ทรัมป์เผย มีโอกาสสูงพบปูติน หวังยุติสงครามยูเครน หลังทูตพิเศษสหรัฐฯ เดินทางเยือนกรุงมอสโก
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า มี “แนวโน้มสูงมาก” ที่จะมีการพบหาระหว่างตนกับวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซียในเร็วๆ นี้ โดยหวังว่าอาจนำไปสู่การยุติสงครามในยูเครน ซึ่งยืดเยื้อมาตั้งแต่ปี 2022
ทรัมป์กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ในห้องทำงานรูปไข่ว่า “เรามีการพูดคุยที่ดีมากกับประธานาธิบดีปูติน และมีโอกาสสูงที่การพบกันจะเกิดขึ้นในเร็ววัน” พร้อมระบุว่า “นี่อาจเป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายยาวที่เรากำลังเดินอยู่”
คำแถลงของทรัมป์มีขึ้นหลังจาก สตีฟ วิทคอฟฟ์ ทูตพิเศษของสหรัฐฯ เดินทางไปพบปะกับปูตินที่กรุงมอสโก ซึ่งแม้ผู้นำสหรัฐฯ จะย้ำว่าไม่มี “ความคืบหน้าครั้งใหญ่” จากการหารือครั้งนี้ แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของความพยายามทางการทูตอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวในรัฐบาลยุโรปเปิดเผยว่า ทรัมป์ได้แจ้งต่อผู้นำยุโรปผ่านการโทรศัพท์ว่า เขามีความประสงค์จะพบปูตินโดยเร็วที่สุด อาจเกิดขึ้นภายในสัปดาห์หน้า และต่อด้วยการประชุมสามฝ่ายระหว่างสหรัฐฯ รัสเซีย และยูเครน โดยทำเนียบขาวกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาสถานที่จัดการประชุม
ด้านแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว ระบุว่า “รัสเซียได้แสดงความต้องการพบกับประธานาธิบดีทรัมป์ และท่านก็เปิดรับที่จะพบกับทั้งประธานาธิบดีปูติน และประธานาธิบดีเซเลนสกี โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการยุติสงครามอันโหดร้ายนี้”
แรงกดดันจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
ก่อนหน้าการหารือในมอสโก ทรัมป์ได้ตั้งเส้นตายให้รัฐบาลรัสเซียตอบรับข้อตกลงหยุดยิงภายในสัปดาห์นี้ มิฉะนั้นสหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม โดยเฉพาะการเก็บภาษีนำเข้า 100% ต่อประเทศที่ซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
ขณะที่ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวกับสื่อในวันเดียวกันว่า ประธานาธิบดีจะตัดสินใจว่าจะเดินหน้าคว่ำบาตรเพิ่มเติมหรือไม่ภายใน 24-36 ชั่วโมงข้างหน้า โดยระบุว่าครั้งนี้เป็น “จุดเปลี่ยน” ที่ทำให้สหรัฐฯ เห็นสัญญาณเจรจาจากรัสเซียชัดเจนขึ้นเป็นครั้งแรก
ฝั่งรัสเซียเองได้ให้ข้อมูลกับสื่อท้องถิ่นว่า การหารือระหว่างปูตินกับวิทคอฟฟ์เป็นไปอย่าง “สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์” โดยรอให้วิทคอฟฟ์รายงานผลต่อประธานาธิบดีทรัมป์ก่อนจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม
ส่วนในถ้อยแถลงประจำวัน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน กล่าวหลังได้หารือกับทรัมป์ว่า “ดูเหมือนว่ารัสเซียกำลังโน้มเอียงไปในทิศทางหยุดยิง” พร้อมเตือนให้ระวังว่า “อย่าถูกหลอกในรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นยูเครนหรือสหรัฐฯ”
ภาพ: Photo by Contributor / Getty Images
Photo by Win McNamee / Getty Images
อ้างอิง