โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

POP: จาก Jean Harlow ถึง Sydney Sweeney สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ซับซ้อน ของ ‘สตรีผมบลอนด์’ ใน Pop Culture

BrandThink

เผยแพร่ 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ในวัฒนธรรมป๊อปร่วมสมัยมักมีทัศนคติอย่างหนึ่งที่เหมารวมว่าผู้หญิงผมบลอนด์คือผู้หญิงที่มีเสน่ห์ เซ็กซี่ มีความยั่วยวนทางเพศ และล่าสุดจากดราม่าของ‘ซิดนีย์ สวีนีย์’ (Sydney Sweeney) ในโฆษณา American Eagles ก็ทำให้กระแส ‘สาวตาฟ้าผมบลอนด์’ กลับมาเป็นที่ถกเถียงอีกครั้ง

สิ่งที่น่าสนใจคือ ผู้หญิงผมบลอนด์มักถูกดันให้ขึ้นมามีบทบาทสำคัญและโดดเด่นในวัฒนธรรมกระแสหลัก แต่ในหลายครั้งพวกเธอมักถูกมองผ่านสายตาโลมเลีย เสมือนเป็นวัตถุทางเพศ และถูกประเมินค่าต่ำผกผันกับชื่อเสียงและกระแสดราม่าที่พุ่งสูงขึ้น

หากมองย้อนกลับไปจริงๆ แล้ว ‘ผม’ ของผู้หญิงมีพลังเชิงสัญลักษณ์มายาวนาน ตั้งแต่ตำนานกรีก เทพีอะโฟรไดที (Aphrodite) เทพีแห่งความรักและความงาม ก็มักถูกพรรณนาว่ามีเรือนผมสีทองอร่าม อันเป็นต้นแบบของความงามในอุดมคติ ในขณะที่ เมดูซา (Medusa) หญิงสาวที่มีเส้นผมเป็นงู ก็เป็นตัวแทนของรูปลักษณ์อันน่าสะพรึงกลัวและพลังอำนาจอันตรายของผู้หญิงที่แสดงออกผ่านเส้นผมเช่นกัน พลังของเส้นผมยังถ่ายทอดผ่านงานศิลปะยุควิกตอเรียนที่มักวาดภาพหญิงงามกับผมลอนสลวย สะท้อนถึงเสน่ห์ลึกลับและน่าค้นหา

เมื่อมาถึงช่วงยุคแรกของฮอลลีวูด เวลานั้นภาพลักษณ์ของนักแสดงหญิงสุดเซ็กซี่มักจะเป็นสาวผมเข้มที่เรียกว่า ‘Vamp’ มีความโดดเด่นในภาพยนตร์เงียบช่วงยุค 1920s แต่จุดเปลี่ยนสำคัญมาถึงเมื่อเทคโนโลยีการถ่ายทำและการฟอกสีผมที่ทำให้ ‘ผมบลอนด์แพลตินัม’ กลายเป็นไอคอนทางวัฒนธรรมป๊อปขึ้นมาส่องประกายโดดเด่นบนฟิล์มขาวดำ

สตรีผมบลอนด์คนแรกที่สร้างปรากฏการณ์และกลายเป็นต้นแบบของสเตอริโอไทป์‘ผมบลอนด์ = เซ็กซี่’ หรือ ‘Blonde Bombshell’ คือ จีน ฮาร์โลว์ (Jean Harlow) ในช่วงทศวรรษ 1930 เธอคือภาพแทนของผู้หญิงเซ็กซี่ที่เต็มไปด้วยพลังดึงดูดทางเพศ ซึ่งภาพลักษณ์นี้ก็ได้ถูกส่งต่อไปยัง มาริลิน มอนโร (Marilyn Monroe) ในยุค 1950s ที่ตอกย้ำและขยายภาพจำนี้ให้กลายเป็นไอคอนระดับโลก

ภาพลักษณ์ของ Blonde Bombshell มักถูกเชื่อมโยงกับตัวละครประเภท‘Femme Fatale’ ในภาพยนตร์ฟิล์มนัวร์ (Film Noir) ที่มักฉายภาพหญิงสาวงดงามผู้เย้ายวนและนำพาหายนะมาสู่ทุกคนที่เธอมีความสัมพันธ์โรแมนติกด้วย

นอกจากนั้น บทบาทของมอนโรในภาพยนตร์เรื่อง‘Gentlemen Prefer Blondes’ (1953) ยังสร้างอีกหนึ่งภาพเหมารวมคือ ‘Dumb Blonde’ หรือ ‘สาวผมบลอนด์ที่สวยแต่โง่’ อันเป็นภาพจำที่ทั้งถูกชื่นชมในความงาม แต่ก็ถูกดูแคลนในสติปัญญาไปพร้อมกัน

อย่างไรก็ตาม หนังสือ ‘British Blonde: Women, Desire and the Image in Postwar Britain’ ที่เขียนโดยนักประวัติศาสตร์วัฒนธรรม วิเคราะห์ว่าผู้หญิงผมบลอนด์กลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ซับซ้อน ทั้งความไร้เดียงสา ความสวยงาม และเสน่ห์ที่อันตราย ทำให้สตรีผมบลอนด์ในวัฒนธรรมป๊อปถูกตีความทั้งในทางชื่นชมและถูกเหยียดไปพร้อมกัน

เมื่อมองในเชิงอุดมการณ์ความงามแบบตะวันตก (Western Beauty Standards) โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวคิดเรื่องความเหนือกว่าของคนขาว (White Supremacy) ผมบลอนด์ตาฟ้ามักถูกนำเสนอให้เป็นความงามในอุดมคติสูงสุดของเชื้อชาติอารยัน หากแต่ส่งผลกระทบต่อบรรทัดฐานความงามในสังคมอย่างลึกซึ้งและเป็นวงกว้าง

ในยุคหลังสงคราม เพื่อหลีกหนีจากความแร้นแค้น ผู้หญิงผิวขาวในอังกฤษหลายคนมองว่าการย้อมผมสีบลอนด์คือหนทางสู่ชีวิตอันหรูหราลักชูรี ไม่เพียงเท่านั้น วัฒนธรรมบริโภคนิยมจากฝั่งอเมริกาที่หลั่งไหลเข้ามายังได้เน้นย้ำพลังของผู้หญิงผมบลอนด์ให้รุนแรงขึ้นไปอีก อย่างโฆษณาสีผมของแบรนด์ Clairol ที่มีสโลแกนว่า “If I’ve only one life, let me live it as a blonde!” เป็นการกระตุ้นให้ผู้หญิงเปลี่ยนตัวเองเพื่อไขว่คว้าชีวิตที่ดีและมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นด้วยผมสีบลอนด์

อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงที่ย้อมผมบลอนด์เหล่านั้นก็ต้องทุ่มเทอย่างมากเพื่อรักษาลุคที่โดดเด่นนี้ไว้ การดูแลรักษาสีผมที่ต้องทำซ้ำอย่างสม่ำเสมอสะท้อนถึงความพยายามที่จะสร้างและรักษาภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบ และมันสื่อถึงความสวยงามที่จำเป็นต้องปรุงแต่งไปพร้อมๆ กัน

แม้ว่ายุคหลังสังคมจะเปิดกว้างและพยายามทลายภาพเหมารวมต่างๆ แต่สัญลักษณ์ของสาวผมบลอนด์ยังคงทรงอิทธิพลและถูกนำมาตีความใหม่อยู่เสมอ ทั้งในโลกภาพยนตร์ ดนตรี และวงการบันเทิง เช่น ในยุค 80s-90s ‘มาดอนนา’ (Madonna) ได้หยิบภาพลักษณ์สาวผมบลอนด์มาบิดเบือน เพื่อท้าทายขนบสังคม เธอจำลองภาพของมาริลิน มอนโร ในมิวสิกวิดีโอ ‘Material Girl’ แต่เปลี่ยนบริบทจากหญิงสาวที่รอคอยผู้ชาย มาเป็นผู้หญิงที่ควบคุมเกมและใช้เสน่ห์ของตนเป็นเครื่องมือสู่ความสำเร็จ เปลี่ยนคำจำกัดความของสาวผมบลอนด์ที่เคยถูกมองว่าเป็นวัตถุทางเพศ ให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของพลังหญิงที่มีสิทธิในร่างกายและอิสรภาพทางเพศของตนเอง

ในขณะที่ ‘บริตนีย์ สเปียร์ส’ (Britney Spears) ในยุค 2000s ก็ได้ฉายภาพสาวผมบลอนด์ไร้เดียงสาแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ร้อนแรง ทำให้ Blonde Bombshell ยังคงมีพลังดึงดูดในวงการเพลงและวัฒนธรรมป๊อป โดยชุดนักเรียนที่เธอใส่ในมิวสิกวิดีโอ ‘…Baby One More Time’ ได้สร้างภาพจำแบบเด็กสาวยั่วสวาท ทำให้บริตนีย์กลายเป็น Sex Object อย่างเลี่ยงไม่ได้ กระทั่งนำไปสู่การถูกคุกคามจากสื่ออย่างหนักในช่วงหนึ่ง

ในขณะเดียวกัน เราก็จะเห็นความพยายามทลายภาพเหมารวมในช่วงเวลานั้น เช่น ภาพยนตร์เรื่อง ‘Legally Blonde’ (2001) ที่นำแสดงโดยรีส วิเธอร์สปูน (Reese Witherspoon) ที่พยายามหักล้างและทวงคืนภาพลักษณ์สาวผมบลอนด์ ด้วยการนำเสนอตัวละครที่ฉลาด มีความสามารถ และใช้ภาพลักษณ์ภายนอกให้เป็นประโยชน์เพื่อต่อสู้กับอคติที่ว่า ‘ผู้หญิงผมบลอนด์สวยแต่โง่’

แต่อย่างที่ได้เกริ่นไปในช่วงต้นว่า ภาพลักษณ์ของสาวผมบลอนด์กำลังกลับมาโดดเด่นและทรงพลังอีกครั้งในช่วงหลายปีให้หลังมานี้ เช่น ซิดนีย์ สวีนีย์ (Sydney Sweeney) หรือ ซาบรีนา คาร์เพนเตอร์ (Sabrina Carpenter) ที่เรียกได้ว่าทั้งคู่ต่างเป็นไอคอนิก มีชื่อเสียงโดดเด่นอย่างมากในทางของตัวเอง

แต่ดูเหมือนว่าแนวคิด Blonde Bombshell ยังคงไม่หายไปจากวัฒนธรรมป๊อป ดังที่เราจะเห็นว่าซิดนีย์ สวีนีย์ มักถูกมองเป็น Sex object อย่างชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากบทบาทที่เธอได้รับ สื่อและสาธารณชนที่มักพูดถึงรูปร่างของเธอมากกว่าความสามารถทางการแสดง มีการสร้างมีม คอมเมนต์ในโซเชียลมีเดีย และบทวิจารณ์ที่เน้นไปที่ร่างกายของเธอเป็นหลัก อันเป็นการลดทอนคุณค่าในฐานะนักแสดงของเธอ และทำให้เธอกลายเป็นเป้าสังคม ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องไปเสียหมด

ในทางกลับกัน ซาบรีนา คาร์เพนเตอร์ (Sabrina Carpenter) แม้ว่าในผลงานหลายชิ้นของเธอจะแสดงออกถึงความปรารถนาทางเพศอย่างชัดเจน แต่ภาพลักษณ์ของเธอกลับแตกต่างจากซิดนีย์อย่างสิ้นเชิง เพลงฮิตของเธออย่าง ‘Espresso’ หรือ ‘Nonsense’ มีเนื้อหาที่ยั่วยวนและสนุกสนาน แต่ก็เต็มไปด้วยความฉลาดและไหวพริบ เธออาจกำลังแสดงออกว่าเธอไม่ได้ถูกใครทำให้เป็นวัตถุทางเพศ แต่เป็นตัวเธอเองที่เลือกใช้เสน่ห์ของตนเพื่อแสดงออกถึงความมั่นใจ คล้ายกับที่มาดอนนาเคยทำ แต่เป็นในแบบฉบับของ Gen Z

อย่างไรก็ตาม จากที่เล่ามาทั้งหมด เราจะเห็นว่าสาวผมบลอนด์อาจไม่ได้เป็นเพียงสีผม หากแต่เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ถูกฝังรากมาอย่างยาวนาน ความเป็นบลอนด์ถูกตีความ ท้าทาย และถูกสร้างสรรค์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกยุคสมัย ตั้งแต่สัญลักษณ์แห่งความงาม ไปจนถึงบทบาทที่เต็มไปด้วยอำนาจและความซับซ้อนทางเพศ แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ ไม่ว่าจะกี่ยุคสมัย ผู้หญิงยังคงถูกประเมินค่าและตัดสินจากสายตาแบบใดแบบหนึ่งอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสายตาชื่นชม หรือสายตาที่ลดทอนคุณค่า ความเป็นหญิงยังคงเชื่อมโยงกับความคาดหวังและอคติของสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก BrandThink

POP: เมื่อการกลับมาของเหล่าเจ้าพ่อ Oasis, Blur, Pulp สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ หรือนี่คือการเริ่มต้นยุคใหม่ของ Britpop?

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

MOODY: แค่กอดกันเบาๆ ก็เปลี่ยนวันที่หนักหนา ให้เบาลงได้

11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความบันเทิงอื่น ๆ

โธ่พี่ปอง! "แพรรี่" พูด 70:30 จน "สมปอง" น้อยใจ ไม่ใช่ว่าแบ่งใจไม่เชื่อพี่

คมชัดลึกออนไลน์

ก้อย อรัชพร ตอบชัด สถานะความสัมพันธ์ ท็อป ทศพล หลังเพื่อนชงให้คบกัน

News In Thailand

“จ๊ะ นงผณี” เปิดตัวแฟนหนุ่มโปรไฟล์ไม่ธรรมดา บอกเลยรวยมาก!!

daradaily

‘พอร์ช ศรัณย์’ เผยเหตุผลห่าง ‘ภรรยา’ ยอมรับเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกคนเดียวฟูลไทม์!

เดลินิวส์

ก้อย อรัชพร เผย ท็อป ทศพล ไม่ได้เดินหน้าจีบ เพื่อนชงหนักมาก หากจะข้ามขั้นต้องใช้เวลา

Khaosod

ดราม่าซับหน้าเคลียร์จบ ณิชา ขอโทษ หมาก-คิม แล้ว

TeeNee.com

รักนะจุ๊บๆ! “พี่แจ็ค” JACKSON WANG ส่งคลิปถึงแฟนไทย พร้อมระเบิดพลังเดือดจักรวาล MAGICMAN 2 เวทีไทยสะเทือนแน่!

new18

“หนุ่ม กรรชัย” จับมือพันธมิตร มอบถุงยังชีพ 2,000 ถุง ส่งต่อกำลังใจให้กองทัพในพื้นที่ชายแดน

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...