มท.2 ห่วง น้ำท่วมน่าน ฝนตกหนัก 1 ชั่วโมง น้ำขึ้น 30 ซม. เร่งสูบน้ำ เฝ้าระวังสูงสุด
มท.2 รับกังวล จ.น่าน เหตุฝนหนัก 1 ชั่วโมง น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจ กำชับหลักการรักษาชีวิตประชาชน-ความปลอดภัย จนท.ผู้ปฏิบัติงาน
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 ก.ค.2568 ที่กระทรวงมหาดไทย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” ว่า จากการประชุมและได้รับรายงานโดยตรงจากพื้นที่ภาคเหนือ ในหลายๆ จังหวัดด้วยกัน เช่น จ.น่าน ตอนนี้ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ เตรียมความพร้อมรับมือขนของขึ้นที่สูง เพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหาย รวมถึงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์ที่ทางหน่วยงานราชการจัดเตรียมไว้ให้
โดยขอความร่วมมือเพื่อให้ทุกคนได้รับความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยมณฑลทหารบกที่ 38 ได้นำกำลังลงพื้นที่จ.น่าน เพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยผู้ว่าฯ ได้จัดเตรียมเรื่องของระบบการทำงานทุกระบบ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน
ขอย้ำเตือนว่าขณะนี้น้ำที่กำลังจะเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจ จ.น่าน มีปริมาณที่ 1 ชั่วโมง ประมาณ 30 เซนติเมตร ถือว่าเป็นปริมาณที่สูง ตนได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) นำเครื่องสูบน้ำลงพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อบรรเทาน้ำที่จะเข้าสู่ในพื้นที่ส่วนกลางให้มีระดับน้อยลงมากที่สุด อย่างไรก็ตาม น้ำมาแน่นอน จึงอยากให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือ
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า ในส่วน จ.พะเยา ได้ประชุมผ่าน Zoom ในพื้นที่จริง พบว่าในบางอำเภอยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่องและน้ำอยู่ในระดับที่ต้องเฝ้าระวัง แม้จะยังไม่สูง แต่ต้องเตรียมพร้อม และมีความเป็นไปได้หากมีฝนตกต่อเนื่องก็จะมีปริมาณน้ำที่สูงขึ้นได้อีก
ส่วนจ.เชียงใหม่และเชียงราย ทางพื้นที่ได้เตรียมความพร้อมรับมือไว้อยู่แล้ว อย่างน้อยการเตรียมการที่ดีขึ้น เชื่อว่าอาจจะระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว โดยกรมชลประทานได้เตรียมพร้อมในเรื่องของเขื่อนเพื่อให้หมาะสมกับน้ำที่จะมา มั่นใจว่าประชาชนจะได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมและการพยากรณ์น้ำในช่วงของ 3-5 วันนี้ ได้ฟังรายงานจากกรมชลประทาน ในเรื่องของน้ำเหนือที่จะไหลสู่ลำน้ำต่างๆ ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เตรียมพร้อมหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางที่อาจมีน้ำท่วมพื้นผิวจราจร อีกทั้งเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยให้มีความรวดเร็ว และทันต่อสถานการณ์ในเรื่องของหลักการรักษาชีวิตเป็นเรื่องสำคัญลำดับแรกที่ต้องดำเนินการ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ต้องได้รับความปลอดภัยเช่นกัน
สำหรับการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกปริมาณมาก และพื้นที่สำคัญที่เคยเกิดน้ำท่วมขังอยู่แล้ว ขอให้ทางจังหวัดได้เข้าไปป้องกันไม่ให้น้ำท่วมเข้าสู่พื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพบว่ามีฝนตกต่อเนื่อง ซึ่งต้องป้องกันเรื่องดินโคลนถล่มเพราะดินอุ้มน้ำหลายวัน มีความชุ่มฉ่ำมาก อาจเกิดดินโคลนถล่มได้ และให้จังหวัดที่มีความเสี่ยงอพยพประชาชนออกมาโดยเร็ว เพราะดินโคลนถล่มคาดการณ์ได้ยาก แต่ถ้ารู้ว่ามีจุดไหนที่เสี่ยงอยู่แล้ว ทางเจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปในจุดนั้นได้ทันที
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า ขณะที่การทำงานครั้งนี้บูรณาการกับหลายหน่วยงานเพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ หลายจังหวัด มีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดและอำเภอ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินในท้องถิ่น เพื่อควบคุมสั่งการ อำนวยการให้การระดมกำลังเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และดูแลในเรื่องของการดำรงชีพ ตั้งโรงครัว แจกถุงยังชีพ และดูแลสภาพจิตใจประชาชนให้ดีที่สุด
สั่งการให้บุคลากร ลงไปดูแลไม่ให้เกิดปัญหาอาชญากรรมและการป้องกันการลักขโมย ที่จะซ้ำเติมผู้ประสบภัยต้องไม่เกิดขึ้น ถ้ามีการปิดเส้นทางในเรื่องของถนน จะมีการแจ้งประชาชนก่อน เพื่อไม่ให้ประชาชนติดอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ถ้าหากพบว่าบางพื้นที่มีความเสี่ยงที่น้ำจะเข้าสูง สามารถตัดไฟได้เลย เพื่อป้องกันปัญหาไฟรั่วหรือไฟดูด โดยเฉพาะเขตพื้นที่ชุมชนหรือพื้นที่การศึกษา
ในส่วนของพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลาย ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปสำรวจความเสียหาย และช่วยเหลือประชาชนในการทำความสะอาดบ้านเรือนเพื่อบรรเทาความเสียหาย
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับการรายงานสถานการณ์ ให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดรายงานสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลถล่ม ผลกระทบและการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ในทุกวันเวลา 09.00 น. ซึ่งจะประชุมสรุปสถานการณ์ในแต่ละวัน เพื่อประเมินเพิ่มกำลังในแต่ละพื้นที่ให้ทันต่อสถานการณ์มากที่สุด
ส่วนทางผู้ว่าฯ ได้ส่งเซลล์บรอดแคสต์ ส่งข้อความผ่านศูนย์กระจายข่าวในระดับพื้นที่และจังหวัดให้ประชาชนได้ทราบ และขอความร่วมมือสื่อมวลชนกระจายข่าวสาร ยอมรับว่าพื้นที่ที่กังวล คือจ.น่านที่มีน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากน้ำที่เสริมเข้ามา จึงอยากให้ประชาชนเฝ้าระวังสูงสุด
สำหรับเซลล์บรอดคาสต์ใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และส่งแจ้งเตือนประชาชนไปแล้วตั้งแต่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จำนวน 56 ครั้ง แบ่งเป็น แผ่นดินไหว 2 ครั้ง อุทกภัย 45 ครั้ง ดินโคลนถล่ม 9 ครั้ง
ในช่วงของวันที่ 20 ก.ค.สถานการณ์พายุวิภา ส่งแจ้งเตือนไปแล้ว 24 ครั้ง อุทกภัย 15 ครั้ง ดินโคถล่ม 9 ครั้ง ส่วนวันที่ 22 ก.ค.ส่งแจ้งเตือนเพิ่มเติม 12 ครั้งในเรื่องของอุทกภัย
ศูนย์เตือนภัยของกระทรวงมหาดไทยทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ส่งสัญญาณเตือนภัยรวมถึงส่งข้อความเตือน ในช่วงเวลาเกิดเหตุจริงทุกช่วงเวลา และแจ้งเตือนเตรียมพร้อมเส้นทางน้ำที่จะมาถึงแต่ละพื้นที่ ส่วนดินโคลนถล่มจุดเสี่ยงต่างๆ ได้ประกาศออกไปตามพื้นที่ต่างๆ ก่อนหน้านี้ มีการขนย้ายและอพยพประชาชนออกมาจากพื้นที่เสี่ยงแล้ว โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยทหารที่สนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนพาไปอยู่ศูนย์อพยพ
เมื่อถามว่าการเดินทางจ.น่าน เข้ามาตัวเมือง บางจุดเส้นทางเริ่มสัญจรลำบาก ทางกระทรวงมหาดไทยได้ประสานกับกระทรวงคมนาคม ในเรื่องการเดินทางโดยเฉพาะสายการบินบ้างหรือไม่ น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า ผู้ว่าฯน่านรายงานว่ายังมีถนนบางส่วนที่กระทบ แต่ในเรื่องการบินหรือการเดินทางยังดำเนินการได้ตามปกติ
คาดการณ์ว่าถ้ามีถนนหลายเส้นที่เกิดผลกระทบกับผู้เดินทาง อาจต้องแจ้งให้ทราบเพื่อเตรียมการเผื่อเวลาเดินทาง และอยากให้ประชาชนในพื้นที่ ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการ และประสานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้เตรียมยานพาหนะช่วยเหลือพื้นที่ที่ถูกตัดขาด
เมื่อถามว่าสถานการณ์วันที่ 23 -25 ก.ค. ตามกรมอุตุนิยมวิทยามีความกังวลในช่วงวันใดเป็นพิเศษหรือไม่ น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า วันนี้น่าจะหนักที่สุด มีความกังวลมากที่สุด ประกอบกับปริมาณฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องตลอดในพื้นที่โดยเฉพาะจ.น่าน แม้ตอนนี้ระดับของพายุวิภาจะลดความรุนแรงลง แต่ในพื้นที่จะต้องเตรียมความพร้อม และต้องเฝ้าระวังสูงสุด หากทิศทางหรือความรุนแรงของพายุเกิดการเปลี่ยนแปลง
ในพื้นที่จ.เชียงราย ที่ประชาชนมีความกังวลในเรื่องของสารปนเปื้อนในแม่น้ำกกและพื้นที่ในอ.แม่สาย ขอยืนยันว่าตอนนี้อ.แม่สาย ได้รับผลกระทบน้อยมากเช่นเดียวกับสารปนเปื้อนของแม่น้ำกก ที่ปริมาณฝนตกลงมาทำให้สารปนเปื้อนค่อนข้างเจือจาง ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ตนเตรียมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์พายุวิภา ในพื้นที่จ.เชียงรายและน่าน เพื่อรับฟังรายงานเพิ่มเติมจากในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ที่เดือดร้อนและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : มท.2 ห่วง น้ำท่วมน่าน ฝนตกหนัก 1 ชั่วโมง น้ำขึ้น 30 ซม. เร่งสูบน้ำ เฝ้าระวังสูงสุด
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th