‘เสธ.เบิร์ด’ เปิดชื่อ 2 ผบ.พันทหารกัมพูชา ที่ดูแลรับผิดชอบหน่วยวางทุ่นระเบิด
เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 68 พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานความมั่นคงชายแดน (สน.ปร.มน.) เปิดเผยถึงกรณีเหตุระเบิดบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณต้นพญาสัตบรรณ ซึ่งส่งผลให้เจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ โดยยืนยันว่าเป็นการล้ำแดนของฝั่งกัมพูชาอย่างชัดเจน
พล.ต.วันชนะ ระบุว่า ฝ่ายกัมพูชา โดยเฉพาะหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการวางทุ่นระเบิด ได้ยอมรับว่ามีการขุดคูเลต (แนวสนามเพลาะ) ล้ำเข้ามาในฝั่งไทยจริง และได้ดำเนินการกลบแนวดังกล่าว พร้อมทั้งถอนกำลังกลับออกไป ถ้าไม่ล้ำ แล้วถอยทำไม? กลบแนวคูเลตทำไม?
นอกจากนี้ ยังกล่าวว่า ในวันแรกของเหตุการณ์ นายแฮง รัตนา ผู้อำนวยการสำนักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (CMAA) แถลงยอมรับว่า ทุ่นระเบิดอยู่ในแผ่นดินไทย แต่วันถัดมากระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา กลับคำว่าอยู่ในเขตกัมพูชา สะท้อนถึงความพยายามปกปิดและปฏิเสธความรับผิดชอบ
หลักฐานยืนยันชัดเจนว่า จุดระเบิดอยู่ในฝั่งไทย ได้แก่ ฝ่ายกัมพูชายอมกลบคูเลตและถอยกำลังออกจากแนวต้นพญาสัตบรรณ แสดงให้เห็นว่ารับรู้การล้ำแดน และหลักการทางทหาร ในการวางกับระเบิดเพื่อสกัดฝ่ายตรงข้าม ต้องวางไว้ด้านหน้าของแนวป้องกัน ไม่ใช่หลังแนวของตน ซึ่งตำแหน่งระเบิดที่เกิดขึ้น ก็อยู่หน้าแนวคูเลตฝั่งกัมพูชา และแนวคูเลตก็ล้ำเข้ามาในดินแดนไทย
พล.ต.วันชนะ ยังกล่าวถึงหน่วยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หน่วยวางกำลังเผชิญหน้า : พัน สสน.392 สน. มี พ.ต.ชุน โซะพอล เป็นผู้บังคับกองพัน และหน่วยที่วางกับระเบิด : หน่วยช่าง พล.สสน.3 มี พ.ท.ลำ โซะเคน เป็นผู้บังคับกองพัน
ทั้งสองหน่วยมีความคุ้นเคยกัน และต่างรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นในพื้นที่ แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีฝ่ายใดแสดงความรับผิดชอบ ซึ่ง พล.ต.วันชนะ ให้ความเห็นว่า เป็นนิสัยของรัฐบาลกัมพูชาที่จะปฏิเสธจนกว่าจะถูกจับได้คาหนังคาเขา
"แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 แม้จะหยาบ แต่ยังยืนยันได้ชัดว่าจุดที่เกิดเหตุอยู่ในเขตแดนไทย สุดท้ายจำนนต่อหลักฐาน จึงต้องยอมถอย นี่คือข้อเท็จจริง" พล.ต.วันชนะ กล่าว.