ปิดตำนานเรื่อง ‘ผู้บริหารหลอกมี Naked Short’ หลังก.ล.ต.ลงโทษ
นับตั้งแต่ต้นปี 2568ที่ผ่านมา ทางสำนักงาน ก.ล.ต.ได้มีการตรวจ จับ-ปรับ-กล่าวโทษ ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน-นักลงทุน เป็นจำนวนมาก
มีทั้งที่เป็นการลงโทษแบบปรับเงิน และ การหยุดไม่ให้มีความเกี่ยวข้อง หรือ การสั่งห้ามไม่ให้เกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียน รวมถึงหุ้นตัวนั้น ๆ
หากผู้ลงทุนที่ได้ติดตามข้อมูล จากสำนักงาน ก.ล.ต. อย่างต่อเนื่อง เราจะพบว่า มีหลายเคส ที่เป็นการเฉลย หรือ เป็นคำตอบที่เกี่ยวข้องกับ “ตำนานของ Naked Short” ที่ถูกดำริขึ้นจากการเล่าเรื่องที่ไม่จริงออกมาสู่สาธารณชนในช่วงที่ผ่านมา
โดยนิทานเรื่องนี้ มีอยู่ว่า ผู้บริหารรายหนึ่ง ไปชักชวนให้ บรรดาเศรษฐีทั้งหลาย ที่เรียนหลักสูตรพิเศษ หรือคอร์สที่โด่งดังในอดีต ซื้อหุ้นของตนเอง โดยไปให้ข้อมูลว่า จะมีข่าวดีออกมา
หลังจากที่ซื้อหุ้นไปแล้ว ปรากฏว่ามีแรงเทขายหุ้นตัวดังกล่าว ออกมาอย่างหนัก จนเหล่าบรรดาเศรษฐีที่หวังรวยง่าย ๆ จากการเชื่อคำพูดของผู้บริหาร ต้องโทรไปสอบถามว่าเกิดอะไร!?
คำตอบที่ได้ จากผู้บริหารท่านนั้น คือ “หุ้น ถูกขายโดยไม่มีหุ้น (Naked short selling) จากกองทุนต่างประเทศ”
แต่ในความเป็นจริง คู่สมรสของตนเองต่างหากที่ขายหุ้นออกมา ซึ่งผู้บริหารท่านนั้น ก็รีบเข้าไปเก็บหุ้นที่ถูกทิ้ง ออกมาจนหมด และแคปเจอร์ หน้าจอไปโชว์ให้ดูว่า ตนยังถือหุ้น อยู่ครบ แถมยังช่วยซื้อเพิ่มอีกต่างหาก
หลังจากนั้น ก็นำ story ดังกล่าวไปเพิ่มความน่าเชื่อถือ โดยเล่า ให้ “เซียนหุ้น”รายหนึ่งฟัง ก่อนที่เรื่องราวดังกล่าว จะถูกถ่ายทอดจากเซียนหุ้น ผ่านสื่อ จนกลายเป็นที่กล่าวขวัญ และมีคนที่ไม่รู้เรื่องนำไปอ้างอิง จนเป็นเรื่องราวที่โด่งดังในช่วงปีที่ผ่านมา
ความเชื่อที่ว่า หุ้นต่ำบาท หุ้นนอก SET100หุ้นที่มาร์เก็ตแคป ไม่ถึง 10,000ล้านบาท จะถูกส่งคำสั่งขายผ่านโบรกเกอร์ไทย โดยไม่มีการตรวจสอบการมีหุ้นอยู่ในมือ ก่อนขาย ถือเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ นัก
เนื่องด้วยว่า “คำพูด”ที่ออกจากบุคคลที่เป็นระดับผู้บริหาร และถูกส่งต่อไปยังเศรษฐี ในคอร์สเรียนพิเศษ และถูกถ่ายทอดออกมา ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ แบบชนิดที่ว่า ยากจะปฏิเสธ และสามารถคล้อยตามได้ง่าย โดยเฉพาะคนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง
สบจังหวะ ในช่วงเวลานั้นหลังปิดงบไตรมาส ราคาหุ้นหลายตัว (ไม่ต่ำกว่า 6ตัว) ราคาปรับตัวลดลง แบบ (รายย่อย) ไม่ทราบสาเหตุ แต่เจ้าของบริษัทรู้ จึงเกิดวาทะกรรม การผลิตข้อมูลเรื่อง Naked short ออกมาว่าซ้ำ ๆ อีกว่า เป็นเรื่องจริง
“นิทานเรื่อง Naked short ทุบหุ้น”จึงทำให้มีการมโน และใส่สีตีไข่ และขยายความต่อ โดยโยนความผิดทั้งหมดไปที่ “ทางการ”หรือฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับ การตรวจสอบหุ้น ว่า มีความหละหลวม ทั้ง ๆ ที่ มีการตรวจเข้มอยู่ตลอด และอย่างต่อเนื่อง จากโบรกเกอร์หลายรายต้องออกมาบ่น ว่าจะตรวจอะไรกันนักหนา
โดยประเด็นดังกล่าว ถูกเติมเชื้อไฟโดยเฉพาะ มาจากกลุ่มผู้ลงทุนที่เจ๊งหุ้น โดยไม่ศึกษาพื้นฐานให้ดี รวมถึง ผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน ที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลง ต่างดึงเรื่อง Naked short มาเป็นตัวต้นเรื่อง เพื่อที่จะโบ้ยความผิดออกจากผลประกอบการที่กำลังจะออกมา
โดยเหตุการณ์เหล่านี้ ภายหลังที่ความจริงปรากฏออกมา ความโป๊ะแตก ที่เห็น คือ ผู้บริหารเองต่างหาก ที่เอาหุ้นไปจำนำ ทั้งในและนอกระบบ
โดยปล่อยหุ้นของตนเองให้ร่วงหนัก โดยไม่สนใจจะเข้ามาทยอยซื้อหุ้นตนเองอีกเลย
เท่านั้นยังไม่พอใจนอกเหนือจากการเอาหุ้นไปจำนำแล้ว ถูก บังคับขายออกมา (force sell) จนสุดท้าย ผู้ลงทุนรายย่อย ก็มารู้ทีหลังว่า สาเหตุที่หุ้นเหล่านั้นร่วงหนัก ก่อนงบรายไตรมาสออก เป็นเพราะ ผลประกอบการที่กำลังจะออกมาไม่ดีนั่นเอง
สุดท้าย การปิดตำนาน Naked short ที่กลายเป็นเรื่องต้น จนผู้บริหารท่านนั้นกล่าวอ้าง มาจบเอาตอนที่ สำนักงาน ก.ล.ต.มาเฉลย จากการกล่าวโทษ และปรับเงิน
สำหรับเศรษฐีที่เสียหาย หรือเจ๊งยับ จากหุ้นดังกล่าว ควรจะไปไล่บีบ ทวงความจริง จากผู้บริหารท่านนั้น ว่า แท้จริงแล้วไม่ใช่ Naked short แต่เป็นเพราะ ถูกคนของผู้บริหารขายใส่ต่างหาก และผู้บริหารก็ไปแอบรับหุ้น ตอนที่ไหลลงมา มีหุ้นเท่าเดิม แต่ใช้เงินน้อยลงเยอะ นั่นคือ วิธีทำ Short Against Port (SAP)หาใช่ การถูก Naked shortอย่างที่กล่าวอ้างกัน
อึ้งย้ง