เลโก้กำไรครึ่งปีแรกโต 10% ดีสุดเป็นประวัติการณ์ อาศัยป๊อปคัลเจอร์ ดึงฐานลูกค้าหน้าใหม่
กลยุทธ์แตกไลน์สินค้า กระจายไปยังป็อปคัลเจอร์ต่างๆ ทั้งช่อดอกไม้ การ์ตูน จนถึงรถแข่งฟอร์มูลาวัน (F1) ช่วยดันเลโก้ (Lego) ยอดขายโต 12% ในช่วงครึ่งแรกของปี
วันนี้ (27 สิงหาคม) เลโก้รายงานผลประกอบการครึ่งแรกของปีที่ 5.4 พันล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 175,000 ล้านบาท โดยมีผลกำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit) เพิ่มขึ้น 10% YOY เป็นมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 45,000 ล้านบาท
ด้านนีลส์ คริสเตนเซน (Niels Christiansen) ซีอีโอเลโก้ กล่าวว่า นับเป็นผลประกอบการครึ่งแรกของปีที่ดีที่สุด ทั้งด้านรายได้และผลกำไรสุทธิที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ “พวกเราดีใจมากๆ ครับ”
โดยตลอด 6 เดือนแรกของปี ผู้ผลิตของเล่นตัวต่อยักษ์ใหญ่ของโลกได้ปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมา 314 ชุด มากสุดเป็นประวัติการณ์อีกเช่นกัน เลโก้ค่อยๆ แตกแขนงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ไปยังหมวดสินค้าเพื่อการแต่งบ้านมากขึ้น เช่น ภาพติดผนัง หรือ ช่อดอกไม้ ทั้งยังคว้าลิขสิทธิ์ทำของเล่นจากการ์ตูนเรื่องดังอย่าง บลูอี้ (Bluey) และ วันพีซ (One Piece) อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังประกาศความร่วมมือกับ ‘โปเกมอน’ (Pokemon) ซึ่งเตรียมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี 2026
คริสเตนเซนกล่าวถึงแนวทางกลยุทธ์ของไว้ว่า “คุณจะพบสิ่งที่คุณชื่นชอบและสนใจ ป๊อปคัลเจอร์ใดก็ตามที่คุณหลงใหลในผลิตภัณฑ์ของเลโก้ มันได้ผลดีอย่างมากเลยทีเดียว”
นอกจากเพิ่มรายการสินค้าแล้ว เลโก้ยังขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ ด้วย เช่น การแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ไปยังกลุ่มผู้หลงใหลในการจัดดอกไม้ รวมถึงการร่วมมือกับ Epic Games เพื่อนำเลโก้เข้าสู่พื้นที่ของวิดีโอเกม และนำโลกของวิดีโอเกมบางส่วนมาเป็นตัวต่อในชีวิตจริง ซึ่งคริสเตนเซนชี้ว่า เลโก้ Fortnite ช่วยเพิ่มกลุ่มลูกค้าหน้าใหม่ให้กับบริษัทอย่างมาก
ไม่เพียงเท่านั้น ชุดตัวต่อในหมวดช่อดอกไม้ ช่วยดึงลูกค้าหน้าใหม่ให้เลโก้ไม่แพ้กัน “ลูกค้ากลุ่มนี้รู้สึกว่าตัวต่อช่วยเพิ่มสมาธิ และลดความเครียดได้อย่างคาดไม่ถึง เมื่อต่อชุดนึงเสร็จ พวกเขาก็อาจขยับไปหาชุดอื่นๆ มาต่อเพิ่ม” คริสเตนเซนกล่าว
ทั้งนี้ ตลอดครึ่งแรกของปี เลโก้เปิดสาขาใหม่ 24 แห่งทั่วโลก โดยเน้นพื้นที่ซึ่งไม่ได้คุ้นเคยกับเลโก้มากนัก เช่น จีนและอินเดีย ซึ่งเลโก้ทราบมาก่อนแล้วว่า การตั้งหน้าร้านที่เปิดให้เด็กและผู้ใหญ่เข้ามาเยี่ยมชมสินค้าได้ ช่วยดันยอดขายเลโก้ให้เติบโตอย่างเห็นได้ชัด
อ้างอิง: