทศที่ซบเซาต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่หดตัว, ค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นไม่สมดุลกับรายได้, ปัญหาหนี้ครัวเรือน, และปัญหาสถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้ ยอดขายบ้านของบริษัทในช่วง 6 เดือนแรกลดลงถึง 24-25% หรือคิดเป็น 1 ใน 4 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว
ครึ่งปีหลังปัจจัยลบรอบด้านเพิ่มแรงกดดัน
นายสิทธิพรวิเคราะห์ถึงทิศทางในช่วงครึ่งปีหลังว่า ธุรกิจรับสร้างบ้านอาจต้องเผชิญกับปัจจัยลบรอบด้านเพิ่มเติม "ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ อาจทำให้รัฐบาลเกิดสุญญากาศระยะหนึ่ง ซึ่งยิ่งเพิ่มความกดดันต่อทิศทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นนักลงทุน"
นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างไทย-กัมพูชายังสร้างความไม่แน่นอนและผลกระทบทางอ้อมต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคธุรกิจการค้าชายแดน
"หากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อก็จะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจไทยในหลายมิติ โดยเฉพาะด้านงานก่อสร้างที่อาจเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน" นายสิทธิพรกล่าวเสริม และยังชี้ให้เห็นถึงปัญหาจากสงครามอิสราเอล-อิหร่านที่อาจสร้างความผันผวนราคาน้ำมัน และทำให้ต้นทุนค่าก่อสร้างปรับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมแผนรับมือ
พีดีเฮ้าส์ปรับโครงสร้างองค์กร ดันคนรุ่นใหม่นำทัพรับมือ AI
จากสถานการณ์ที่กล่าวมา กลุ่มบริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด จึงต้องมีการปรับตัวเพื่อกระชับการบริหารและการตัดสินใจให้รวดเร็วยิ่งขึ้น สอดรับกับการแข่งขันที่ทวีความรุนแรง โดยเฉพาะในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในการจัดการธุรกิจสมัยใหม่ บริษัทฯ ได้เปิดโอกาสให้ผู้บริหารเจนเอ็กซ์และเจนวาย (Gen X, Gen Y) ซึ่งเกิดมาร่วมสมัยกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำองค์กร
พร้อมกันนี้ ได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรและแต่งตั้ง นาวสาวจิราภา สุวรรณสุต ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer: CEO) กลุ่มบริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด และบริษัทในเครือ แทนผู้บริหารรุ่นเบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) รุ่นบุกเบิก ที่จะถอยไปเป็นทีมที่ปรึกษาอยู่เบื้องหลัง
CEO คนใหม่มองโอกาสในตลาดบ้านหรู-วัยเกษียณ
ด้าน นางสาวจิราภา สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ กล่าวว่า แม้ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งปีหลังยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยหลายด้าน แต่ในมุมมองส่วนตัวเห็นว่า "ตลาดสร้างบ้านหรู และบ้านรองรับวัยเกษียณยังเป็นเซกเมนต์ที่น่าจับตา" จึงทำให้มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่หลายรายรุกเข้ามาในตลาดนี้ และคาดการณ์ว่าเซกเมนต์นี้จะมีการแข่งขันที่รุนแรง
สำหรับศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดรับสร้างบ้านต่างจังหวัด แต่จะดำเนินงานด้วยความระมัดระวังควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และดีไซน์ใหม่ๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อตอบโจทย์เทรนด์การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน หรือความต้องการเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เช่น บ้านสำหรับวัยเกษียณ, บ้านประหยัดพลังงาน, บ้านเพื่อสุขภาพ, และบ้านปลอดฝุ่น PM 2.5 รวมถึงโซลูชันต่างๆ
นอกจากนี้ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ยังมุ่งเน้นบริการที่ครอบคลุมมากขึ้นหรือ "วันสต๊อปเซอร์วิส" อาทิ บริการด้านการออกแบบตกแต่งภายใน-สวน-สระว่ายน้ำ และระบบ Smart Home เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในยุคปัจจุบัน
"พีดีเฮ้าส์เรามองเห็น 'โอกาส' และยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดบ้านกลุ่มที่เตรียมชีวิตในวัยเกษียณ ซึ่งบริษัทฯ มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการโดยเน้นคุณภาพสูงสุด และพร้อมจะปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง"