โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

สศก.เผย เกษตรกรไทยภาคใต้ ครองแชมป์ความสุขสูงสุด 5 มิติ ปี 2567

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นายวินิต อธิสุข รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สศก. ในฐานะหน่วยงานวิเคราะห์นโยบายด้านการเกษตร ได้จัดทำดัชนีความผาสุกของเกษตรกรขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการชี้วัดความสำเร็จของการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกร และเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดของแผนปฏิบัติการด้านการเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2566 - 2570โดยดัชนีดังกล่าวครอบคลุมองค์ประกอบที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของเกษตรกร 5 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสุขอนามัย ด้านการศึกษา ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม

สำหรับภาพรวมระดับประเทศในปี 2567 ดัชนีความผาสุกของเกษตรกรมีค่าที่ระดับ81.39 เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 80.79 สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตในระดับดี เมื่อพิจารณาในรายภูมิภาค พบว่าภาคใต้มีค่าดัชนีความผาสุกสูงสุดที่ระดับ 83.04รองลงมาคือภาคเหนือ 82.07 ภาคกลาง 81.48 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 80.51 ซึ่งทุกภูมิภาคล้วนมีการพัฒนาอยู่ในระดับดีเช่นเดียวกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ด้านสุขอนามัยมีค่าดัชนีสูงถึง 99.87อยู่ในระดับ "ดีมาก" และใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า เป็นผลจากพฤติกรรมการบริโภคของครัวเรือนเกษตรที่หันมาให้ความสำคัญต่อสุขภาพและความปลอดภัยของอาหารมากขึ้น ประกอบกับนโยบายส่งเสริมของภาครัฐ อาทิ โครงการปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ และการส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรตามมาตรฐาน GAP เกษตรปลอดภัย และเกษตรอินทรีย์

ด้านสังคมมีค่าดัชนี 93.43อยู่ในระดับ "ดีมาก" เพิ่มขึ้นจากปี 2566 เป็นผลจากความสัมพันธ์อันดีของสมาชิกในครัวเรือนเกษตร ประกอบกับภาครัฐได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมสู่สังคมสูงวัย และจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะอาชีพที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ

ด้านเศรษฐกิจมีค่าดัชนี 77.96อยู่ในระดับ "ปานกลาง" แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยผลสำรวจพบว่า รายได้เงินสดสุทธิของครัวเรือนเกษตรในปี 2567อยู่ที่ 308,294บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.90 จากปี 2566ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว

ด้านสิ่งแวดล้อมมีค่าดัชนี 61.46อยู่ในระดับ "ต้องปรับปรุง" และลดลงจากปี 2566สาเหตุหลักมาจากการลดลงของพื้นที่เป้าหมายในการฟื้นฟูทรัพยากรดินและสัดส่วนพื้นที่ป่าไม้ของประเทศ เนื่องจากการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และผลกระทบจากไฟป่าที่เพิ่มขึ้น

ด้านการศึกษามีค่าดัชนี 56.30แม้จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แต่ยังคงอยู่ในระดับ "ต้องเร่งแก้ไข" เนื่องจากครัวเรือนเกษตรส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 50.18เป็นผู้สูงวัย (อายุ 60ปีขึ้นไป) และส่วนใหญ่มีการศึกษาต่ำกว่าภาคบังคับ ทำให้ระดับการศึกษาในภาพรวมยังอยู่ในระดับต่ำ

เมื่อเปรียบเทียบกับค่าดัชนีในช่วงสิ้นสุดแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับก่อนหน้า โดยแผนฯ ฉบับที่ 10 (สิ้นสุดปี 2554) อยู่ที่ระดับ 76.97,แผนฯ ฉบับที่ 11 (สิ้นสุดปี 2559)อยู่ที่ระดับ 80.51,และแผนฯ ฉบับที่ 12 (สิ้นสุดปี 2565)อยู่ที่ระดับ 80.46จะเห็นได้ว่าดัชนีความผาสุกของเกษตรกรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อการพัฒนาในด้านที่ยังต้องปรับปรุง ดังนี้

ด้านการศึกษาสนับสนุนให้เกษตรกรได้รับการศึกษาภาคบังคับอย่างทั่วถึง และส่งเสริมการฝึกอบรมทักษะด้านเทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่ โดยเฉพาะนวัตกรรมที่เหมาะสมกับเกษตรกรสูงวัยด้านสิ่งแวดล้อมส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน ควบคู่กับการสนับสนุนการทำเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และด้านเศรษฐกิจยกระดับรายได้ครัวเรือนเกษตรโดยส่งเสริมการผลิตสินค้าที่เหมาะสมกับศักยภาพของพื้นที่ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุน และการให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการทางการเงิน เพื่อสร้างวินัยและส่งเสริมสุขภาพที่ดีในระยะยาว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

ไร้ข้อสรุปโหวตนายกฯ คนใหม่ “พรรคประชาชน” นัดถกต่อพรุ่งนี้

31 นาทีที่แล้ว

ธ.ก.ส.เริ่มโอนวันนี้ แจกเงินไร่ละ 1,000 เช็กสถานะgovtransfer.baac.or.th

45 นาทีที่แล้ว

กยศ. คำนวณหนี้ใหม่เสร็จรวม 9.8 แสนบัญชี เช็คผ่านแอป ‘กยศ. Connect’

52 นาทีที่แล้ว

LINE หั่นเวลาลบข้อความ Unsend เหลือ 1 ช.ม. จากเดิม 1 วัน มีผล ต.ค. 68

54 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่นๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...