โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

เสียของที่สุดในโลก! ส่วนนี้ของ "สับปะรด" ที่มักถูกทิ้ง จริงๆ แล้วมีสรรพคุณสารพัด

sanook.com

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Sanook
สับปะรดส่วนที่ถูกทิ้งไป กลับมีประโยชน์มากมาย ช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันมะเร็ง และดับกระหายคลายร้อนได้อย่างดีเยี่ยม

สับปะรดส่วนที่ถูกทิ้งไป กลับมีประโยชน์มากมาย ช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันมะเร็ง และดับกระหายคลายร้อนได้อย่างดีเยี่ยม

ไม่ใช่แค่เนื้อใน แต่ส่วนที่คนมักจะทิ้งไปของสับปะรดก็สามารถนำมาทำเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพได้ ช่วยทั้งป้องกันมะเร็งและยังช่วยลดความดันโลหิตได้อีกด้วย

ตามที่ ประธานมูลนิธิผู้ป่วยมะเร็งไต้หวัน ระบุ สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง รสชาติหวานอมเปรี้ยว และอุดมไปด้วยเอนไซม์ที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิตามินบี 1 และ กรดซิตริก ในสับปะรดช่วยส่งเสริมการเผาผลาญ เพิ่มความอยากอาหาร และลดความเหนื่อยล้า

ส่วน วิตามินซี มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น นอกจากนี้ โพแทสเซียม ในสับปะรดยังช่วยควบคุมความดันโลหิตและบำรุงหัวใจได้อีกด้วย

งานวิจัยในยุโรปยังชี้ให้เห็นว่าการบริโภคผลไม้ที่มีเอนไซม์เป็นจำนวนมาก จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้ โดยเฉพาะ เอนไซม์บรอมีเลน (Bromelain) ที่พบในสับปะรด ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องการย่อยอาหารเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของระบบทางเดินหายใจ จอประสาทตา ข้อต่อ และแม้กระทั่งการอักเสบของเนื้อเยื่อผิวหนัง

ประธานมูลนิธิผู้ป่วยมะเร็งไต้หวัน แนะนำว่า แทนที่จะทิ้ง"เปลือกสับปะรด" สามารถนำมาต้มเป็นเครื่องดื่มได้ แต่ควรใช้เฉพาะสับปะรดออร์แกนิก เพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมีตกค้าง

วิธีการคือ นำเปลือกสับปะรดไปล้างให้สะอาด แช่น้ำแล้วล้างผ่านน้ำไหลประมาณ 2-3 นาที จากนั้นนำไปสะเด็ดน้ำ แล้วตัดส่วนหัวและท้ายออก ให้เหลือแค่ส่วนเปลือก นำเปลือกใส่หม้อ เติมน้ำให้ท่วมเปลือก 2 เท่า ต้มให้เดือดแล้วหรี่ไฟลง เคี่ยวต่ออีก 20 นาที เมื่อน้ำเย็นลงก็จะได้ "น้ำเปลือกสับปะรด" ที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และดื่มง่าย

เครื่องดื่มจากเปลือกสับปะรดนี้เชื่อกันว่ามีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ช่วยขับปัสสาวะ, ดับกระหายคลายร้อน, ช่วยระบบย่อยอาหาร, แก้แฮงก์, ลดความดันโลหิต, ลดการอักเสบ และที่สำคัญคือช่วยป้องกันมะเร็ง นอกจากนี้ยังสามารถนำเปลือกสับปะรดไปต้มเป็นน้ำซุป เพื่อเพิ่มรสหวานกลมกล่อมตามธรรมชาติให้กับเมนูแกงต่าง ๆ ได้อีกด้วย

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ผู้บริโภคสามารถลองทำตามวิธีง่าย ๆ นี้ เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณค่าทางโภชนาการของสับปะรดได้อย่างเต็มที่ แทนที่จะทิ้งวัตถุดิบอันล้ำค่านี้ไปโดยเปล่าประโยชน์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก sanook.com

รู้หรือไม่ คนไทยเพิ่งมีเลข 13 หลัก เมื่อ 40 กว่าปีก่อน แล้วก่อนหน้านั้นระบุตัวตนกันยังไง?

28 นาทีที่แล้ว

"นิวเคลียร์" โพสต์ต้อนรับสมาชิกใหม่ของบ้าน เปิดตัวน้องสาวของ "พี่ไทก้า"

30 นาทีที่แล้ว

สถิติหวยสัญจร 1/9/68 สลากสัญจร จ.ตราด งวดนี้ 1 กันยายน เลขผู้ว่าฯ ตราด เริ่มเกลี้ยงแผง

56 นาทีที่แล้ว

สถิติหวย งวด 1 กันยายน ย้อนหลัง 20 ปี เลขเด็ด แนวทางหวยงวด 1/9/68

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

แหล่งก๊าซมีเทนในชั้นถ่านหินใหญ่สุดที่จีน มีผลผลิตรายวันทะลุ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร

เดลินิวส์

ดราม่าสนั่น! พระเอกดัง พูดติดตลกกับนักแสดงสาว กลางงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องใหม่ (ข่าวต่างประเทศ)

News In Thailand

อิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลในกาซา มีผู้เสียชีวิตแล้ว 20 ราย รวมถึง 5 ผู้สื่อข่าว

เดลินิวส์

‘ไหหลำ’ ประเมินความเสียหาย ‘ไต้ฝุ่นคาจิกิ’ พัดผ่าน กระทบประชาชนกว่า 1 แสนคน

The Bangkok Insight

ทำความรู้จัก “กาไล” หมู่บ้านในทิเบต หลุดพ้นความยากจน ด้วยเศรษฐกิจดอกพีช (คลิป)

เดลินิวส์

‘ลาว’ จับตา ‘ไต้ฝุ่นคาจิกิ’ เคลื่อนเข้าใกล้ คาดกระทบหลายพื้นที่ถึง 31 ส.ค.นี้

The Bangkok Insight

สลด สาวบราซิลวัย 22 ดับหลังตรวจนิ่ว คาดแพ้สารทึบแสงรุนแรงตอนทำซีทีสแกน

Thaiger

นักศึกษาสาวโดนแมงป่องต่อยในห้องลองเสื้อแบรนด์ดัง ต้องหามส่งโรงพยาบาล

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

เตือนภัย "ท่านอน" เสี่ยงอัมพาต หนุ่มวัย 19 ทำเป็นนิสัย เลือดคั่งกดทับไขสันหลัง

sanook.com

อุทาหรณ์ หนุ่มวัย 27 ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย หลังกิน "เมนูเดิม" ทุกคืน อาหารโปรดคนไทย!

sanook.com

เผย 6 สัญญาณมะเร็ง ที่ร่างกายส่งออกมา สามารถสังเกตได้ง่ายๆ แค่ยืนส่องกระจก

sanook.com
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...