เสียของที่สุดในโลก! ส่วนนี้ของ "สับปะรด" ที่มักถูกทิ้ง จริงๆ แล้วมีสรรพคุณสารพัด
สับปะรดส่วนที่ถูกทิ้งไป กลับมีประโยชน์มากมาย ช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันมะเร็ง และดับกระหายคลายร้อนได้อย่างดีเยี่ยม
ไม่ใช่แค่เนื้อใน แต่ส่วนที่คนมักจะทิ้งไปของสับปะรดก็สามารถนำมาทำเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพได้ ช่วยทั้งป้องกันมะเร็งและยังช่วยลดความดันโลหิตได้อีกด้วย
ตามที่ ประธานมูลนิธิผู้ป่วยมะเร็งไต้หวัน ระบุ สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง รสชาติหวานอมเปรี้ยว และอุดมไปด้วยเอนไซม์ที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิตามินบี 1 และ กรดซิตริก ในสับปะรดช่วยส่งเสริมการเผาผลาญ เพิ่มความอยากอาหาร และลดความเหนื่อยล้า
ส่วน วิตามินซี มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น นอกจากนี้ โพแทสเซียม ในสับปะรดยังช่วยควบคุมความดันโลหิตและบำรุงหัวใจได้อีกด้วย
งานวิจัยในยุโรปยังชี้ให้เห็นว่าการบริโภคผลไม้ที่มีเอนไซม์เป็นจำนวนมาก จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้ โดยเฉพาะ เอนไซม์บรอมีเลน (Bromelain) ที่พบในสับปะรด ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องการย่อยอาหารเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของระบบทางเดินหายใจ จอประสาทตา ข้อต่อ และแม้กระทั่งการอักเสบของเนื้อเยื่อผิวหนัง
ประธานมูลนิธิผู้ป่วยมะเร็งไต้หวัน แนะนำว่า แทนที่จะทิ้ง"เปลือกสับปะรด" สามารถนำมาต้มเป็นเครื่องดื่มได้ แต่ควรใช้เฉพาะสับปะรดออร์แกนิก เพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมีตกค้าง
วิธีการคือ นำเปลือกสับปะรดไปล้างให้สะอาด แช่น้ำแล้วล้างผ่านน้ำไหลประมาณ 2-3 นาที จากนั้นนำไปสะเด็ดน้ำ แล้วตัดส่วนหัวและท้ายออก ให้เหลือแค่ส่วนเปลือก นำเปลือกใส่หม้อ เติมน้ำให้ท่วมเปลือก 2 เท่า ต้มให้เดือดแล้วหรี่ไฟลง เคี่ยวต่ออีก 20 นาที เมื่อน้ำเย็นลงก็จะได้ "น้ำเปลือกสับปะรด" ที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และดื่มง่าย
เครื่องดื่มจากเปลือกสับปะรดนี้เชื่อกันว่ามีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ช่วยขับปัสสาวะ, ดับกระหายคลายร้อน, ช่วยระบบย่อยอาหาร, แก้แฮงก์, ลดความดันโลหิต, ลดการอักเสบ และที่สำคัญคือช่วยป้องกันมะเร็ง นอกจากนี้ยังสามารถนำเปลือกสับปะรดไปต้มเป็นน้ำซุป เพื่อเพิ่มรสหวานกลมกล่อมตามธรรมชาติให้กับเมนูแกงต่าง ๆ ได้อีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ผู้บริโภคสามารถลองทำตามวิธีง่าย ๆ นี้ เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณค่าทางโภชนาการของสับปะรดได้อย่างเต็มที่ แทนที่จะทิ้งวัตถุดิบอันล้ำค่านี้ไปโดยเปล่าประโยชน์