ฝูงโดรน (Drone Swarm) ไม่ใช่แค่อาวุธแต่เป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะทุกอุตสาหกรรมต้องจับตามอง
ปัจจุบันฝูงโดรน (Drone Swarm) กำลังกลายเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีเปลี่ยนเกมที่อาจพลิกโฉมการทำงานในหลากหลายอุตสาหกรรม เริ่มมาตั้งแต่เกษตรกรรม การกำจัดทุ่นระเบิด และไปจนถึงโลจิสติกส์ ปรับใช้งานตามความเหมาะสม
เว็บไซต์ The Robot Report เปิดเผยข้อมูลว่าฝูงโดรนอาจช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานได้ถึง 30% เนื่องจากสามารถลดภาระค่าแรงที่เป็นมนุษย์ ซึ่งบางกรณีคิดเป็นถึง 70% ของต้นทุนรวมในการใช้โดรน
ฝูงโดรนจึงเป็นเทคโนโลยีที่น่าจับตามอง และโอกาสใหม่ ๆ ในทุกระดับชั้น ตั้งแต่ผู้ประกอบการธุรกิจ และการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ของประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาโดรนไปพร้อมกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ทำความเข้าใจฝูงโดรน (Drone Swarm)
โดยปกติแล้วคำว่า "ฝูงโดรน" มักถูกใช้ในความหมายที่กว้าง เช่น ฝูงโดรนแสดงแสงสี หรือระบบที่ควบคุมจากศูนย์กลางโดยมนุษย์ แต่ในเชิงเทคนิค ฝูงโดรนที่แท้จริงนั้นหมายถึงกลุ่มของอากาศยานไร้คนขับที่สามารถตัดสินใจด้วยตัวเองอย่างเป็นอิสระ
ฝูงโดรน (Drone Swarm) หมายถึง โดรนบินที่มีลักษณะเป็นฝูงและมีการสื่อสารส่งต่อพฤติกรรมระหว่างกันแบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องสื่อสารโดยตรง คล้ายฝูงนกหรือแมลงในธรรมชาติ ไม่มีลำดับชั้นของการควบคุม ความสามารถในการตัดสินใจแบบกระจายศูนย์นี้เองที่ทำให้เทคโนโลยีดังกล่าวมีความยืดหยุ่น ปรับขนาดได้ง่าย และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้ทันที
การประยุกต์ใช้ฝูงโดรนในภาคเกษตรกรรม
ปัจจุบันมีการใช้โดรนในภาคการเกษตรเพิ่มมากขึ้น โดยมันมีคุณสมบัติในการบินสำรวจ วิเคราะห์ และปฏิบัติงานต่างๆ เช่น การใส่ปุ๋ยเฉพาะจุด การพ่นยา การตรวจวัดความชื้นหรือสารอาหารในดิน
อย่างไรก็ตาม ฝูงโดรนเพื่อการเกษตรในที่นี่ไม่ต้องพึ่งพาคำสั่งจากศูนย์กลาง ตัวอย่างเช่น หากโดรนหนึ่งตรวจพบจุดที่มีระดับฟอสฟอรัสต่ำ ระบบจะประเมินว่าโดรนตัวใดมีปุ๋ยชนิดนั้นและอยู่ใกล้ที่สุดเพื่อเข้าดำเนินการทันที
การตัดสินใจและการประสานงานของโดรนเกิดขึ้นแบบอัตโนมัติ และเมื่อทำงานในพื้นที่ขนาดใหญ่ ฝูงโดรนจะสามารถครอบคลุมและเก็บข้อมูลได้แม่นยำกว่าการใช้แรงงานมนุษย์หรือเครื่องบินที่ควบคุมด้วยคน
เทคโนโลยีฝูงโดรนในลักษณะนี้อยู่ในระหว่างการพัฒนา เช่น บริษัท Hylio สหรัฐอเมริกาโดยทำการพัฒนาซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์สำหรับฝูงโดรนพ่นสารเคมีทางการเกษตร ระบบของพวกเขาสามารถให้โดรนหลายลำทำงานพร้อมกันในพื้นที่เดียวกัน โดยมีการสื่อสารระหว่างกันเพื่อแบ่งพื้นที่การทำงานและหลีกเลี่ยงการพ่นซ้ำซ้อน
ฝูงโดรนกำจัดทุ่นระเบิด
ฝูงโดรนกำจัดทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดต้นทุนสูง และเสี่ยงต่อชีวิตมนุษย์ในการทำลายทุ่นระเบิด ด้วยความสามารถในการติดตั้งเรดาร์หลายย่านความถี่ เช่น L-band ที่ทะลุผิวดิน และ X-band ที่ให้ความละเอียดสูง
ฝูงโดรนสามารถสแกนพื้นที่ต้องสงสัย ตรวจจับวัตถุต้องสงสัย และประสานการสแกนซ้ำจากหลายมุมเพื่อเพิ่มความแม่นยำ จากนั้นระบบ AI จะวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างแผนที่โซนที่มีทุ่นระเบิดใต้ดินได้อย่างละเอียด
อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายด้านเทคโนโลยีที่ต้องพัฒนาอีก 3 ด้าน ได้แก่ พลังการประมวลผลแบบเรียลไทม์ ความแม่นยำในการระบุตำแหน่ง และการออกแบบเสาอากาศที่เหมาะสม แต่คาดว่าทั้งหมดนี้จะมีความพร้อมภายในปี 2027
ตัวอย่างบริษัทที่กำลังพัฒนาฝูงโดรนลักษณะนี้ เช่น Mine Kafon ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้ทำการพัฒนาระบบโดรน 2 ตัว ทำงานร่วมกัน คือ MK Destiny สำหรับบินสำรวจและสร้างแผนที่ 3 มิติ และ MK Manta ที่สามารถติดตั้งเซ็นเซอร์ได้หลากหลาย รวมถึงเครื่องตรวจจับโลหะและเรดาร์ทะลุพื้นดิน (Ground-Penetrating Radar - GPR) เพื่อระบุตำแหน่งของทุ่นระเบิด ระบบนี้เน้นการใช้งานได้จริงมีการสาธิตในหลายพื้นที่ และใช้แนวทางหลายเซ็นเซอร์ (Multi-sensor)
ฝูงโดรนภาคโลจิสติกส์
ปัจจุบันการส่งพัสดุหรือส่งอาหารด้วยมนุษย์เป็นที่พบเห็นได้ทั่วไป แต่ในอนาคตคาดว่าจะมีการนำโดรนและหุ่นยนต์มาใช้งานลักษณะนี้เพิ่มมากขึ้น โดยการใช้ศักยภาพของฝูงโดรนในการจัดส่งพัสดุหรือบริหารคลังสินค้า ด้วยการตัดสินใจแบบอัตโนมัติที่คำนึงถึงตำแหน่ง แบตเตอรี่ น้ำหนัก และเส้นทางอย่างชาญฉลาด
ฝูงโดรนสามารถทำเรื่องทั้งหมดนี้ไม่ต้องมีศูนย์ควบคุมที่รวมศูนย์ ตัวอย่างเช่น บริษัท ZenaDrone สหรัฐอเมริกา ที่ได้พัฒนาโดรนอัตโนมัติสำหรับจัดการสินค้าคงคลังในอาคาร โดยใช้การทำงานร่วมกันแบบฝูงเพื่อสแกนชั้นวางสินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายสำคัญยังอยู่ที่กฎระเบียบด้านความปลอดภัย ซึ่งต้องมีการทดสอบในระดับมหาศาลเพื่อรับรองความน่าเชื่อถือของระบบ
เทคโนโลยีฝูงโดรนมีศักยภาพสูงในการพลิกโฉมหลายอุตสาหกรรม ด้วยความสามารถในการทำงานแบบอัตโนมัติ กระจายตัว และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว แม้ยังมีข้อจำกัดด้านต้นทุนและเทคโนโลยีบางประการ แต่หากพัฒนาควบคู่ไปกับการปรับปรุงกฎระเบียบอย่างต่อเนื่อง ก็มีแนวโน้มว่าเราจะได้เห็นฝูงโดรนกลายเป็นกำลังสำคัญในระบบเศรษฐกิจและภาคปฏิบัติในอนาคตอันใกล้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กองทัพไทยคุมเข้ม 20 จังหวัดชายแดน ย้ำยิงสกัดโดรนทุกลำที่รุกอธิปไตย
- กพท. ออกประกาศห้ามบินโดรน 14 จุด พื้นที่เสี่ยงความมั่นคง
- สื่ออังกฤษเผย "ทัพไทยล้ำกว่านาโต" กรณีใช้โดรนทำลายเป้าทหารกัมพูชา
- โดรนขนส่งเลือด-ยา ย่นเวลาเดินทางเหลือแค่ 2 นาที โอกาสรอดชีวิตมากขึ้น
- "สิงคโปร์" จับมือ "Airbus" ทำทีมผสมโดรน - เฮลิคอปเตอร์ เสริมกองทัพอากาศในงานทหาร - กู้ภัย