ไร้ข้อสรุปโหวตนายกฯ คนใหม่ “พรรคประชาชน” นัดถกต่อพรุ่งนี้
วันที่ 1 กันยายน 2568 ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคประชาชน (ปชน.)นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.นัดพิเศษ เพื่อหาข้อสรุปท่าทีต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่
นายพริษฐ์ เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้มี ส.ส.เข้าร่วมกว่า 90% หรือประมาณ 90 คน แม้บางส่วนติดภารกิจคณะกรรมาธิการและงานในพื้นที่ เพราะเป็นการประชุมพิเศษในวันจันทร์ บรรยากาศการประชุมเต็มไปด้วยความเห็นที่หลากหลาย หลายคนสะท้อนความกังวลและหนักใจต่อท่าทีของพรรค จึงมีมติให้เลื่อนการตัดสินใจไปหารือในวันรุ่งขึ้น เพื่อให้สมาชิกได้แสดงความเห็นเพิ่มเติม และตกผลึกทางการเมืองอย่างรอบด้าน
นายพริษฐ์ ระบุว่า มี 2 ประเด็นสำคัญที่ที่ประชุมย้ำอย่างชัดเจน คือ
พรรคประชาชนยังยืนหยัดจุดยืนเดิมว่ าทางออกที่ตอบโจทย์ประเทศที่สุด คือ การเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว
พรรคเรียกร้องให้ ยุบสภา มาโดยตลอดตั้งแต่เกิดกรณีคลิปเสียง แม้ผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะเป็น น.ส.แพทองธาร หรือ นายภูมิธรรม จะยังไม่ตอบสนอง
“เรามองว่าการยุบสภา คือคำตอบที่ตรงที่สุด หากรักษาการนายกฯมีอำนาจและตัดสินใจยุบ ก็ถือว่าสอดคล้องกับจุดยืนของพรรค เราพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง แต่หากไม่เกิดการยุบสภา และไม่มีฝ่ายใดรวบรวมเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ก็ต้องใช้กระบวนการโหวตนายกฯ เพื่อนำไปสู่การยุบสภาและเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว” นายพริษฐ์ กล่าว
นายพริษฐ์ ระบุว่า มี 2 ประเด็นสำคัญที่ที่ประชุมย้ำอย่างชัดเจน คือ
พรรคประชาชนยังยืนหยัดจุดยืนเดิมว่าทางออกที่ตอบโจทย์ประเทศที่สุด คือ การเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว
พรรคเรียกร้องให้ ยุบสภาฯ มาโดยตลอดตั้งแต่เกิดกรณีคลิปเสียง แม้ผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะเป็น น.ส.แพทองธาร หรือ นายภูมิธรรม จะยังไม่ตอบสนอง
ทั้งยังเตือนถึงความเสี่ยง 2 ประการ หากพรรคประชาชนเลือก “งดออกเสียง” ในการโหวตนายกฯ ได้แก่
ความเสี่ยงแรก หากฝ่าย “แดง–น้ำเงิน” กลับมาจับมือรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง จะทำให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างมากที่อาจอยู่ครบวาระอีกเกือบ 2 ปี ขัดต่อเจตนารมณ์ของพรรคที่ต้องการเลือกตั้งโดยเร็ว
ความเสี่ยงที่สอง หาก “แดง–น้ำเงิน” ไม่จับมือกัน อาจเปิดทางให้ฝ่ายนอกระบอบประชาธิปไตย เข้ามามีบทบาท ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อระบบการเมืองไทย
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาภายใต้รัฐบาลผสม“แดง–น้ำเงิน” ไม่สามารถผลักดันนโยบายที่ตอบโจทย์ปัญหาประชาชนได้อย่างจริงจัง หลายกรณีสะท้อนการใช้คดีการเมืองเป็นเครื่องมือต่อรอง จึงยืนยันว่า พรรคประชาชนจะไม่สนับสนุนการกลับมารวมตัวกันของสองขั้วนี้ เพราะจะสร้างความเสียหายต่อประเทศทั้งในเชิงเสถียรภาพและความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรม
โฆษกพรรคประชาชน ยังย้ำว่า พรรคยังคงยึด 3 เงื่อนไขหลัก ในการตัดสินใจทางการเมือง ไม่รับเงื่อนไขหรือ MOU ใด ๆ จากพรรคอื่น พร้อมเปิดกว้างให้ประชาชนและผู้สนับสนุนสะท้อนความเห็นต่อ ส.ส.ในพื้นที่ ซึ่งจะถูกนำมาประกอบการพิจารณา
“เราตระหนักดีว่าพรรคประชาชนมายืนอยู่ตรงนี้ได้เพราะความไว้วางใจจากประชาชนกว่า 14 ล้านเสียง เราขอสัญญาว่าจะไม่ใช้ความไว้วางใจนี้ไปแลกกับการเมืองที่ผิดหลักการ ไม่ว่าจะเลือกตั้งใหม่ หรือการโหวตนายกฯ จุดยืนของเราชัดเจนคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด” นายพริษฐ์ย้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พรรคภูมิใจไทยอ้างว่ามีเสียงสนับสนุนรวม 280 เสียง ในการจัดตั้งรัฐบาล โดยรวมเสียงของพรรคประชาชนด้วย แต่แหล่งข่าวในพรรคประชาชน ระบุว่า พรรคมองออกว่าเป็น “เกมการเมือง” ที่ใช้ตัวเลขกดดัน จึงยังไม่แสดงท่าทีว่าจะโหวตเลือกนายกฯ ในฝั่งใด