Boeing เผยภาพเรนเดอร์เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 6 FA-XX ของกองทัพเรือสหรัฐฯ
บริษัท โบอิ้ง (Boeing) สหรัฐอเมริกา เผยภาพเรนเดอร์เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 6 F/A-XX ที่จะถูกนำเสนอให้กองทัพเรือสหรัฐฯ พิจารณาเลือกเข้าประจำการ โดยโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ในครั้งนี้ของกองทัพเรือสหรัฐเพื่อทดแทน F/A-18 Super Hornet ที่ใกล้หมดอายุการใช้งาน
ก่อนหน้านี้โครงการเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 6 F/A-XX เคยเผชิญความไม่แน่นอน เนื่องจากงบประมาณต่ำเพียง 76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.5 พันล้านบาท ขณะที่กองทัพอากาศสหรัฐฯ ใช้งบกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 9.9 หมื่นล้านบาท ในโครงการเครื่องบินขับไล่ F-47
อย่างไรก็ตาม หลังจากบริษัทคู่แข่งอย่าง ล็อกฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) ถอนตัวในเดือนมีนาคม 2025 เนื่องจากล็อกฮีด มาร์ตินต้องการไปโฟกัสกับการพัฒนาเครื่องบินขับไล่รุ่นอื่น
รัฐสภาได้เข้ามาอัดฉีดงบเพิ่มเติม ทั้งจากวุฒิสภาเพิ่ม 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 46,200 ล้านบาท และสภาผู้แทนราษฎรอีก 972 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 32,076 ล้านบาท ส่งผลให้โครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ของกองทัพเรือสหรัฐ กลับมามีความหวังอีกครั้ง
พลเรือโท แดเนียล ชีเวอร์ (Daniel Cheever) แห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ กล่าวย้ำว่าเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 6 F/A-XX เป็นโครงการที่ถูกจับตามองอย่างใจจดใจจ่อ โดยเฉพาะในขั้นต่อไป คือ การคัดเลือกให้เหลือเพียงหนึ่งผู้ผลิตระหว่างโบอิ้ง (Boeing) และนอร์ทรอป กรัมแมน (Northrop Grumman) เพื่อปูทางสู่การผลิตจริง
ภาพเรนเดอร์ล่าสุดถูกเผยแพร่ระหว่างงานประชุม Tailhook Symposium และนำเสนอโดยสำนักข่าวด้านการบินและอวกาศ Aviation Week แสดงให้เห็นเครื่องบินพุ่งทะลุกรวยไอเหนือเสียง หรือปรากฏการณ์ทางอากาศพลศาสตร์ ที่เกิดขึ้นเมื่อเครื่องบินบินด้วยความเร็วใกล้หรือมากกว่า ความเร็วเสียง (Mach 1)
แม้รายละเอียดจะถูกปกปิด แต่ยังสามารถเห็นหัวเครื่องบินและรูปทรงสำคัญบางส่วน ซึ่งชี้ว่า F/A-XX ของโบอิ้งมีสองเครื่องยนต์ ไม่มีหาง เน้นการพรางตัว แต่มีคานาร์ด หรือ ปีกขนาดเล็กที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าของลำตัวเครื่องบิน เสริมความคล่องตัว และออกแบบมาสำหรับการปฏิบัติการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน
เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 6 F/A-XX ถูกวางให้เป็นเครื่องบินที่นักบินต้องรับภารกิจหลายบทบาท ทั้งรบอากาศ-สู่อากาศ โจมตีภาคพื้นดิน รบผิวน้ำ และสนับสนุนทางอากาศใกล้ชิด ด้วยความช่วยเหลือของเทคโนโลยี AI ขั้นสูง สามารถควบคุมฝูงโดรนและเชื่อมโยงข้อมูลผ่านเครือข่ายทั่วโลก
ขณะที่ระบบขับเคลื่อนและพลังงานเชื้อเพลิงของเครื่องบินต้องเพิ่มระยะปฏิบัติการไปอีก 25% เพื่อตอบสนองภัยคุกคามในมหาสมุทรแปซิฟิก และยังสามารถรองรับการติดตั้งขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงและอาวุธพลังงานตรงได้ในอนาคต
แม้กองทัพเรือจะมีท่าทีเชิงบวกต่อโครงการนี้ แต่ความท้าทายยังอยู่ที่ความขัดแย้งด้านงบประมาณระหว่างรัฐสภาและทำเนียบขาว รวมถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศสหรัฐฯ ว่าจะรองรับการผลิตเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่สองแบบพร้อมกันได้หรือไม่ คาดว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รู้จัก “HBTSS” ระบบดาวเทียมติดตามขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ดวงตาบนอวกาศของกองทัพสหรัฐอเมริกา
- จับตาทดสอบ "เครื่องบิน Boeing" รุ่นใหม่ 777X หวังผ่าน FAA ชิงส่วนแบ่ง Airbus A350 ในปี 2026
- เลื่อนปล่อยภารกิจ Ax-4 หลังพบการรั่วของออกซิเจนเหลว (LOx) ขณะตรวจสอบระบบ
- เปิดตัว visionOS 26 พร้อมฟีเจอร์ใหม่ยกระดับ Apple Vision Pro