แผนห่วยตีกลับไทย! “พิชัย” ทำไม่สำเร็จ “ทรัมป์” รีดภาษี 36%
วันนี้ (4 ก.ค.68) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยระหว่างการเดินทางไปเจรจาเรื่องภาษีกับสหรัฐฯ ว่า ผมขอสรุปการเจรจามาตรการภาษีนำเข้าแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariff) กับสหรัฐฯ ดังนี้ คิดว่าการเยือนสหรัฐฯ ครั้งนี้ เราได้พบทั้งภาครัฐ ซึ่งเป็นระดับนโยบาย และได้พบกับภาคเอกชนที่เป็นบริษัทที่ลงทุนค่อนข้างสูงในประเทศไทย และลงทุนมายาวนาน และอยากอยู่กับประเทศไทยต่อ อีกส่วนหนึ่งซึ่งสำคัญมากจะเกี่ยวกับภาคเกษตรกรของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นภาพที่ระดับนโยบายความสำคัญมาก
นายพิชัยกล่าวว่า เราได้พบกับทั้ง 3 กลุ่มนี้ ทำให้เราได้เข้าใจ ถึงผลของคนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งระดับนโยบายที่จะตัดสินใจ หรือ policy maker เอาปัจจัยเหล่านี้ไปพิจารณาด้วย นอกเหนือจากการยื่นอัตราภาษี
สำหรับประเทศไทย เป็นการพบกันอย่างเป็นทางการในระดับนโยบาย คนแรกที่ได้พบคือ ทูตการค้า ซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงสุดของผู้แทนการค้าสหรัฐ และ ได้มีโอกาสพบกับ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ และได้พบผู้ปฏิบัติและนโยบาย การได้พบกันก็ได้ฟีดแบ็กส่วนที่สำคัญ
ทำให้สหรัฐเชื่อมั่นว่า ไทยเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจมายาวนาน ที่ผ่านมาเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย นอกจากนั้น จะทำให้เราเข้าใจแนวคิดของผู้บริหารระดับสูงว่าลึกๆ ต้องการสิ่งใด เพื่อนำไปประกอบการทำงานต่อไป
“การเจรจาวันนี้ ข้อสรุปคิดว่าเป็นไปด้วยด้วยดี สหรัฐกล่าวขอบคุณ ที่ไทยกระตือรือร้นในการที่เข้าร่วมเจรจา ซึ่งเราได้บอกว่าเราจะรับฟีดแบ็กกลับไปทำข้อเสนอใหม่เพิ่มเติม เพื่อประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย”นายพิชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงาน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า คืนที่ผ่านมา 3 ก.ค.68 มีรายงานว่าประเทศเวียดนามบรรลุข้อตกลงให้สหรัฐฯ เก็บภาษี 20% สำหรับสินค้าเวียดนาม และ 40% สำหรับสินค้าที่ประเทศอื่นส่งออกผ่านเวียดนาม นอกจากนี้ เวียดนามจะเปิดตลาดให้กับสหรัฐฯ โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ซึ่งการบรรลุข้อตกลงนี้คาดหนุนเศรษฐกิจเวียดนามโต 6.7%
โดยเวียดนามได้ยื่นข้อเรียกร้องให้สหรัฐประกาศยกระดับสถานะเป็น “เศรษฐกิจแบบตลาด : Market Economy” ซึ่งปัจจุบันเวียดนามยังอยู่ในสถานะ “ประเทศที่ระบบเศรษฐกิจไม่ใช่แบบตลาด: Non-Market Economy” เปิดช่องให้สหรัฐฯ สามารถใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (AD/CVD) โดยใช้ราคาของประเทศที่มีเศรษฐกิจแบบตลาดเป็นเกณฑ์ในการคำนวนภาษี
ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. เป็นต้นไป เวียดนามจะถูกเก็บภาษี reciprocal ที่ 20% ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 46%ทั้งนี้ การส่งออกเวียดนามคาดเติบโตที่ 6.7% ในปีนี้ โดยมองว่าการส่งออกเวียดนามจะชะลอตัวอย่างมากในครึ่งหลังของปี เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี เพราะการเร่งส่งออกไปยังสหรัฐฯ สิ้นสุดลง พร้อมกับอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นมาที่ 20%