"จักรภพ" แจงไทยถูกรุกราน ย้ำยังไม่เสียแผ่นดิน แต่มีสิทธิ์โต้ตอบตามหลักสากล เดินเกมให้กัมพูชาถูกประณาม
นายจักรภพ เพ็ญแข ที่ปรึกษาของเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา โดยย้ำว่า รัฐบาลไทยมีสิทธิ์ตอบโต้กัมพูชาอย่างเต็มรูปแบบ เพราะสิ่งที่เขาทำกับไทยคือการละเมิดอำนาจอธิปไตยอย่างชัดเจน และละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดน ซึ่งทั้งสองอย่างถือเป็นความผิดตามมาตรฐานสากล ตั้งแต่กฎบัตรสหประชาชาติ ไปจนถึงอนุสัญญาต่างๆ สิ่งสำคัญคือ การตั้งหลักอย่างมั่นคงในการสื่อสารว่า ไทยถูกละเมิดอธิปไตย แต่ยังไม่สูญเสียดินแดน และเรามีสิทธิ์โต้กลับในระดับที่สูงกว่านี้ได้ หากจำเป็น แต่ต้องวางแผนให้แน่น เพื่อกลับมาเป็นผู้ชนะไม่ใช่แค่ในสนามรบ แต่บนเวทีโลกด้วย
“ไทยมีสิทธิ์ในการตอบโต้ตามหลักสากล เพราะกัมพูชาเป็นฝ่ายรุกรานก่อน เขาผิดเต็มประตู และรัฐบาลไทยได้ดำเนินการตอบโต้ไปในระดับหนึ่งแล้ว เช่น การส่งเครื่องบิน F-16 ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเตือนว่าไทยมีศักยภาพในการใช้กำลังที่เหนือกว่า หากจำเป็น แต่เราไม่สามารถตอบโต้แบบไม่ลืมหูลืมตา เพราะต้องรักษาจุดยืนที่ชัดเจนในเวทีระหว่างประเทศ เราต้องเป็นฝ่ายถูก ไม่ใช่ตกเป็นเป้าโจมตีของเพื่อนบ้านหรือมหาอำนาจ” นายจักรภพ กล่าว
นายจักรภพ กล่าวด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศของไทยได้ประสานงานกับนานาประเทศเพื่อผลักดันให้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และจะเปิดประชุมด่วนในวันนี้ โดยได้ยื่นเหตุผลและหลักฐานเพื่อให้การโจมตีของกัมพูชาถูกยกเป็นเรื่องเร่งด่วน” ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในวันนี้
นายจักรภพ กล่าวอีกว่า แม้ประชาชนไทยจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการรุกรานของกัมพูชา ทั้งการเสียชีวิต บาดเจ็บ และความหวาดกลัวใน 5 จังหวัดชายแดน แต่ขอให้แยกให้ชัดเจนระหว่างคำว่าการละเมิดกับการสูญเสีย ซึ่งในขณะนี้เรา ถูกละเมิด อย่างแน่นอน แต่ยัง ไม่ถึงขั้นสูญเสียดินแดนเพิ่มเติมไปจากพื้นที่ทับซ้อน ที่ต้องมีการเจรจาในอนาคต เราจำเป็นต้องตั้งต้นเจรจาอย่างมีหลักการ ไม่ใช่ปล่อยให้สถานการณ์นำพาไปด้วยอารมณ์
ขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยได้บูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ อย่างน้อย 12 กระทรวง อาทิ กระทรวงมหาดไทย ดูแลแนวหลังและการช่วยเหลือประชาชน, กระทรวงกลาโหม ประสานกำลังทหาร กระทรวง อว.: เปิดพื้นที่รองรับผู้อพยพ ซึ่งขณะนี้มีมากกว่า 5,000 คน กระทรวงสาธารณสุข: ประณามการโจมตีโรงพยาบาลไทยว่าเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม กระทรวงการต่างประเทศ เร่งอพยพคนไทยออกจากกัมพูชา กระทรวงดีอีเอสและหน่วยงานข่าวกรอง ประสานข่าวสารอย่างเร่งด่วน
“ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจว่า ไม่มีใครทำตัวเย็นชา ทุกกระทรวงกำลังเคลื่อนไหวอย่างเต็มที่ ทั้งโกรธ แค้น และพร้อมจะโต้กลับ แต่เราต้องใช้สติในการวางหมากระยะยาวเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของชาติ จุดยืนของประเทศไทยคือต้องการให้ กัมพูชาเป็นฝ่ายที่ถูกประณาม ในเวทีระหว่างประเทศ และ ไทยต้องเป็นฝ่ายที่โลกเห็นว่าถูกกระทำซึ่งจะนำไปสู่ชัยชนะในการเจรจาและสงครามทางการทูตในระยะยาว เราไม่ต้องการให้มหาอำนาจแทรกแซง ไม่ต้องการให้เพื่อนบ้านประณามเรา เราต้องการให้ฝ่ายรุกรานคือกัมพูชา ถูกประณามแทน นั่นคือต้นทางของการวางยุทธศาสตร์ให้ถูกต้อง” นายจักรภพ กล่าว
ส่วนกรณีที่ได้มีการถกเถียงกับ น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์ ผู้ดำเนินรายการแฉ วานนี้ (24 กรกฎาคม) นั้น นายจักรภพ กล่าวว่า เป็นประเด็นอธิปไตย จึงไม่ได้อธิบายเพิ่มเติมในขณะนั้น เพราะเกรงว่าจะมีการตัดต่อคลิปเพื่อนำไปใช้ในทางที่ปลุกปั่นผิดเจตนา ทั้งที่ประเด็นนี้สำคัญยิ่ง และจำเป็นต้องอธิบายให้ครบถ้วนตามที่กล่าวแล้วข้างต้น