"สีกากอล์ฟ" กรรโชกทรัพย์-แบล็กเมล์-ร่วมฟอกเงิน ครบ พบ 385 ล้าน หมุนเวียนเหลือแค่ 8 พัน ! ** ยุบ 6 พรรคการเมือง “เลขาฯกกต.” จะยื้อไปถึงเมื่อไร !?
ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ "สีกากอล์ฟ" กรรโชกทรัพย์-แบล็กเมล์-ร่วมฟอกเงิน ครบ พบ 385 ล้าน หมุนเวียนเหลือแค่ 8 พัน !
ตอนนี้พอได้ยินชื่อ “สีกากอล์ฟ” ทีไร ใจชาวพุทธถึงกับหล่นวูบ แม้พระแท้ยังมีมากมายในแผ่นดิน แต่เจอข่าวในช่วงนี้เข้าไปศรัทธาก็สั่นคลอนแทบทรุด
โดยในตอนนี้ มีพระที่เชื่อมโยงกับเธอ ได้ลาสิกขาไปแล้วทั้งหมด 9 รูป จาก 13 รูป ที่มีเส้นเงินเกี่ยวพัน และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสพเมถุนและ เชื่อว่ายังไม่น่าจะหยุดเพียงเท่านี้ เพราะมีความเป็นไปได้สูง ว่าจะยังมีพระอีกจำนวนหนึ่ง ที่ยังไม่ได้ออกมาแสดงตัวออกมาเท่านั้น
ยิ่งจากการขยายผลจาก กรณีพระเทพวชิรปาโมกข์ ที่ปัจจุบันป็น “ทิดอาชว์” กับ “สีกากอล์ฟ” กระทั่งนำมาสู่การจับกุม "สีกากอล์ฟ" จับกุม น.ส.วิลาวัลย์ เอมสวัสดิ์ อายุ 35 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลาง ในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.147 ร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน รับของโจร ยิ่งอึ้งกันทั้งบาง
ฟังจากปากของ "บิ๊กเต่า" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.เปิดเบื้องหลังความแสบของ"สีกากอล์ฟ" ว่า "ทิดอาชว์" อดีตพระระดับเจ้าคุณ เคยมีความสัมพันธ์กับสีกาคนนี้ ในช่วงกลางปี 2567 ก่อนจะห่างกันไปเพราะฝ่ายหญิงขอ “ค่าเลี้ยงดูลูก” แบบมัดมือชก สูงถึง 7.2 ล้านบาท! ตกเดือนละ 30,000 บาท ยาว 20 ปีเต็ม!
“ทิดอาชว์” จ่ายไม่ไหว ก็เลยถอยห่าง แต่ฝ่ายหญิงไม่ถอยง่ายๆ แถมจากการขุดลึก ยังพบเส้นทางการเงินของเธอพัวพันกับวัดอีกหลายแห่ง โดยเฉพาะ วัดชูจิตฯ ที่มีการโอนเงินจากเจ้าอาวาสเข้าบัญชีส่วนตัว แล้วจ่ายให้ "สีกา" แบบ "อ่อนต่อโลก" !
หลักฐานทางดิจิทัล ที่ฟ้องกันจะๆ
ทั้งมือถือ โน้ตบุ๊กว่า “สีกากอล์ฟ”มีพฤติกรรมทั้งแบล็กเมล์ และกรรโชกทรัพย์จากพระหลายรูป! มีคลิป มีแชต
ที่สำคัญเจ้าหน้าที่พบว่า "สีกากอล์ฟ" มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 385 ล้านบาทใน 3 ปี แต่วันนี้เหลือติดบัญชี แค่ 8,000 บาท หลังจากถอนไปใช้จ่ายและฟาดหมดไปกับ "เว็บพนันออนไลน์" ที่มือหนักไม่เบา บางตาเล่นสูงสุดถึง 5 แสนบาท !
ฟังว่าเรื่องนี้ ผบ.ตร. “พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์” ได้กำชับ และสั่งการให้ดำเนินการกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้ต้องหา หรือพระสงฆ์ โดยให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
"บิ๊กต่าย" ยืนยันว่า ต้อง “เช็กบิล” ทุกกลุ่ม ไม่เว้นแม้แต่ผ้าเหลือง จะเป็นพระหรือใคร ถ้าผิดก็ต้องรับกรรม ไม่มีข้อยกเว้น ไม่มีอภิสิทธิ์!
ตอนนี้ที่แน่ๆ ฝ่ายอดีตพระลาสิกขาแล้ว 9 รูป จาก 13 รูป ที่เกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟรายนี้ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ พระที่มีสัมพันธ์เชิงชู้สาวและเสพเมถุน ,พระที่มีพฤติกรรมใกล้ชิดไม่เหมาะสม และ พระที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง อยู่ระหว่างการคัดกรอง
เมื่อกระแสปาบกรรมเริ่มหมุน! ใครที่เคยคิดว่าเรื่องจะจบแค่สึก…ก็คงต้องคิดใหม่ เพราะตอนนี้มีศูนย์บำรุงพระพุทธศาสนา เปิดรับเบาะแสจากประชาชนแบบลับๆ พร้อมคัดแยกพระดี-พระเสีย อย่างเข้มข้น เพื่อคืนความศรัทธาให้วงการสงฆ์
งานนี้ไม่ใช่แค่ "สีกากอล์ฟ" ที่ถูกลากเข้าสนามกรรม…แต่พระที่เคยเดินผิดทาง ก็กำลังโดนไล่บี้กันเป็นแถว วงในเขาว่า กงล้อกฎหมายเพิ่งเริ่มหมุนเท่านั้น ใครเป็นใคร จะรอดหรือจะร่วง !? โปรดติดตามตอนต่อไป
++ ยุบ 6 พรรคการเมือง “เลขาฯกกต.” จะยื้อไปถึงเมื่อไร !?
วันก่อน มีรายงานข่าวว่า คณะกรรมการสอบสวน กรณีมีผู้ร้องขอให้ กกต. พิจารณาสั่งยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม จากกรณี “ทักษิณ ชินวัตร” กระทำการครอบงำ ชี้นำ และ 6พรรคการเมือง ก็ยินยอมให้ ทักษิณ ครอบงำ ชี้นำ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้ “เศรษา ทวีสิน” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยข้อหาผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีตั้ง “ทนายถุงขนม” พิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี
วันนั้น (14 ส.ค.67) แกนนำ 6 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา และพรรคประชาชาติ ได้เข้าไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อหารือกับ “ทักษิณ” ในการตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และในที่สุดก็ได้ “แพทองธาร ชินวัตร” มาเป็นนายกรัฐมนตรี
การกระทำของ “ทักษิณ” ถูกสังคมทั่วไปมองว่า นี่เป็นการครอบงำพรรคการเมืองอย่างชัดเจน และ 6 พรรคร่วมรัฐบาล ก็ยอมให้ “ทักษิณ” ชี้นำ ครอบงำ เสียด้วย
จึงมีหลายคนนำเรื่องนี้ไปร้องต่อ กกต. ประกอบด้วย 1. ผู้ที่ระบุว่าเป็น “บุคคลนิรนาม” 2. “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” ประธานพรรคไทยภักดี 3. “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และ 4.“นพรุจ วรชิตวุฒิกุล” อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 …. ขอให้ยุบ 6 พรรคการเมือง
ตามรายงานข่าวบอกว่า คณะกรรมการสอบสวน จะสรุปสำนวนส่งให้ “แสวง บุญมี” เลขาฯกกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง พิจารณา ในวันที่15 ก.ค. 68 ว่า จะตีตก ยกคำร้อง หรือส่งเรื่องให้กกต.ชุดใหญ่ พิจารณา ยุบ 6 พรรคดังกล่าว
แต่เมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) ทางสำนักงาน กกต. ได้ออกเอกสาร ชี้แจงว่า รายงานข่าวนั้น “ไม่เป็นความจริง” เพราะ ขณะนี้ คณะกรรมการสอบสวน อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ยังไม่ได้เสนอให้ เลขาฯ กกต.พิจารณา ตามที่เป็นข่าว
พร้อมกันนี้ทางสำนักงาน กกต. ก็ได้ชี้แจงถึงขั้นตอนการทำงาน ตั้งแต่รับเรื่องร้องเรียน ไปจนถึงขั้นตอนที่เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม กกต.ชุดใหญ่ ว่าต้องผ่านขึ้นตอนใดบ้าง โดยสรุปแล้วมี 6 ขั้นตอน คือ
1. เมื่อมีเรื่องร้องเรียนเข้ามา นายทะเบียนพรรคการเมือง จะมอบหมายให้พนักงาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น ว่ามีข้อเท็จจริง พฤติการณ์ พยานหลักฐาน หรือข้อมูล เพียงพอที่จะรับไว้ดำเนินการหรือไม่ ขั้นตอนนี้ต้องเสร็จภายใน 7 วัน
2. เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่า มีหลักฐาน หรือข้อมูลเพียงพอที่จะรับไว้ ดำเนินการ ก็เสนอเรื่องต่อ นายทะเบียนพรรคการเมือง ถ้านายทะเบียนฯ เห็นด้วยที่จะรับไว้ดำเนินการ ก็จะตั้งบุคคล หรือคณะสอบสวน ทำหน้าที่รวบรวมข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน
3. ให้คณะสอบสวน ทำหน้าที่รวบรวมข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน พร้อมทำความเห็น เสนอต่อนายทะเบียนฯ พิจารณาโดยเร็วแต่ไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับเรื่องไว้ดำเนินการ หากไม่แล้วเสร็จ ก็ขอขยายระยะเวลาได้ ครั้งละไม่เกิน 30 วัน จนกว่าจะแล้วเสร็จ (ไม่กำหนดจำนวนครั้ง)
4. หากคณะสอบสวนเห็นว่าไม่มีหลักฐาน หรือข้อมูลเพียงพอที่จะรับไว้ดำเนินการต่อไปได้ ให้เสนอต่อนายทะเบียนฯ ถ้านายทะเบียน เห็นพ้องก็จะสั่ง ไม่รับไว้ดำเนินการ หรือยุติเรื่องไป
5. ถ้านายทะเบียนพรรคการเมือง เห็นว่าไม่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดทำผิดกฎหมายพรรคการเมือง ให้ยกคำร้อง หรือยุติเรื่อง หรือ อาจสั่งให้รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็ได้
6. เมื่อนายทะเบียนฯเห็นว่ามีหลักฐาน อันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมือง กระทำการตาม มาตรา 92 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วย พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ให้เสนอ กกต.พิจารณายุบพรรค โดยให้ กกต.พิจารณาให้แล้วเสร็จ ภายใน 30 วัน หาก กกต.ไม่เห็นชอบ ตามความเห็นของนายทะเบียนฯ ก็ให้ยกคำร้อง หรือยุติเรื่อง แต่ถ้า กกต.เห็นชอบตามความเห็นของนายทะเบียนฯ ก็ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้นต่อไป
ตอนนี้ การทำงานเพิ่งมาถึง ขั้นตอนข้อที่ 3 คือ อยู่ในชั้นคณะกรรมการสอบสวน รวบรวมข้อเท็จจริง พยาน หลักฐาน และได้ขอขยายเวลาการทำงานครั้งละ 30 วัน ซึ่งก็ขอไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
นี่ก็เกือบจะครบปีแล้ว เรื่องยังมาไม่ถึงมือ “แสวง บุญมี” เลขาฯ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง
หรือ เป็นเพราะว่า ใน 6 พรรคการเมือง ที่ถูกร้อง มีพรรคภูมิใจไทย ของ“อนุทิน ชาญวีรกูล” รวมอยู่ด้วย
จึงมีการตั้งข้อสังเกตกันว่า เป็นเพราะ “บุรีรัมย์คอนเนกชัน” หรือเปล่า จึงทำให้เรื่องนี้ ยังถูกดองอยู่แค่ชั้นคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน
คอยดูกันว่า เรื่องจะมาถึงมือ “แสวง บุญมี” เมื่อไร เมื่อมาถึงแล้วจะถูกสั่งให้กลับไปหาข้อมูลหลักฐานมาเพิ่มเติมอีก หรือ จะยกคำร้องให้ยุติเรื่องไปเลย หรือจะเสนอที่ประชุม กกต. พิจารณายุบพรรค!
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO