เฉลยแล้ว "นกพิราบ" ที่กัมพูชา บอกเป็นนกสายลับไทย ที่แท้คืออะไร
"อ.เจษฎ์" ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความเปิดข้อ โดยได้ระบุว่า
"นี่มันนกพิราบแข่งขัน ไม่ใช่นกสายลับ"
วันนี้มีข่าวเรื่องที่ ทางกัมพูชาเผยแพร่ภาพ คนเขมรจับนกพิราบที่มีห่วงขาได้ โดยระบุว่า เป็นนกพิราบสื่อสารที่ติด GPS จากประเทศไทย
ทำเอาจนมีการลือกันไปว่า นี่อาจจะเป็นนกพิราบสื่อสารหรือนกสอดแนมของไทย เพราะมีตัวเลข ตัวหนังสือ และคำว่า Thailand อยู่ที่ห่วงขาด้วย
จริงๆ แล้ว นกที่จับได้และมีห่วงขารหัสแบบนี้ เป็นเครื่องหมายสากลว่าเป็น "นกพิราบแข่งขัน" ครับ !
ตัวเลขและตัวหนังสือบนห่วงวงแหวนที่ขา จะช่วยในกรณีที่นกเกิดบินหลงทางไป แล้วมีคนจับได้ จำได้ว่ามาจากการแข่งขันสนามไหน ใครเป็นคนจัด นกตัวไหน ของใคร
จากในรูป ห่วงวงแหวนที่ขานก น่าจะเขียนว่า CHA 2024 Thailand (ส่วนเลขประจำตัวนก มองไม่เห็นในภาพ) แสดงว่าน่าจะเป็นนกพิราบที่ร่วมงาน แข่งขันนกพิราบบินเร็ว จัดโดยสมาคมสร้างสรรค์นกพิราบบินเร็วในนานาชาติในประเทศ (CHA) ปี 2024
ถ้าเป็นรหัสอื่น ก็จัดโดยสมาคมอื่น เช่น สมาคมนกพิราบแข่งนานาชาติ (RPIA)
เสริมเรื่องแนวทางในการดูแลนกพิราบแข่งขันที่หลงทาง ด้านล่างนี้ครับ
นกพิราบแข่งขันนั้น บางครั้งมันจะลงมาพักผ่อนระหว่างการแข่งขัน หรือฝึกซ้อมซึ่งสามารถระบุตัวตนได้จากวงแหวนหมายเลขที่ขา
ถ้าบังเอิญไปเจอมันแถวบ้าน เกาะอยู่บนหลังคา หรือบนต้นไม้ แล้วอยากจะช่วยให้อาหารและน้ำแก่นก โปรดอย่าให้ขนมปังแก่นกพิราบแข่ง แต่ให้เมล็ดพืชสำหรับนก หรือคอนเฟลกบด และน้ำในภาชนะก้นลึก
ถ้าหากนกพิราบได้รับบาดเจ็บ อาจจำเป็นต้องบรรจุนกไว้ในกล่องกระดาษแข็ง หรือกล่องใส่สัตว์ขนาดเล็ก เพื่อป้องกันนกจากสัตว์นักล่าอื่นๆ ไม่ให้นกได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม และป้องกันไม่ให้มันบินหนีไป
ให้จับนก โดยค่อยๆ เข้าใกล้ แล้วคลุมผ้าขนหนูผืนใหญ่ไว้ แล้วค่อยๆ หยิบขึ้นมา .. นกพิราบแข่งคุ้นเคยกับการถูกจับอยู่แล้ว
ตรวจสอบว่านกพิราบมีหมายเลขวงแหวนที่ขาหรือไม่ และจดบันทึกหมายเลขวงแหวนไว้ หากไม่มีวงแหวนที่ขา แสดงว่าอาจเป็นนกพิราบป่า