รู้จัก SKY ICT นำสนามบินไทยสู่การเป็น Asia’s Aviation Hub

สนามบินไม่ใช่แค่จุดผ่านทางของนักเดินทางแต่เพียงเท่านั้น แต่เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการจัดการทุกขั้นตอนอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่เช็กอินไปจนถึงขึ้นเครื่อง

จากจอแสดงข้อมูลการบินที่เชื่อมต่อแบบเรียลไทม์ ระบบตรวจสอบผู้โดยสารล่วงหน้า ไปจนถึงเทคโนโลยีเช็กอินอัตโนมัติและการสแกนใบหน้า เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยลดความซับซ้อนในการเดินทาง และยกระดับประสบการณ์ของผู้โดยสารให้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยยิ่งขึ้น

ในยุคที่ทุกนาทีมีค่า ดิจิทัลโซลูชันจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารสนามบินยุคใหม่ และผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนสนามบินไทยให้เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ก็คือ SKY ICT บริษัทเทคโนโลยีไทยที่พัฒนาโซลูชันเพื่อให้ทุกย่างก้าวในสนามบิน ตั้งแต่เช็กอินจนถึงขึ้นเครื่อง เป็นเรื่องง่าย สะดวก และปลอดภัย

บทความนี้ TODAY Bizview จะพามาเจาะเบื้องหลังผู้ให้บริการเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมการบิน “SKY ICT”มุ่งยกระดับประเทศไทยสู่การเป็น Asia’s Aviation Hub” ว่ามีทิศทางเป็นอย่างไรบ้าง?

รู้จัก SKY ICT เบื้องหลังระบบเทคโนโลยีสนามบินไทย

บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการด้านเทคโนโลยี AI และโซลูชันอัจฉริยะ ผู้บริหารคนสำคัญคือ สิทธิเดช มัยลาภ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำเร็จการศึกษาปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ (นวัตกรรมทางธุรกิจ) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และหลักสูตรผู้บริหาร IOD ทำให้เขาเข้าใจกลไกการขับเคลื่อนนวัตกรรมให้ตอบโจทย์ชีวิตจริงได้เป็นอย่างดี

SKY ICT ดำเนินงานครอบคลุมหลากหลายด้าน ภายใต้แนวคิด “เทคโนโลยีที่ใช้ได้จริงและตอบโจทย์ชีวิต” SKY ICT ไม่เพียงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม แต่ยังวางรากฐานธุรกิจไว้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ การพัฒนาโซลูชันสำหรับสนามบิน ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบไอทีในองค์กร ระบบบริหารอาคารอัจฉริยะ ไปจนถึงแพลตฟอร์มการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ และบริการหลังการขายครบวงจร โดยแบ่งโครงสร้างธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ประกอบไปด้วย

• กลุ่มธุรกิจให้บริการ ได้แก่

• บริการด้านการบิน: บริหารจัดการท่าอากาศยานด้วยระบบไอที ตรวจสอบผู้โดยสารล่วงหน้า

• แพลตฟอร์มดิจิทัล: ระบบข้อมูลสนามบิน และการท่องเที่ยว

• บริการหลังการขาย: ซ่อมบำรุงทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทีมสนับสนุน

• ระบบความปลอดภัยและอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ: ใช้ AI, IoT, Digital Twin ฯลฯ
  

• การจัดการลูกค้าสัมพันธ์: ดูแลทั้งออนไลน์-ออฟไลน์ อย่างครบวงจร

• ธุรกิจ ICT System Integration ให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้งระบบ ICT ครอบคลุมโครงการใหญ่ระดับชาติ เช่น สนามบิน หน่วยงานรัฐ

3. ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอที อุปกรณ์และโซลูชันเทคโนโลยีครบวงจร ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ CCTV จนถึงซอฟต์แวร์เฉพาะทาง

ระบบที่อยู่เบื้องหลัง “สนามบินอัจฉริยะ” มีอะไรบ้าง

เบื้องหลังประสบการณ์เดินทางที่ลื่นไหลในสนามบิน คือเทคโนโลยีสุดล้ำที่ทำงานอย่างไร้รอยต่อ โดย SKY ICT ผู้ขับเคลื่อนระบบ “สนามบินอัจฉริยะ” ด้วยโซลูชัน Common Use Passenger Processing System (CUPPS) หรือ ระบบประมวลผลผู้โดยสารแบบใช้งานร่วมกันในสนามบิน และ Advance Passenger Processing System (APPS) คือ ระบบประมวลผลข้อมูลผู้โดยสารล่วงหน้า ครอบคลุม 13 สนามบินทั่วประเทศ โดยระบบที่ SKY นำเสนอในสนามบิน ครอบคลุมโซลูชันหลัก เช่น

• CUTE: ระบบเช็กอินผ่านเคาน์เตอร์
• CUSS: ระบบเช็กอินด้วยตนเอง
• CUBD: ระบบโหลดกระเป๋าอัตโนมัติ
• SBG: ประตูขึ้นเครื่องอัตโนมัติ
• PVS: ระบบตรวจสอบผู้โดยสารก่อนเข้าเกต

ทั้งหมดนี้เชื่อมต่อด้วย ระบบ Biometric (พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล) ซึ่งใช้การสแกนใบหน้าเพื่อพิสูจน์ตัวตนของผู้โดยสารก่อนเข้าสู่ระบบสนามบิน โดยเทคโนโลยีนี้สามารถยืนยันตัวตนได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว เพิ่มความปลอดภัยและลดขั้นตอนยุ่งยากในการเดินทาง

นอกจากน้ี SKY ICT ยังมีแผนยุทธศาสตร์สู่อนาคต เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินและการเดินทางในอนาคต SKY ICT วางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวไว้อย่างเป็นระบบ โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะหลัก ตั้งแต่การเพิ่มศักยภาพในปัจจุบัน ไปจนถึงการก้าวสู่การเป็นผู้นำระดับเอเชียแปซิฟิกในอนาคต ได้แก่

• ระยะสั้น (2567–2568) เพิ่มศักยภาพรองรับผู้โดยสาร 180 ล้านคนต่อปี / เที่ยวบิน 1.2 ล้านเที่ยว
  
• ระยะกลาง (2569–2571) ขยายขีดความสามารถสู่การรองรับผู้โดยสาร 210 ล้านคนต่อปี / เที่ยวบิน 1.4 ล้านเที่ยว
  
• ระยะยาว (2572–2581) รองรับผู้โดยสารได้ถึง 270 ล้านคนต่อปี / เที่ยวบิน 2.1 ล้านเที่ยวบิน / เป็น Top 5 ของ APAC

ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Asia’s Aviation Hub ได้อย่างไร

สิทธิเดช มัยลาภ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SKY ICT ได้ให้มุมมองต่อประเด็นประเทศไทยกับการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการบินแห่งเอเชีย (Asia’s Aviation Hub) ไว้ว่า ต้องพัฒนาอย่างรอบด้านใน 3 เสาหลักสำคัญ ได้แก่ ผู้โดยสาร เครื่องบิน และ สินค้า ซึ่งทั้งหมดต้องเติบโตควบคู่กันอย่างสมดุล

อย่างในด้านการรองรับผู้โดยสาร ให้มีพื้นที่ Terminal ที่มีประสิทธิภาพและใหญ่เพียงพอต่อการรองรับผู้โดยสารขาเข้าและขาออก รวมถึงช่วยลดระยะเวลาในขั้นตอนต่างๆให้ผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นการ เช็คอิน การผ่านจุดตรวจ X-ray และการตรวจคนเข้าเมือง

ส่วนการรองรับเครื่องบิน ต้องมีจำนวนรันเวย์ที่เพียงพอต่อจำนวนเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น รวมถึงระบบ Air Traffic Control จะช่วยให้การขึ้นลงของเครื่องบินสลับกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสุดท้ายคือการรองรับสินค้า คือ มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการรองรับสินค้าและเพิ่มขีดความสามารถด้าน Cargo มีระบบจัดการสินค้า และระบบติตตาม ตรวจสอบสินค้าที่ดี อีกทั้งประเทศไทยต้องเป็นศูนย์กลางส่งสินค้าจากจีนและยุโรปได้

ขับเคลื่อนอนาคต สู่การบินยุคใหม่อย่างยั่งยืน

ในวันที่อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกเร่งปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลง SKY ICT ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการบินไทยสู่อนาคต ด้วยการนำนวัตกรรมและเมกะเทรนด์ระดับโลกมาปรับใช้ สู่ระบบการบินที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และยั่งยืน

• Net Zero ศึกษาและส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน เช่น ระบบเก็บพลังงานความร้อนใต้ดิน (Thermal Energy Storage), การใช้พลังงานหมุนเวียน 100%, รวมถึงสนับสนุนการใช้เชื้อเพลิงการบินแบบยั่งยืน (SAF)
• Technological Innovation พัฒนาระบบ Mobile Biometric ผลักดันการเช็คอินแบบไร้สัมผัส และฝากกระเป๋าด้วยระบบ Face ID เพื่อความสะดวกและปลอดภัยของผู้โดยสาร
• Intermodal Connectivity มุ่งสร้างการเดินทางแบบไร้รอยต่อระหว่างเครื่องบิน รถไฟ และรถบัส ด้วยระบบสัมภาระและตั๋วร่วม เชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงที่เข้าถึงได้กว่า 130 เมือง
• The Changing Workforce นำ AI มาพัฒนาระบบ Kiosk โต้ตอบอัจฉริยะ ใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ (Predictive Analytics) เพื่อคาดการณ์พฤติกรรมผู้โดยสาร และส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับ AI อย่างมีประสิทธิภาพ
• The Passenger Experience ยกระดับประสบการณ์ผู้โดยสารด้วยโซนพักผ่อนต่าง ๆ เช่น ห้องพักแคปซูลและพื้นที่เพื่อสุขภาพ หรือพื้นที่ศิลปะ รองรับการเดินทางแบบไร้สัมผัส End-to-End ด้วยระบบไบโอเมตริกซ์และการเช็คอินผ่านมือถือ

SKY ICT มองเห็นแนวโน้มและการเปลี่ยนแปลงในระดับโลกที่เป็นแรงผลักดันสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีในสนามบินของไทย โดยสิทธิเดช เชื่อว่า แม้อุตสาหกรรมการบินในปีนี้อาจเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่ยังคงเผชิญกับความท้าทายภายในประเทศหลายด้าน เช่น ความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง ปัญหาการให้บริการที่ไม่เป็นธรรม การควบคุมราคาสินค้าและอาหารในสนามบินที่ยังไม่โปร่งใส ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากเท่าที่ควร

เขาเน้นย้ำว่า การฟื้นฟูและพัฒนาการท่องเที่ยวไทยให้ยั่งยืน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาครัฐที่ต้องมีบทบาทในการกำกับดูแลและสร้างมาตรฐานการบริการ รวมถึงการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในสนามบิน เพื่อยกระดับประสบการณ์นักท่องเที่ยวให้เทียบเท่าสากล และคืนความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยในเวทีโลก

สุดท้ายนี้ SKY ICT มีวิสัยทัศน์ที่มองไกลเกินกว่าธุรกิจเทคโนโลยี บริษัทได้ก้าวสู่การเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้านการบินของประเทศไทย พร้อมนำแนวคิดเทคโนโลยีดิจิทัลและความยั่งยืนทางเศรษฐกิจมาเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการผลักดันประเทศให้เข้าใกล้การเป็นศูนย์กลางการบินแห่งเอเชียอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต