24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 7 กรกฎาคม 2568
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 7 กรกฎาคม 2568
>> รถอเนกประสงค์เสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง ตรวจสอบพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย
08.00 น. รับแจ้งจาก สมาคมพุทธอุปถัมภ์แห่งประเทศไทย มีอุบัติเหตุรถยนต์นั่งส่วนบุคคลพลิกคว่ำลงข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บสาหัส ริมถนน บริเวณบ้านทุ่งส่าย ม.20 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา
ที่เกิดเหตุ พบรถอเนกประสงค์ มิตซูบิชิ สีเทา ป้ายทะเบียน ฉะเชิงเทรา ลักษณะพลิกหงายท้องอยู่ในพงหญ้าข้างทาง ตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทางอาสาสมัครจึงนำร่างออกมาตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุประมาณ 60 - 65 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตะเกียบ
>> ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ สกัดจับกระบะขนต่างด้าวเถื่อน 27 ชีวิต จ่ายค่าหัวเกือบสองหมื่น
09.27 น. พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลหารราบที่ 9 ในฐานะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ร่วมบูรณาการกับ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ ว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามายังพื้นที่ตอนใน จึงได้สั่งการให้ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29 ในฐานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พร้อมด้วย พันเอก ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ นำกำลังพลร่วมกับ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 สภ.ทองผาภูมิ และ ฝ่ายปกครอง อ.ทองผาภูมิ ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณ จุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
กระทั่ง 01.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน บริเวณ จุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ สังเกตพบรถยนต์ต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว แต่ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจะเข้าทำการตรวจสอบนั้น รถยนต์คันดังกล่าวได้ทำการเร่งเครื่องยนต์หลบหนีออกไปจากด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งติดตามไปจนกระทั่งพบรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร จอดทิ้งไว้บริเวณริมถนน บ.สหกรณ์นิคม ม.1 ต.สหกรณ์นิคม อ.ทองผาภูมิ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจึงได้ทำการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวอย่างละเอียด พบ กลุ่มบุคคลคล้ายต่างด้าวผิดกฎหมาย จำนวน 27 คน (ชาย 19 คน และหญิง 8 คน) ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบเอกสารประจำตัวที่ทางราชการออกให้ แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่สามารถสื่อสารภาษาไทยได้ และไม่สามารถแสดงเอกสารที่ทางราชการออกให้ได้ จึงควบคุมตัวกลุ่มบุคคลต่างด้าวไว้ทั้งหมด
จากการสอบถามผ่านล่าม ทราบว่า กลุ่มบุคคลต่างด้าวผิดกฎหมายเดินทางมาจาก จ.ย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เดินเท้าเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ บ้านบ่อญี่ปุ่น และใช้เส้นทางธรรมชาติอ้อมจุดตรวจจุดสกัดของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง จนกระทั่งมาถึงจุดนัดพบ มีรถยนต์คันดังกล่าวมารับพวกตน เพื่อลักลอบเข้ามาทำงานยังพื้นที่ตอนในของประเทศไทย โดยเสียค่าจ้างให้กับนายหน้าคนละ จำนวน 19,000 บาท (จ่ายเมื่อถึงปลายทาง) แต่ถูกจับกุมได้เสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำประวัติ และนำตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมดส่ง สภ.ทองผาภูมิ เพื่อทำการสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> "พิชัย" เผยยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมเจรจาภาษีสหรัฐฯ แล้ว
09.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกถึงความคืบหน้าหลังจากเดินทางไปเจรจามาตรการการค้า และภาษีกับสหรัฐอเมริกา ก่อนจะถึงเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม นี้ ว่า ตนได้ส่งรายละเอียดเพิ่มเติมไปยังสหรัฐฯ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ส่วนเป็นข้อเสนอเกี่ยวกับการเปิดตลาด เพิ่มขึ้นหรือนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างไรนั้น จริงๆอยู่บนหลักเกณฑ์เดิมที่เราเคยยื่นไป และตอนที่เดินทางไปสหรัฐฯเพื่อรับฟังความเห็นเขาว่ามีรายการไหนสนใจเป็นพิเศษ จากนั้นเราก็นำกลับมาดูอีกครั้ง และปรับปรุงในส่วนที่เราคิดว่าทำได้ ซึ่งได้ส่งไปใหม่แล้ว
เรื่องภาษีเรายังคงคาดหวังให้ต่ำกว่า 18% หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า คิดว่าประเทศที่เจรจาแล้วมีจำนวนน้อยเพราะฉะนั้น อีกจำนวนมากเขาก็คงจะยื่นอีกสักครั้ง ซึ่งยังไม่แน่ใจ เพราะบางคนบอกว่า วันที่ 1 ส.ค. จะกำหนดอีกครั้ง และเมื่อเจรจาแล้วจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังเป็นแค่แก้การยื่นเกี่ยวกับภาษีและรายการสินค้า จริงๆ แล้วยังมีอีกหลายเรื่องที่เขากำลังนั่งดูอยู่ และเรากำลังเสนอซื้ออยู่ ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับอัตราภาษี ไม่ว่าเขาจะประกาศออกมาอย่างไรแปลว่ายังไม่ได้จบ มันอาจจะสามารถปรับปรุงได้เรื่อยๆ
เมื่อถามว่า เราจะยอมเหมือนกับเวียดนามที่กำหนดอัตราภาษีนำเข้า 0% หรือไม่ นายพิชัย หัวเราะพร้อมกล่าวว่า หลักการของเราคือ เราจะใช้หลักเปิดใจคุยกันว่าเขามีอะไรที่เราอยากได้ และเราจะเอารายการที่เราเคยซื้อจากเขาทั้งหมดมาดู เพราะฉะนั้น ถ้าถามว่าเป็นอย่างไร ก็อย่างที่ตนบอก เมื่อทำแล้ว เราก็ต้องดูแลผู้ผลิตในเมืองไทยด้วย
เมื่อถามว่า สหรัฐฯได้มีการเน้นย้ำเรื่องสินค้าสวมสิทธิ์มาอย่างไรบ้าง นายพิชัย กล่าวว่า อันนั้นเป็นหลักการ เรายื่นไปแล้วในข้ออื่นๆ ที่เขาดูอยู่ บางเรื่องเราก็ชวนเขามาดูด้วยกัน ทำงานร่วมกัน กติกาพวกนี้ยังไม่จบหรอก
>> รมต.พาณิชย์ เผยรัฐบาลตั้งงบ 10,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เยียวยาผลกระทบ “ภาษีทรัมป์”
11.51 น. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังเดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงพาณิชย์เป็นวันแรก ระบุว่า วันนี้ต้องมองข้ามว่า เมื่อเจอภาษีทรัมป์แล้ว ต้องเตรียมแผนเยียวยาอย่างไร เพื่อรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเราเตรียมไว้แล้ว ผ่านการเยียวยามีหลายแนวทาง ผ่านกองทุนเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยรัฐบาลได้กันเงินสำรองไว้ประมาณ 10,000 ล้านบาท จากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.15 แสนล้านบาท
เบื้องต้นจะเป็นการให้สินเชื่อ และการหาตลาดใหม่ ซึ่งในการหาตลาดใหม่ ได้กำหนดเป็น KPI ให้กับทูตพาณิชย์ไทยในต่างประเทศ ส่งการบ้านให้ตนอย่างเร่งด่วน
ขอยังยืนยันว่า แผนเยียวยาจะเร่งทำอย่างเร็วที่สุด ทำทั้งระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ดูแลทั้งประชาชน เกษตรกร อุตสาหกรรม ผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดความยั่งยืน เนื่องจากโลกในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงรุนแรง
>> ตัดไม้ยูคาฯ แล้วล้มพาดสายไฟฟ้าแรงสูง ช็อตเสียชีวิต 1 รายและเจ็บอีก 1 ราย
12.50 น. รับแจ้งว่า เกิดเหตุมีคนตัดไม้ยูคาฯ แล้วต้นไม้ล้มพาดสายไฟฟ้าแรงสูง เหตุเกิดที่บ้านท่าเสียว อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี และมีคนถูกไฟช็อตทำให้มีผู้เสียชีวิต เป็นชาย 1 ราย อีก 1 รายอาการสาหัสและหมดสติ
หลังจากที่ฟื้นขึ้นมา ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปแจ้งคนในหมู่บ้าน ให้ไปช่วย ส่วนตัวเองได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลอำเภอสร้างคอม อาการสาหัสเหมือนกัน ถูกนำส่งต่อโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี
>> มทภ.2 พบปะแลกเปลี่ยนข้อมูล อุปทูตสหรัฐฯ ด้านการปราบปรามยาเสพติด
13.00 น. ค่ายสุรนารี ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ. นครราชสีมา พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) ให้การต้องรับ Mr. Jesse Odum, Country Attache (เจสซี่ โอดัม) อุปทูตด้านการปราบปรามยาเสพติดสำนักงานปราบปราบปราม สหรัฐอเมริกา กรุงเทพมหานคร , 2. Mr. Marc Laing, Special Agent (มาร์ค แลงก์) เจ้าหน้าที่สืบสวนพิเศษ และ Mr. Atipon Jirantorn, Investigative Assistant (อติพล จิรันธร) ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่สืบสวน เพื่อหารือข้อราชการ เรื่องการปรับความยาเสพติด ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่มีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีสถิติกุมยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก ในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ทางสหรัฐอเมริกา ได้มาพูดคุยเรื่องข้อมูลต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์กับทางเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงาน ในการจับกุมยาเสพติด ความร่วมมือที่ดีของทั้ง 2 ประเทศ
>> สน.วิภาวดี กวดขันวินัยจราจร จับกุมรถ จยย. วิ่งช่องทางหลัก
13.18 น. พ.ต.ท.ดามพวร ทองอิ่ม (วิภา 1) , พ.ต.ต.ภุชงค์ เม้าทุ่ง (วิภา 6 ) เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.วิภาวดีได้ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในการจราจรบริเวณ ช่องทางหลัก เบี่ยงข้ามคลองหลักสี่ ถนนวิภาวดีรังสิต ขาเข้า เวลา 11.00 - 12.00 น.
จากการปฏิบัติงาน พบว่ามีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ใช้ช่องทางหลักจำนวน 42 รายทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย และลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
>> พ่อเลี้ยงสารภาพ พลั้งมือผลักเด็ก 2 ขวบ หัวฟาดพื้นดับ
14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณีเด็กชายวัย 2 ขวบเสียชีวิตภายในบ้านพัก ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังถูกแฟนใหม่ของแม่ผลักจนศีรษะฟาดพื้น ล่าสุด พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก. สภ.บางบัวทอง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ควบคุมตัว นายตอ (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี แฟนใหม่ของแม่เด็ก มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในบ้านพักที่เกิดเหตุ หลังจากถูกสอบปากคำนานกว่า 6 ชั่วโมง
จากการสอบสวน นายตอ รับสารภาพว่า ขณะเกิดเหตุตนเองกำลังนอนเล่นอยู่ข้างคอกเด็ก น้องส่งเสียงร้องดังและยืนเกาะคอกกั้น ตนเองจึงลุกขึ้นแล้วใช้สองมือผลักไหล่ของน้องอย่างแรง ทำให้น้องหงายหลังล้มลง พื้นที่ตรงจุดที่ล้มมีเพียงผ้ารองนอนบางๆ และมีหมอนรอง แต่ศีรษะของน้องไปกระแทกกับส่วนที่ไม่มีหมอนรองรับ น้องนอนหงายร้องไห้ ตนเองจึงรีบอุ้มมาโอ๋เพื่อให้เงียบ แต่พบว่ามือน้องกำแน่นและเริ่มมีอาการชักเกร็ง จึงรีบวางลงบนที่นอน จากนั้นค้นหาข้อมูลทางโทรศัพท์ดูว่าน้องเป็นอะไร ก่อนโทรแจ้งภรรยาซึ่งเป็นแม่ของเด็ก
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นได้พิจารณาแจ้งข้อหา "ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย" อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหาดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณาตามพฤติการณ์ และจะต้องรอผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
>> "บิ๊กเต่า" เรียกประชุมด่วน แบ่งภารกิจสืบข้อมูลเพิ่ม คดีทิดอาชว์ - สีกาคนสนิท
14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) ได้เรียกคณะทำงานเข้าร่วมประชุมที่กองบังคับการปปป. เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานและแบ่งภารกิจให้แต่ละกองงาน ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนกรณี นายอาชว์ อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ กับนางสาวเอ (นามสมมุติ) หลังมีพฤติกรรมเชิงชู้สาวและถูกรีดไถเงินกว่า 7.3 ล้านบาท
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า การประชุมครั้งนี้ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง โดยมีเป้าหมายเพื่อแบ่งสายงานสืบสวนเพิ่มเติม หลังจากได้ข้อมูลเบื้องต้นจากการสอบปากคำนางสาวกอล์ฟ ซึ่งให้ความร่วมมือกับตำรวจเป็นอย่างดี พร้อมยอมรับว่าเลือกเหยื่อเฉพาะพระที่มีเงินและเข้าถึงง่าย ก่อนจะหาทางใกล้ชิด ใช้แอปพลิเคชันไลน์ส่งคลิปวิดีโอ ภาพ และข้อความแบล็กเมล์เพื่อข่มขู่เรียกเงิน ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่มีผู้เสียหายรายใดเข้าแจ้งความ แต่จากพฤติการณ์ของนางสาวเอ เข้าข่ายการกรรโชกทรัพย์ ซึ่งสามารถดำเนินคดีอาญาได้แน่นอน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
ในส่วนของเส้นทางการเงิน ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดต่อสื่อได้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ได้รับจากนางสาวเอ ตรงกับหลักฐานที่เจ้าหน้าที่มีอยู่ ทำให้แนวทางคดีเริ่มชัดเจน ทั้งในเรื่องของการเลือกเหยื่อ การรับเงิน และการนำเงินไปใช้
นอกจากนี้ ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ (สอท.) ได้ลงพื้นที่ตรวจค้นบ้านพักของนางสาวเอ ใน จ.นนทบุรี เพื่อหาหลักฐานเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นอีกคดีแยกต่างหากจากที่ทาง บก.ปปป. ดูแลอยู่
>> รถบรรทุกชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้บาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
14.50 น. รับแจ้งจาก อาสากู้ภัยตาดาน มีอุบัติเหตุรถจักรยายนต์ชนกับรถบรรทุก และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนเส้นบ้านโคกไทร-บ้านดาร์ บริเวณบ้านหนองระหาร ตำบลบ้านจารย์ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีเทา ไม่พบป้ายทะเบียน ล้มคว่ำสภาพรถพังเสียหาย ใกล้กันพบรถบบรรทุก 6 ล้อ อีซูซุ สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน 1372 จอดอยู่ริมทางมีร่องรอยชนกันชนหน้ารถยุบ
ตรวจสอบที่กลางถนนสภาพพบร่างผู้บาดเจ็บ 1 ราย มีอาการสาหัสและหยุดหายใจไม่มีชีพจร เจ้าหน้าที่กู้ชีพทำการช่วยฟื้นคืนชีพ CPR และนำส่งโรงพยาบาลสังขะ แต่ผู้บาดเจ็บได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชาย อายุ 38 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขะ
>> นักเล่นพนัน เสียหมดตัว ชวนกันมุดข้ามแดนกลับไทย
14.52 น. กองกำลังบูรพา (กกล.บูรพา) หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ (ฉก.อรัญประเทศ) ชค.ทพ.12 กองร้อยทหารพรานที่ 120 1 (ร้อย ทพ.1201) สกัดจับ 5 ชายไทย ขณะลักลอบเดินเท้าข้ามแดนจากฝั่งปอยเปต จากการสอบถามเบื้องต้น พบว่าทั้งหมดเป็นนักพนัน ที่หมดตัวและได้จำนำหนังสือเดินทางเพื่อหาเงินมาเล่นต่อ แต่สุดท้ายก็หมด
จากการสอบสวน ชาย 4 คน ให้การว่า เดินทางข้ามไปเล่นการพนันที่ปอยเปต ตั้งแต่หลายเดือนก่อน ซึ่งแต่ละคนก็ไม่รู้จักกันมาก่อน จนมาพบและสนิทกันในบ่อนคาสิโน เมื่อเล่นเสียจนเงินหมด จึงได้ตัดสินใจนำ "หนังสือเดินทางไปจำนำ" เพื่อนำเงินมาเล่นต่อ แต่ก็เสียจนหมดตัว ทำให้ไม่มีเอกสารและเงินที่จะกลับประเทศทางปกติได้
ระหว่างที่กำลังหาทางลักลอบกลับเข้าไทย จึงได้มาพบกับ ชาย อายุ 33 ปี เป็นผู้ช่วยเชฟในร้านอาหารฝั่งปอยเปต ที่ต้องการข้ามกลับไทยเช่นกัน เนื่องจากอยู่เกินกำหนดวีซ่าและไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ ทั้ง 5 คน จึงตัดสินใจเดินเท้า ข้ามแดนมาด้วยกัน แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ทหารพราน จับกุมได้ดังกล่าว
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัวทั้งหมดส่ง สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินคดีในข้อหาลักลอบข้ามแดน ต่อไป
>> วัยรุ่นเกือบ 10 รุมทำร้ายนักเรียนวัย 16 ถีบแฟนสาว ได้รับบาดเจ็บ อ้างมองหน้า
15.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจาก นายพีท (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด และขับไรเดอร์ส่งอาหารหลังเลิกเรียน ว่าถูกกลุ่มวัยรุ่นเกือบ 10 คน ขับรถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมาประมาณ 4-5 คัน ไล่ตามประกบหาเรื่อง ก่อนที่จะขับปาดหน้าพากันลงมารุมกระทืบ และใช้อาวุธมีดไล่แทง ตนต้องวิ่งหนีตาย เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด แต่เรื่องยังเงียบเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยเพราะตนต้องไปเรียนหนังสือ และขับไรเดอร์ส่งอาหาร กลัวจะไปเจอกับวัยรุ่นกลุ่มนี้อีก
นายพีท ให้ข้อมูลว่า วันนั้นตนกำลังจะไปส่งแฟนทำงาน พอขับรถผ่าน ห้าแยกปากเกร็ด แฟนเห็นมีกลุ่มวัยรุ่นขี่จักรยานยนต์ตามมา พอตนหันไปดูก็เลยขับรถหนี แต่กลุ่มวัยรุ่นก็ยังขับตามมา พอถึงหน้าวัดกลางเกร็ด ซอยสุขาประชาสรรค์ เขาขับเข้ามาประกบตนได้ยินกลุ่มวัยรุ่นตะโกนถาม “ว่าเล่นหรือเปล่า“ ตนก็ตอบไปว่า “ไม่เล่นมากับแฟน” จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นก็ขับรถจักรยานยนต์แซงขึ้นไป แล้วจอดรถทำท่าจะลงมาทำร้าย ตนก็เลยรีบขับรถหนี กลุ่มวัยรุ่นก็ยังขับตามมา จนถึงวินจักรยานยนต์รับจ้าง กลุ่มวัยรุ่นได้ใช้เท้าถีบรถเพื่อจะให้ล้ม แต่ถีบไปโดนแฟน จากนั้นตนก็จอดรถ หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นถือมีดลงมาจะพยายามทำร้าย ตนต้องเดินถอยหลังหนี สังเกตเห็นเขาทำท่าจะแทงแฟน จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นที่ขับตามมาก็จอดรถลงมารุมทำร้ายตนบาดเจ็บนิ้วนางหัก ปากแตก คางแตกและใช้หมวกกันน๊อคกับไม้ฟาดที่ศีรษะ บอกว่าตนไปมองหน้าเพื่อนเขา ก่อนที่จะพากันขับรถหลบหนีไป
ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักและไม่เคยมีเรื่องกับวัยรุ่นกลุ่มนี้มาก่อน หลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยเพราะต้องไปโรงเรียนอยากให้ตำรวจช่วยติดตามจับกุมวัยรุ่นกลุ่มนี้มาดำเนินคดี
>> ไฟไหม้โรงงานยาง สมุทรสาคร ล่าสุดควบคุมเพลิงได้แล้ว สาเหตุและความเสียหาย ระหว่างตรวจสอบ
15.11 น. รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่บริษัทระกอบกิจการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยา ตั้งอยู่ หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า อาคารที่เกิดเหตุมีขนาดใหญ่เนื้อที่ราวๆ 3–4 ไร่ ส่วนจุดต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณท่อส่งน้ำมันที่ใช้ในกระบวนการผลิตภายในโรงงานดังกล่าว โดยลักษณะของเชื้อเพลิงเป็นเชื้อเพลิงไวไฟประกอบกับภายในมีสินค้าประเภทยางที่ผลิตแล้วเป็นจำนวนมาก จึงส่งผลให้เพลิงลุกลามได้อย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้ไฟดับสนิท เนื่องจากภายในมีทั้งเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิต วัตถุดิบไวไฟ และสินค้ายางยืดที่ผลิตเสร็จแล้วจำนวนมาก จึงต้องมีการฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไปเรื่อยๆ พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ชุดผจญเพลิงนำอุปกรณ์เข้าไปดับไฟด้านใน
สาเหตุนั้น จะต้องรอวิศวกรโรงงานผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรกล และเจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่ชัดเจน ส่วนตัวโครงสร้างอาคารจะยังสามารถใช้งานได้หรือไม่ ก็ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่โยธาฯ เข้ามาประเมิน โดยเบื้องต้นหลังจากที่เพลิงสงบลงแล้ว ทางผู้บัญชาการเหตุการณ์จะได้มีการสั่งปิดล้อมกั้นพื้นที่เกิดเหตุไว้ ห้ามผู้ใดเข้าใกล้จนกว่าการพิสูจน์จะแล้วเสร็จ ด้านความเสียหายยังอยู่ระหว่างการประเมิน
>> เด็กชายวัย 10 ขวบจุดไฟกลางห้างดังเมืองพัทลุง พนักงาน-ลูกค้าหนีอลหม่าน จนท.รุดเข้าดับไฟ เชิญผู้ปกครองเจรจาค่าเสียหาย
19.00 น. รับแจ้งว่า เกิดเหตุระทึกกลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง กลางเมืองพัทลุง หลังเกิดเพลิงไหม้ถึง 2 จุดซ้อนในเวลาใกล้เคียงกัน สร้างความแตกตื่นให้กับพนักงานและลูกค้าที่อยู่ในห้าง ต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันอลหม่าน
จุดแรกเกิดขึ้นที่โซน DIY ชั้น G โดยพยานในที่เกิดเหตุเล่าว่า เด็กชายวัย 10 ขวบ ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ ได้ถือไฟแช็กแอบเข้าไปในห้องพนักงานและจุดไฟเผากระดาษลังภายใน โชคดีที่พนักงานเห็นเหตุการณ์และรีบเข้าดับไฟได้ทันก่อนลุกลาม
แต่ไม่นานหลังจากนั้น เสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้ดังขึ้นอีกครั้ง พบว่ามีไฟลุกไหม้ขึ้นอีกจุดบริเวณชั้นวางของ คราวนี้ไฟโหมแรงและมีควันลอยหนาทั่วบริเวณ ทำให้ผู้คนในห้างพากันแตกตื่น วิ่งหนีออกจากอาคารกันจ้าละหวั่น
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองพัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยและ ปภ. จังหวัดพัทลุง ระดมกำลังควบคุมเพลิง โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ พร้อมกันพื้นที่โดยรอบเพื่อความปลอดภัย
เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ มีเพียงพนักงานบางรายที่สำลักควันเล็กน้อย ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวเด็กชายวัย 10 ขวบ พร้อมผู้ปกครอง ไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองพัทลุง และเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย
เหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญ ผู้ปกครองควรเฝ้าระวังบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็กที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยในอนาคต
>> รถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยาน มีผู้เสียชีวิต 2 รายกลางถนน
19.30 น. รับแจ้งจาก สภ.บางคนที ตรวจสอบอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยานยน และมีผู้เสียชีวิต บนถนนเส้นทาง แยกวัดคริส มุ่งหน้า วัดโชติ อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีดำ ป้ายทะเบียน ราชบุรี ล้มคว่ำสภาพหน้ารถพังเสียหาย ห่างออกไปพบรถจักรยาน ล้มคว่ำสภาพรถพังเสียหายยับ ใกล้กันพบว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 19 ปี ผู้ขับขี่รถ จยย. และ ชายไทย อายุ 72 ปี คนปั่นรถจักรยาน ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน
>> รมช.มหาดไทย-กทม. ผนึกกำลังขับเคลื่อน ‘สุขุมวิทโมเดล’ เสริมความปลอดภัยนักท่องเที่ยวเขตคลองเตย เขตวัฒนา
22.33 น. นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ย่านถนนสุขุมวิท เขตคลองเตยและวัฒนา แสดงถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนโครงการ Sandbox “สุขุมวิทโมเดล” ตามนโยบายรัฐบาล โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานสำคัญ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อจัดระเบียบพื้นที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวสำคัญ
โครงการนี้มุ่งเน้นการกวดขันวินัยจราจร จัดระเบียบทางเท้า แก้ไขปัญหาคนเร่ร่อน ขอทาน การจำหน่ายสินค้าผิดกฎหมาย เช่น บุหรี่ไฟฟ้า ของลามกอนาจาร (sex toy) รวมถึงการป้องกันการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว โดยพื้นที่นำร่องครอบคลุมถนนสุขุมวิท ตั้งแต่แยกอโศกถึงแยกนานา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่มีสถานบันเทิง แหล่งพักอาศัย และโรงแรม จึงจำเป็นต้องสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง
การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อจัดระเบียบพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพมหานคร ให้เป็นเมืองที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน สร้างความเชื่อมั่น กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน โดยเน้นบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ป้องกันอาชญากรรม และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัยอย่างแท้จริง
>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดเขียงราย
22.39 น กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 1.7 ลึก 3 กม. ภายในพื้นที่ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ยังไม่มีรายงานการรับรู้แรงสั่นสะเทือน