โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธรรมะ

“อมลวรรณ”กำชับใช้ข้อบังคับคุรุสภาสะสางคดีผู้ประกอบวิชาชีพให้รวดเร็ว

เดลินิวส์

อัพเดต 22 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • เดลินิวส์
“อมลวรรณ” คลี่ข้อบังคับใหม่ “คุรุสภา” ปรับกระบวนการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพรวดเร็วขึ้น - คุ้มครองผู้รับบริการ

เมื่อวันที่ 31 ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า ข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ.2568 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ซึ่งข้อบังคับใหม่นี้ ปรับกระบวนการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพให้มีความรวดเร็ว คุ้มครองผู้รับบริการ และคงมาตรฐานการอำนวยความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ในประเด็นสำคัญ คือ 1.เพิ่มช่องทางการยื่นเรื่องกล่าวหาหรือกล่าวโทษผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ ผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ 2.ปรับกระบวนการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพให้มีความรวดเร็วมากขึ้น 3.ปรับปรุงเงื่อนไขในการพิจารณาวินิจฉัยพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทุกประเภทไว้ก่อน โดยไม่ต้องรอผลการสอบสวน ของคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) เพื่อคุ้มครองผู้รับบริการทางการศึกษาในพฤติกรรมการกระทำความผิดในลักษณะร้ายแรงและเกิดความเสียหายต่อวิชาชีพอย่างร้ายแรง และ 4.ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการสอบสวน โดยให้บุคลากรของหน่วยงานทางการศึกษาทุกสังกัดในพื้นที่จังหวัด ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ด้านกฎหมายและมีประสบการณ์สอบสวน สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นอนุกรรมการและเลขานุการในคณะอนุกรรมการสอบสวนได้

“ จากนี้กระบวนการพิจารณาการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ จะมีความรวดเร็วมากขึ้น ตามที่กำหนดในข้อบังคับ คือ 1.กรณีเรื่องกล่าวหาหรือกล่าวโทษที่สืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว มีมูลเป็นการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพไม่ร้ายแรง และได้แจ้งข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษและสรุปพยานหลักฐานให้ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษทราบ พร้อมทั้งรับฟังคำชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษแล้ว กมว. สามารถพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดให้ ตักเตือน หรือ ภาคทัณฑ์ ตามควรแก่กรณี โดยไม่ต้องดำเนินการสอบสวน (ตามข้อ 16 ของข้อบังคับคุรุสภาฯ) 2.กรณีเรื่องกล่าวหาหรือกล่าวโทษผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ และเป็นกรณีความผิดปรากฏชัดแจ้ง และได้แจ้งข้อกล่าวหา หรือข้อกล่าวโทษ และสรุปพยานหลักฐานให้ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษทราบ พร้อมทั้งรับฟังคำชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษแล้ว (ตามข้อ 72 ของข้อบังคับคุรุสภาฯ) กมว.สามารถพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาด โดยไม่สอบสวน หรืองดการสอบสวนก็ได้ ทั้งนี้ ถือปฏิบัติตามที่ระบุไว้ในข้อบังคับ ”

เลขาธิการคุรุสภา กล่าวต่อไปว่า ข้อบังคับใหม่นี้ได้มีการปรับปรุงเงื่อนไขในการพิจารณาวินิจฉัยพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทุกประเภทไว้ก่อน โดยไม่ต้องรอผลการสอบสวนของ กมว. ในพฤติกรรมของผู้ประกอบวิชาชีพที่กระทำความผิดในลักษณะร้ายแรง ดังนี้ 1.เกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือการค้าประเวณี หรือการค้ามนุษย์ 2.กระทำล่วงละเมิดทางเพศต่อนักเรียน หรือนักศึกษา หรือข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือบุคคลอื่น 3.กระทำอนาจาร หรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ อันเกิดความเสียหายต่อวิชาชีพอย่างร้ายแรงและเป็นที่ประจักษ์ชัด และ 4.กระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์หรือทุจริตต่อหน้าที่ หรือเป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ หรือเป็นคดีฉ้อโกงประชาชน และถูกฟ้องคดีอาญา ซึ่งทั้ง 4 เรื่องนี้ หน่วยงานต้นสังกัดต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ 1.มีคำสั่งลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง 2.มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงและพักราชการหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน หรือให้ออกจากหน้าที่การปฏิบัติงาน และมีการแจ้งข้อกล่าวหาในการดำเนินคดีอาญา หรือ 3.หน่วยงานบังคับบัญชาที่มิใช่ราชการ สั่งให้ออกจากหน้าที่การปฏิบัติงาน และมีการแจ้งข้อกล่าวหาในการดำเนินคดีอาญา

เลขาธิการคุรุสภา กล่าวด้วยว่า หากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาผู้ใดถูก กมว. วินิจฉัยชี้ขาดให้ตักเตือน หรือภาคทัณฑ์ หรือพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพมีกำหนดเวลาไม่เกิน 5 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาต จะมีผลกระทบต่อการประกอบวิชาชีพทางการศึกษาด้วย คือ 1.ถูกบันทึกประวัติการประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพไว้ในระบบสารสนเทศผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เพื่อประกอบการพิจารณาลักษณะต้องห้ามในการขอใบอนุญาตหรือการต่ออายุใบอนุญาต 2.กรณีถูกพักใช้ใบอนุญาต จะมีผลให้ผู้ประกอบวิชาชีพบุคคลนั้นไม่สามารถประกอบวิชาชีพต่อไปจนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาพักใช้ใบอนุญาต และ 3.กรณีถูกเพิกถอนใบอนุญาต จะมีผลให้ผู้ประกอบวิชาชีพบุคคลนั้นต้องออกจากวิชาชีพ

“ คุรุสภา และ กมว. ให้ความสำคัญต่อการพิจารณาฯ ให้มีความรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ และเป็นไปเพื่อคุ้มครองผู้รับบริการทางการศึกษา และดำเนินการเชิงรุก โดยสร้างความตระหนักรู้ในการประพฤติปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ โดยเฉพาะครู และผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มวิชาชีพที่ใกล้ชิดกับนักเรียน พร้อมทั้งขอความร่วมมือหน่วยงานต้นสังกัดของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาทุกสังกัด กำกับดูแล และรณรงค์ส่งเสริมให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาประพฤติปฏิบัติตามจรรยาบรรณของวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง ” เลขาธิการคุรุสภา กล่าว.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

‘พริษฐ์’สวน‘เพื่อไทย’ ท้ายุบสภาฯได้เลยไม่ต้องรอ‘พรรคประชาชน’

17 นาทีที่แล้ว

“กองทุนกีฬาชาติ” เปิดโครงการ “สองเส้นทาง สร้างอนาคต NSDF Next Play Next Step” หวังยกระดับคนวงการกีฬา

17 นาทีที่แล้ว

‘สุนารี ราชสีมา’ โดนวิจารณ์ยับ หลังนุ่งสั้นแนบเนื้อขึ้นเวทีคอนเสิร์ต ถามแรงทำไมกล้าใส่?

22 นาทีที่แล้ว

กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคาร ส.ธ. ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

24 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธรรมะอื่น ๆ

‘รมว.นฤมล’ ขยับแก้กฎหมาย รร.เอกชน อุดช่องโหว่ ม.86 ครูต่างชาติเรียกค่าชดเชย

เดลินิวส์

‘นฤมล’ ขยับแก้กฎหมายโรงเรียนเอกชน หลังครูต่างชาติใช้ช่องโหว่ ม.86 เรียกค่าชดเชย

เดลินิวส์

สพป.กระบี่ รับรายงานตัวครูผู้ช่วย ปี 68 วิชาเอกประถมศึกษา 12 อัตรา

เดลินิวส์

มอบพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชแต่งตั้ง ‘พระพรหมเสนาบดี’ เป็น ‘ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 7’

เดลินิวส์

สพม.บุรีรัมย์ ประชุมเครือข่ายโรงเรียนพอเพียง ชูสมรรถนะอนาคตผู้เรียนสู่การพัฒนายั่งยืน

เดลินิวส์

กิจกรรม ‘TICA Connect’ ครั้งที่10 ชูแนวคิด สร้างศักยภาพคน สู่นวัตกรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลง

เดลินิวส์

สกสว. ถกเป้าหมายหนุนงบประมาณกองทุนววน. มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจสังคมไทย สู่ความสมดุล

เดลินิวส์

รร.บ้านคลองใหญ่ สอนทำปลาดุกร้า-ปลาแดดเดียว ปั้นทักษะชีวิต เสริมรายได้นักเรียน

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...