ททท. ปั้น ‘Village to the World’ ชุมชนรายได้โต 20% นักท่องเที่ยวทะลุ 3 หมื่นคน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศความสำเร็จในการขับเคลื่อนโครงการ ‘Village to the World #SustainableAgenda’ตลอดระยะเวลา 2 เดือน โดยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่พื้นที่นำร่อง 5 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก ชลบุรี เชียงใหม่ น่าน และลำปาง รวมกว่า 30,000 คน-ครั้ง สร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับชุมชนเฉลี่ย 20%

ความสำเร็จข้างต้นถือเป็นการยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนจากกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) สู่การเป็นกลไกการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน (ESG Tourism) ที่มีผลลัพธ์เป็นรูปธรรม และเชื่อมโยงการพัฒนาชุมชนเข้ากับเป้าหมายความยั่งยืนของภาคธุรกิจอย่างเป็นระบบ

‘ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์’ ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวเป็นผลจากความร่วมมือภายใต้แนวคิด ‘ESG Partnership for Impact – พันธมิตรเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน’ โดยมีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และองค์กรเอกชนชั้นนำเข้าร่วม เพื่อเชื่อมโยงชุมชนกับตลาดทุน ธุรกิจ และวัฒนธรรมไทยอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมพัฒนาทักษะด้านการจัดการ การตลาด การสื่อสาร และการบริการให้แก่ชุมชนผ่านการทำงานจริงกับบริษัทจดทะเบียนและลูกค้าองค์กร ทำให้ชุมชนได้รับทั้งรายได้ที่เพิ่มขึ้นและองค์ความรู้ที่ทันสมัยสอดคล้องกับความต้องการของตลาด

Village to the World #SustainableAgenda ได้จับคู่ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและชุมชนในแต่ละพื้นที่ ได้แก่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS ทำงานร่วมกับชุมชนบ้านมุงเหนือ จังหวัดพิษณุโลก เพื่อพัฒนาการเกษตรปลอดภัยและระบบบริการชุมชน รวมถึงสร้างมาตรฐานความปลอดภัยต่อเนื่องจากฐานงานของไทยแอร์เอเชีย, บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ร่วมกับชุมชนบ้านอำเภอ จังหวัดชลบุรี เพื่อจัดการขยะและส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ร่วมกับชุมชนบ้านแม่สูนน้อย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยกระดับสู่การเป็นชุมชนดิจิทัลผ่านการตลาดและการสื่อสารยุคใหม่, บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCG จับมือกับชุมชนบ้านป่าแลวหลวง จังหวัดน่าน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนควบคู่กับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และไทยแอร์เอเชียที่ผสานกิจกรรมพนักงานกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นที่บ้านท่ามะโอ-ปงสนุก จังหวัดลำปาง ตามแนวทาง UNESCO Culture | 2030 Indicators

ด้าน ‘ปฏิวัติ ด่านแก้ว’ ที่ปรึกษาชุมชนบ้านมุงเหนือ จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า การเข้าร่วมโครงการนี้ทำให้ผู้นำและสมาชิกชุมชนได้เรียนรู้วิธีการทำงานกับองค์กรจริง ตั้งแต่การทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าไปจนถึงการพัฒนาโปรแกรมการท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ตลาดองค์กร และสามารถวัดผลด้วยมาตรฐานสากล ขณะที่ กัปตันภราดร ขำปรางค์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการการบิน บริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด ยืนยันว่า โครงการนี้ช่วยให้บริษัทสามารถนำผลลัพธ์ไปรวมในรายงาน ESG ได้จริง พร้อมสร้างความผูกพันระหว่างพนักงานกับชุมชน สะท้อนวัฒนธรรมองค์กรผ่านกิจกรรม Journey D ที่พนักงานได้สัมผัสกับมิติความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจแล้ว โครงการยังก่อให้เกิดความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ข้ามอุตสาหกรรม เช่น ความร่วมมือระหว่าง BAFS และไทยแอร์เอเชียที่ชุมชนบ้านมุงเหนือ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากฐานงานเดิมและนำไปสู่โมเดลใหม่ของการท่องเที่ยวเชิง ESG ที่ผสานความรู้ด้านความปลอดภัย การเกษตรอินทรีย์ และการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน ความสำเร็จเหล่านี้ตอกย้ำแนวคิด ‘Change Unknown to Unforgettable’ ที่เปลี่ยนสิ่งไม่คุ้นเคยให้กลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ และยังเป็นการวางรากฐานสำคัญในการสร้างระบบนิเวศความยั่งยืนของประเทศ ที่ชุมชนและภาคธุรกิจสามารถเติบโตไปด้วยกันได้อย่างสมดุลบนเวทีโลก