เปิดโลกของ Fleur de Miraval โรเซ่แชมเปญของ Brad Pitt กับงาน Immersive Masterclass

ในโลกของแชมเปญที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความหลงใหล Fleur de Miraval ถือกำเนิดขึ้นด้วยวิสัยทัศน์ที่แตกต่างของ 3 ตระกูลหลักอย่าง Brad Pitt นักแสดงชื่อดัง Peters (Blend Master, True Expert of Champagne) และ Perrin (Blend Master, True Expert of Maceration Rosé) ซึ่งเลือกที่จะทุ่มเทให้กับ Rosé Champagne เพียงอย่างเดียวโดยไม่ยึดติดกับแสงสปอตไลต์ของ Brad Pitt และเลือกที่จะไม่เดินบนเส้นทางของ “แชมเปญเซเลบริตี้” แต่ยึดมั่นในคุณภาพ ความลึกซึ้งของรสชาติที่สร้างสรรค์จากดินชอล์กของ Côte des Blancs และความเชี่ยวชาญของสามตระกูลผู้ผลิตไวน์ที่มุ่งมั่น และเชื่อว่าโรเซ่ไม่ใช่แค่ “ความสวยในแก้ว” แต่เป็นการรังสรรค์ที่ซับซ้อนผ่านเวลา อันเป็นที่มาของกิจกรรม Immersive Masterclass ครั้งนี้

เมื่อ Bangkok Beer and Beverages (BB&B) จับมือกับ Bread Street Kitchen & Bar at ICONSIAM เชิญกลุ่มผู้หลงใหลในไวน์เข้าร่วมกิจกรรม Immersive Masterclass เพื่อสัมผัสแชมเปญสามรุ่นอันโดดเด่นของ Fleur de Miraval : Petite Fleur, ER3 และ ER4 ภายใต้การนำเสนอของ Alexis Blondel, Chef de Cave Adjoint ผู้เปี่ยมด้วยความรู้และประสบการณ์ต้นกำเนิดของสามแชมเปญแห่ง Fleur de Miraval

Alexis พาผู้ร่วมงานย้อนสู่รากฐานของ Fleur de Miraval ซึ่งทุกขวดสะท้อนความพิถีพิถันและการรังสรรค์ผ่านกาลเวลา โดยใช้ไวน์รีเซิร์ฟถึง 75% จากหลายวินเทจ ผสานกับไวน์ใหม่ และหมักบ่มบนยีสต์นานหลายปีในจำนวนจำกัด Petite Fleur แชมเปญ non-vintage ที่สดใสและละเอียดอ่อน ด้วยกลิ่นดอกโบตั๋น ราสป์เบอร์รี และเกรปฟรุตสีชมพู มอบความมีชีวิตชีวาในทุกฟอง ER3 เปิดตัวในปี 2022 ผสมผสานไวน์จาก 13 วินเทจ รวมถึงวินเทจหายากอย่าง 2000 และ 2009 นำเสนอความครีมมี่และความคลาสสิกที่กลมกล่อม ขณะที่ ER4 ใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2024 ประกอบด้วยไวน์จาก 16 วินเทจ โดดเด่นด้วยโทนผลไม้ตระกูลส้ม มะนาวสุก แพร์ และกลิ่นหอมของเฮเซลนัต

ด้วยความสงบนิ่งและความรู้ความสามารถ Alexis ถ่ายทอดเรื่องราวของแชมเปญแต่ละขวดอย่างน่าประทับใจ สะท้อนถึงบทบาทของเขาในฐานะผู้ที่ไม่เพียงดูแลการเบลนด์ไวน์ แต่ยังเป็นตัวแทนแบรนด์ในเวทีระดับโลก รวมถึงงาน Academy Awards 2024 ที่เขาได้รินแชมเปญให้แขกวีไอพีบนพรมแดงด้วยตัวเอง

เพื่อยกระดับประสบการณ์ ทีมเชฟจาก Bread Street Kitchen & Bar ร่วมกับคุณไมโล ออกแบบเมนู Bite-size จาก Signature Dishes ของร้าน โดยคงรสชาติและโครงสร้างดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน แต่เพิ่มความคล่องตัวและความน่ารักในคำเล็กๆ Spicy Tuna Tartare ด้วยความเผ็ดเบาและเปรี้ยวสด ขับเน้นความมีชีวิตชีวาของ Petite Fleur ขณะที่ Cod Croquette เนื้อปลานุ่มในเปลือกกรอบ เคล้ารสเค็มมันเบาๆ ช่วยให้โทนบ่มของ ER4 เด่นชัด Mini Beef Wellington พัฟกรอบห่อเนื้อฉ่ำและเห็ดดักเซล เข้ากันอย่างลงตัวกับความครีมมี่ของ ER3 จบด้วยขนมหวาน Mini Brownie ช็อกโกแลตเข้มข้นขมอ่อนๆ เชื่อมโยงกลิ่นนัตส์และความอบอุ่นของทั้งสามคิวเว่ ทุกคำที่ได้ลิ้มลองคือบทสนทนาระหว่างแชมเปญและอาหาร ที่ทำให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสถึงความละเมียดละไมของ Fleur de Miraval อย่างเต็มที่และประทับใจจนไม่อาจลืม

การได้เป็นส่วนหนึ่งของ Immersive Masterclass ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการชิมแชมเปญ แต่เป็นการเดินทางผ่านเรื่องราวของดิน ชอล์ก และความทุ่มเทของผู้ผลิตไวน์ Fleur de Miraval ที่ไม่ได้ถูกสร้างเพื่อความโด่งดัง แต่กลับ “เปล่งเสียง” ผ่านรสชาติและคุณภาพที่แท้จริง จากฟองเล็กๆ ในแก้ว สู่เวทีระดับโลก งานนี้ทิ้งไว้ซึ่งความทรงจำอันล้ำค่า และความชื่นชมในแชมเปญที่เล่าเรื่องด้วยตัวมันเองอย่างแท้จริง