อ่านเกมเศรษฐกิจโลก เสริมแกร่งพอร์ตลงทุน ในงาน The Turning Point: Strategies For What’s Next [ADVERTORIAL]
“โลกที่เราเคยรู้จัก กำลังเปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ”
นี่คือความจริงที่ชัดเจนจากเวที ‘The Turning Point: Strategies For What’s Next’ เสวนาสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ THE STANDARD WEALTH ร่วมกับ UOB Privilege Banking จัดขึ้นเพื่อลูกค้า UOB Privilege Banking โดยเฉพาะ
เวทีนี้รวบรวมผู้นำจากองค์กรระดับโลกและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ มาร่วมเปิดมุมมองใหม่ เพื่อให้นักลงทุนและนักธุรกิจไทยสามารถ ‘มองเกมให้ออก’ ท่ามกลางคลื่นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก ไม่ว่าจะเป็นนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่พร้อมเขย่าตลาดทุนโลก เศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัวลง ภูมิรัฐศาสตร์ที่เข้มข้น ไปจนถึงโครงสร้างของซัปพลายเชนที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ปี 2025 โลกเปลี่ยนอย่างไร?
นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และบรรณาธิการบริหาร บริษัท เดอะสแตนดาร์ด จำกัดฉายภาพโลกปี 2025 ผ่าน 5 คำสำคัญที่สรุปพลวัตของโลกเศรษฐกิจอย่างชัดเจน
นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และบรรณาธิการบริหาร บริษัท เดอะสแตนดาร์ด จำกัด
- โตพุ่ง:AI และเทคโนโลยีดิจิทัลกำลังเข้ามามีบทบาทอย่างมาก และสร้างโอกาสมหาศาล
- ต้วมเตี้ยม:เศรษฐกิจโลกเติบโตช้าลงกว่าเดิม โดยมีภาษีนำเข้าและสงครามการค้าเป็นตัวเร่ง
- ตายยาก: โลกเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย เปิดโอกาสให้ธุรกิจสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Longevity Tourism) เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
- แตกแยก:ภูมิรัฐศาสตร์กำลังแบ่งโลกออกเป็นหลายขั้ว พร้อมผลักดันให้เกิดการย้ายฐานการผลิต การตั้งกำแพงภาษี และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
- ตื่นรู้:ESG ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์อีกต่อไป แต่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของธุรกิจที่ต้องปฏิบัติ
ภาพนี้ไม่เพียงอธิบายทิศทางของโลก แต่ยังบอกว่า ‘พอร์ตเดิม’ อาจไม่เหมาะกับ ‘โลกใหม่’ อีกต่อไป
จัดพอร์ตอย่างไรให้รอด?
นับตั้งแต่ต้นปี 2025 ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแล้วเกือบ 11% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนอย่างชัดเจนว่า ในโลกการลงทุนวันนี้ ไม่สามารถมองเพียงแค่ ‘ลงทุนในสินทรัพย์อะไร’ ได้อีกต่อไป แต่ต้องพิจารณาด้วยว่า ‘ลงทุนด้วยสกุลเงินใด’ เพราะแม้สินทรัพย์จะให้ผลตอบแทนในเชิงบวก แต่หากไม่จัดการความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเหมาะสม ก็อาจนำไปสู่การขาดทุนโดยไม่รู้ตัว
ในเวทีเสวนา ‘Investment Outlook: Beyond the Horizon – Possibilities in a Changing World’ ผู้เชี่ยวชาญจากหลายสถาบันเห็นพ้องกันว่า การจัดพอร์ตลงทุนในวันนี้ควร ‘ขยับออกจากดอลลาร์’ มากขึ้น
“คุณอาจทำกำไรจากสินทรัพย์ แต่ขาดทุนจากค่าเงินโดยไม่รู้ตัว หากยังลงทุนในดอลลาร์เพียงอย่างเดียว”
Abel Lim Chin Hoe, Personal financial services, UOB Singapore
นี่คือคำเตือนจาก Abel Lim Chin Hoe, Personal financial services, UOB Singapore ที่นำเสนอแนวทางการจัดพอร์ตแบบ Core-Tactical ซึ่งไม่เพียงกระจายประเภทสินทรัพย์ แต่ยังเน้นการกระจายสกุลเงินลงทุนควบคู่กัน Abel Lim Chin แนะนำว่า
- Core Portfolio ควรเน้นกลยุทธ์ Multi-Asset Strategy ผสมผสานกับตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ Investment Grade ซึ่งยังถือเป็นฐานที่มั่นคงของพอร์ต
- Tactical Portfolio ควรเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ ผ่านการลงทุนในหุ้นปันผล หุ้นจีน และทองคำในสัดส่วนราว 5-10% พร้อมมองหาความยืดหยุ่นจากตลาดหุ้นเอเชียที่มีศักยภาพในการรับมือกับความผันผวนจากฝั่งตะวันตกได้ดี
เช่นเดียวกับ Anthony Kruger, CAIA, Senior Investment Strategist for BlackRock Systematic Active Equities, BlackRock ที่มองว่า ตลาดเอเชียยังคงเป็นภูมิภาคที่มีโอกาสในการเติบโต แต่ต้องเข้าใจบริบทของแต่ละประเทศ อุตสาหกรรม และบริษัท เนื่องจากแต่ละพื้นที่มีทั้งโอกาสและความเสี่ยงเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน
Anthony Kruger, CAIA, Senior Investment Strategist for BlackRock Systematic Active Equities, BlackRock
ด้าน Ronald Temple, Chief Market Strategist Financial Advisory and Asset Management businesses, Lazard Asset Management
เห็นพ้องในทิศทางเดียวกันว่า ถึงเวลาแล้วที่นักลงทุนควรขยับออกจากดอลลาร์ เพราะแม้วันนี้ภาพรวมอาจยังดูสงบนิ่ง แต่แรงสะสมจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯกำลังก่อตัวเป็นแรงสั่นสะเทือนลูกใหญ่ในระยะต่อไป
Ronald Temple วิเคราะห์ว่า การปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสหรัฐฯกำลังกลายเป็นปัจจัยเร่งเงินเฟ้อ โดยทุก 1% ของภาษีนำเข้า อาจผลักดันเงินเฟ้อพื้นฐาน (core inflation) ให้สูงขึ้นถึง 0.1% ส่วนหนี้สาธารณะของสหรัฐที่กำลังขยับขึ้นจาก 100% ไปสู่ 125% ต่อ GDP และอาจแตะ 150% ในอนาคต จะส่งผลต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดสหรัฐฯ และอาจเร่งให้เกิดกระแสการไหลออกจากดอลลาร์ในระยะยาว
Ronald Temple, Chief Market Strategist Financial Advisory and Asset Management businesses, Lazard Asset Management
ด้าน Chong Jiun Yeh, Group Chief Investment Officer, UOB Asset Management มองว่า โลกวันนี้เข้าสู่ยุค Multipolar World หรือโลกหลายขั้ว การกระจายการลงทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งกว่าเดิม ไม่ควรพึ่งพาเพียงดอลลาร์อย่างเดียว แต่ควรมีการกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์หลากหลายประเภท โดยเฉพาะทองคำที่ยังคงมีบทบาทสำคัญในพอร์ตการลงทุน
Chong Jiun Yeh, Group Chief Investment Officer, UOB Asset Management
โอกาสยังมีอยู่จริงหรือ?
แม้สถานการณ์จะเต็มไปด้วยความตึงเครียด David Wong, Senior Investment Strategist and Global Co-Head of Equity Business Development, Asia Pacific, AllianceBernsteinชี้ว่า ยังมีสัญญาณเชิงบวกให้จับตา
จากข้อมูลล่าสุดสะท้อนว่า บริษัทจดทะเบียนหลายประเทศทั่วโลกยังมีกำไรและเติบโต ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกระยะยาวสำหรับตลาดหุ้น และแม้ว่าหุ้นสหรัฐฯ จะมีมูลค่าค่อนข้างสูงในเชิงราคา แต่หากเทียบกับคุณภาพของกิจการ ยังถือว่าเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และน่าจับตาต่อไป
David Wong, Senior Investment Strategist and Global Co-Head of Equity Business Development, Asia Pacific, AllianceBernstein
“อย่าปล่อยให้ข่าวพาดหัวบดบังภาพรวมของการลงทุนระยะยาว โอกาสยังมีอยู่เสมอ หากเราโฟกัสว่าธุรกิจที่ลงทุนคือธุรกิจใด กำไรอยู่ที่ไหน” David Wong กล่าวเน้น
แรงสั่นสะเทือนจากจีน กำลังเขย่าไทยด้วยหรือไม่
ไม่ใช่แค่ฝั่งตะวันตกที่กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อระบบเศรษฐกิจโลก แต่เศรษฐกิจจีนเองก็ส่งแรงสะเทือนต่อโลกและไทยไม่แพ้กัน
ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร ผู้อำนวยการศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา และรองคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบายว่า จีนกำลังเผชิญกับสถานการณ์ครั้งใหญ่ซึ่งล้วนกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
จีนกำลังถูกจำกัดขีดความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีจากสงครามเทคโนโลยี (Tech War) กับสหรัฐฯ กระทบต่ออุตสาหกรรมระดับล่าง
จีนยังต้องรักษาเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ระดับ 5% แต่ไม่มีนโยบายกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ จึงหันไปกระตุ้นภาคการผลิตแทน ส่งผลให้เกิดภาวะ ‘สินค้าจีนล้นตลาด’ และกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของผู้ประกอบการรายย่อยทั่วโลก รวมถึง SMEs ไทยโดยตรง
นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ และ ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร
ผู้ประกอบการไทย จะอยู่รอดและเติบโตได้อย่างไร
“โลกไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว นี่คือเกมใหม่ ที่ไม่ใช่แค่ Resilient แต่ต้อง Antifragile”
ดร.อาร์ม เน้นย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่ผู้ประกอบการไทยต้องยอมรับความจริงว่า สงครามการค้าไม่ใช่แค่เหตุการณ์ชั่วคราว แต่คือความจริงใหม่ของโลก การเปลี่ยนโมเดลธุรกิจเพื่อมองหาโอกาสใหม่ในตลาด คือหนทางเดียวที่จะอยู่รอดและเติบโตได้ในเกมเศรษฐกิจต่อไป
ในขณะที่แรงกดดันจากภายนอกยังถาโถม ภาคธุรกิจไทยเองก็เผชิญแรงกระแทกจากมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะ European Union Deforestation Regulation (EUDR) ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อห่วงโซ่อุปทานของสินค้าเกษตรไทย
เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า สิ่งที่ธุรกิจไทยต้องเร่งทำคือการเพิ่มกำลังการผลิต บริหารความเสี่ยง และวางรากฐานธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีโจทย์เร่งด่วนคือการปฏิรูปโครงสร้างด้านการศึกษา กฎหมาย และอุตสาหกรรมการผลิต
เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
สินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เสริมว่า แม้ผู้ประกอบการไทยหลายรายยังอยู่ในฐานะ ‘ผู้ขายวัตถุดิบ’ แต่สิ่งที่ต้องทำคือการยกระดับมาตรฐาน สู่การเป็น ‘ผู้ผลิตเชิงกลยุทธ์’ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว โดยเฉพาะในวันที่กฎ ESG เริ่มลงลึกถึงระดับ supply chain ของโลก
สินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)