ย้อนฟังคำ “หลวงตามหาบัว” ลั่นวาจา “โทรศัพท์มือถือ คือ เพชรฆาตสังหารพระ”
กรณีข่าวฉาววงการพระสงฆ์ กับสีกากอล์ฟ ที่ทำเอาพุทธศาสนิกชนหลาย ๆ คนเริ่มรู้สึกหมดศรัทธากับวัด และพระเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบนั้น ยิ่งสืบสวนก็ยิ่งฉาว
ขณะเดียวกันสื่อก็มีหน้าที่ที่จะต้องนำเสนอประเด็นดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนได้ทราบความคืบหน้าของคดีว่าจะจบลงเช่นไร โดยในรายการ โหนกระแส ตอน นารีพิฆาตพระ EP.4 (15 ก.ค. 68) ได้มีการเชิญ กิ๊ก มยุริญ ดาราดังผู้เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา รวมถึง ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา หรือ มหาหมี รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม มานั่งพูดคุยในรายการ โดยช่วงหนึ่ง มหาหมี ได้พูดถึงคำสอนของ “หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน” ว่า “หลวงตามหาบัวเคยพูดเอาไว้เมื่อปี 2541 ว่า โทรศัพท์จะทำลายคณะสงฆ์ จะทำลายพระ”
จากการสืบค้นพบว่าในเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 หน้าเพจเฟซบุ๊ก ตามรอยธรรมหลวงตามหาบัว ได้เคยโพสต์คลิปของ “หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน” ขณะเทศนาสอนธรรมแก่ลูกศิษย์ลูกหา แต่ไม่ได้มีการระบุรายละเอียดเกี่ยวกับวันเดือนปีของคลิปดังกล่าวเอาไว้ คาดว่าน่าจะเป็นปี พ.ศ. 2541 ตามที่ มหาหมี ได้พูดเอาไว้ในรายการโหนกระแส โดย หลวงตามหาบัว ได้พูดถึง โทรศัพท์มือถือ ว่า เป็นตัวบ่อนทำลายคณะสงฆ์ทั้งวัด ถือเป็นเพชรฆาตเบอร์หนึ่ง
“พอพูดถึงเรื่องโทรศัพท์นี่สะเทือนใจมากนะพูดจริง ๆ นี่ตัวทำลายพระ-เณรในวัดแหลกหมดเลย โทรศัพท์มือถือเป็นเพชรฆาตเบอร์หนึ่ง เริ่มมาตั้งแต่หนังสือพิมพ์, วิทยุ, โทรทัศน์, วิดีโอ แล้วเข้ามาถึงโทรศัพท์มือถือ เป็นเพชรฆาตสังหารพระให้ฉิบหายต่อหน้าต่อตา อันนี้พิลึกมากนะ คืบคลานเข้ามา หลักศาสนา หลักธรรมวินัยไม่มีแล้วเวลานี้มันกลืนไปหมด น่าทุเรศจริง ๆ
ทำไมถึงอยากกันขนาดนี้นะพระเรา อยากแบบไม่ลืมหูลืมตา เป็นบ้ากันสด ๆ ร้อน ๆ วิ่งหายศ วิ่งหาลาภ ความดีไม่หา บวชเข้ามาเพื่อศีลเพื่อธรรมตามหลักพุทธศาสนา เพื่อความพ้นทุกข์ นี่บวชเข้ามาหายศหาลาภ หาความร่ำรวย หาชื่อเสียง หาหนังสือพิมพ์ หาวิทยุ หาโทรทัศน์ หาโทรศัพท์มือถือเข้ามาตัดคอกัน พระกำลังกำเริบเสิบสาน ไม่รู้จักบุญจักบาป เหยียบหัวพระพุทธเจ้าทั้งนั้น พูดแล้วสลดสังเวช มันหน้าด้านจริง ๆ นะพระทุกวันนี้ ด้านจนไม่มองอะไรเลย…”
ประวัติ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นพระภิกษุคณะธรรมยุติกนิกาย เจ้าอาวาสองค์แรกของวัดป่าบ้านตาด (วัดเกษรศีลคุณ)
หลวงตามหาบัว เกิดวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2456 ตรงกับวันอังคาร ขึ้น 11 ค่ำ เดือนเก้า(9) ปีฉลู ณ ตำบลบ้านตาด อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เมื่อท่านอายุครบอุปสมบทแล้วตัดสินใจออกบวช เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2477 ที่วัดโยธานิมิตร ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้ฉายาทางธรรมว่า “ญาณสมฺปนฺโน” แปลว่า “ถึงพร้อมแล้วด้วยญาณ”
ก่อนออกบวช ท่านกล่าวกับมารดาว่า “เรื่องการบวชจะบวชให้ แต่ว่าใครจะมาบังคับไม่ให้สึกไม่ได้นะ บวชแล้วจะสึกเมื่อไหร่ก็สึก ใครจะมาบังคับว่าต้องเท่านั้นปีเท่านี้เดือนไม่ได้นะ” ซึ่งมารดาก็ตกลงตามที่ท่านขอ เนื่องจากก่อนหน้านี้ หลวงตามหาบัว ปฏิเสธการบวชทำให้พ่อและแม่ถึงกลับน้ำตาตก และการร้องไห้ของพ่อแม่ในวันนั้น ทำให้ท่านตัดสินใจใหม่อีกครั้ง
ท่านได้บรรลุธรรมขั้นสูงสุดในวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 แรม 14 ค่ำ เดือน 6 เวลา 5 ทุ่มตรง บนหลังเขาซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวัดดอยธรรมเจดีย์ จังหวัดสกลนคร
ต่อมาปีพ.ศ. 2498 หลวงตามหาบัว ได้เริ่มก่อตั้งวัดป่าบ้านตาดขึ้น เนื่องจาก โยมแม่ป่วยเป็นอัมพาต และได้พามารักษาที่นี่ เมื่อหายขาดแล้ว ท่านเห็นว่าโยมแม่อายุมากจึงไม่อยากให้ไปอยู่อย่างลำบากในถิ่นทุรกันดารตามที่ท่านจะไป ประจวบกับเวลานั้นชาวบ้านตาดมีความประสงค์ให้ท่านตั้งวัดขึ้นที่นั่นเช่นกัน ต่อมาเมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2513 กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศตั้งขึ้นเป็นวัดในพระพุทธศาสนา โดยให้ชื่อว่า “วัดเกษรศีลคุณ”
หลวงตามหาบัว เกิดอาพาธด้วยอาการลำไส้อุดตัน และปอดติดเชื้อมานานกว่า 6 เดือน คณะแพทย์ถวายการรักษาอย่างต่อเนื่อง และมีการสร้างกุฏิปลอดเชื้อให้แก่พระเดชพระคุณ แต่อาการอาพาธไม่ดีขึ้น จนเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 02.49 น. ตรวจพบสมองของพระเดชพระคุณหยุดทำงานใน ต่อมา ตรวจพบม่านตาขยายไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองที่ฝ่ามือฝ่าเท้า ออกซิเจนในเลือดเป็น 0 จากนั้นเวลา 03.53 น. ความดันโลหิตมีค่าเป็น 0 หัวใจหยุดเต้นและหยุดการหายใจ จึงเป็นอันมรณภาพ สิริอายุได้ 97 ปี 5 เดือน 18 วัน 76 พรรษา
เป็นที่รู้จักในฐานะพระนักปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานผู้มีปฏิปทาที่มั่นคง แน่วแน่ เด็ดขาด และจริงจัง บรรดาศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่มั่นต่างนับถือกันว่าท่านเป็นลูกศิษย์องค์หนึ่งที่มีปฏิปทาที่คล้ายคลึงกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต การกล่าวขวัญถึงท่านในหมู่ผู้ศรัทธามีหลายเรื่องค่อนไปในเชิงอภินิหาร เช่น การล่วงรู้วาระจิตของบุคคลอื่น การที่เศษผม เศษเล็บ และชานหมากของท่านกลายเป็นพระธาตุไปตั้งแต่ครั้งท่านยังมีชีวิตอยู่ เป็นต้น
หลังวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2540 หลวงตามหาบัว เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในและนอกประเทศ จากการที่ท่านได้ดำเนินการทอดผ้าป่าทองคำและเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้ชื่อ “โครงการผ้าป่าช่วยชาติ โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน” เพื่อใช้เป็นทุนสำรองของประเทศไทย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ลูกศิษย์ยัน ‘พระอาจารย์คม’ ไม่ใช่ศิษย์ ‘หลวงตามหาบัว’ ไม่เคยบวชวัดป่าบ้านตาด
- ประวัติ ‘พระอาจารย์คม อภิวโร’ เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมคีรี ศิษย์หลวงตามหาบัว
อ้างอิงจาก : โหนกระแส, FB ตามรอยธรรมหลวงตามหาบัว, th.wikipedia