ธ.ก.ส. จับมือ วว. หนุนเกษตรกรไทยด้วยนวัตกรรม สร้างมูลค่าเพิ่มสู่มาตรฐานสากล
ธ.ก.ส. ร่วมกับ วว. ลงนาม MOU ความร่วมมือทางวิชาการ เพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรสู่มาตรฐานสากล พร้อมสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุน-ชูความสำเร็จ ข้าวพร้อมทานอุ่นอิ่ม
21 ส.ค. 2568 นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าวว่า ธ.ก.ส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐที่วิสัยทัศน์ในการเป็น “ธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน” ให้ความสำคัญกับการยกระดับลูกค้าให้มีความแข็งแรง ตามแนวทางในการเป็นแกนกลางการเกษตร (Essence of Agriculture) ด้วยการสนับสนุนทั้งในด้านเงินทุน องค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม การตลาด และการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์
ขณะเดียวกัน ยังร่วมมือกับ วว. มาอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ การถ่ายทอดองค์ความรู้และนวัตกรรม การสนับสนุนเกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) เช่น การสร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัยให้กับผลผลิตทางการเกษตรด้วยการ Repackage และ Redesign พัฒนาและยกระดับสินค้าของลูกค้าเพื่อสร้างแบรนด์ชุมชนไปสู่การเป็นสินค้าเกษตรมูลค่าสูง (Glam Agro)
โดยความสำเร็จล่าสุดที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมจากความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงาน คือ ผลิตภัณฑ์ข้าวพร้อมทานตรา“อุ่นอิ่ม” จากสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้าธ.ก.ส ร้อยเอ็ด จำกัด (สกต.ร้อยเอ็ด)
ซึ่งเกิดขึ้นจากการวิจัยและเทคโนโลยีการแปรรูปด้วยมาตรฐานความปลอดภัยผ่านกระบวนการนำผลผลิตข้าวสารหอมมะลิ GI ทุ่งกุลาร้องไห้ไปสู่การเป็นข้าวพร้อมทาน โดยใช้เทคโนโลยีการฆ่าเชื้อด้วยความร้อน (Retort Technology) จนนำมาสู่ข้าวพร้อมทานคุณภาพดี อร่อย ได้มาตรฐาน สามารถเก็บในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 18 เดือน โดยไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในตู้เย็น
ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มเปิดจำหน่ายข้าวพร้อมทานตรา “อุ่นอิ่ม” ทั้งประเภทข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้อง และข้าวไรซ์เบอร์รี ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 ถึงปัจจุบัน มียอดส่งจำหน่ายได้แล้วมากกว่า 43,000 ถ้วย คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.29 ล้านบาท
และผลิตภัณฑ์เจลลี่มะม่วง จากสวนปทุมทิพย์ จังหวัดลำพูน โดยธ.ก.ส. ได้ร่วมกับ วว. ในการพัฒนาฉลาก (สติกเกอร์) สำหรับติดบนบรรจุภัณฑ์เยลลี่มะม่วง ให้มีรูปแบบที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ น่าสนใจ ทันสมัย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และผู้บริโภคจดจำได้ง่าย
รวมถึงพัฒนาบรรจุภัณฑ์ขนส่งมะม่วงสำหรับการส่งออก ที่แข็งแรง มีประสิทธิภาพในการกันกระแทก เพื่อรักษาคุณภาพและป้องกันไม่ให้มะม่วงได้รับความเสียหายระหว่างการขนส่ง รวมถึงยังมีลวดลายบนกล่องที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน
ด้าน ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า
วัตถุประสงค์สำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้ มิได้จำกัดอยู่เพียงการเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการผลิตและการแปรรูปสินค้าเกษตรเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการยกระดับมาตรฐานสินค้า การพัฒนาช่องทางการตลาด การสร้างมูลค่าเพิ่ม และการต่อยอดงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์อย่างเป็นรูปธรรม ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งทุนและบริการทางการเงินที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของเกษตรกรและผู้ประกอบการในทุกระดับ
นอกจากนี้ ความร่วมมือดังกล่าวยังมุ่งหวังที่จะสนับสนุนให้เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน ได้มีโอกาสพัฒนานวัตกรรมที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ควบคู่กับองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ เพื่อให้สามารถสร้างคุณค่าใหม่ ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและสังคม และยังสามารถต่อยอดสู่การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
อันจะเป็นการสร้างความภาคภูมิใจ ให้แก่ชุมชนท้องถิ่น และเสริมสร้างรากฐานของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในระดับประเทศ วว. และ ธ.ก.ส. จะได้ร่วมกันผลักดันการวิจัยและพัฒนา ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาท้องถิ่น ขยายผลนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์
ตลอดจนสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อยกระดับสินค้าเกษตรไทย สู่มาตรฐานสากล และสร้างความเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืนให้กับเกษตรกรไทย
ทั้งนี้ บันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการและถ่ายทอดเทคโนโลยี ระหว่างธ.ก.ส. และ วว. ในครั้งนี้ ยังรวมถึงการสนับสนุนทางด้านการศึกษา ฝึกอบรม จัดประชุมวิชาการ สร้างเครือข่ายกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ และส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างกัน เป็นต้น
ซึ่งมีกำหนดระยะเวลา 3 ปี โดยมีผู้บริหารจากทั้ง 2 หน่วยงานร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี ณ ห้องประชุมจำเนียรสาร ชั้น 24 เกษตรธนากร อาคารทาวเวอร์ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่