โดนแล้ว สั่งขับ "หลวงตาสุจ" พ้นวัด ปมไลฟ์เดือดยุยงไทย-กัมพูชา
จากกรณี พระมหานรินธร ปสนฺโน หรือ "หลวงตาสุจ" พระนักเทศน์สายฮาชื่อดังวัย 60 ปี ออกมาไลฟ์สดผ่านโซเชียลด้วยถ้อยคำรุนแรงต่อชาวจังหวัดสุรินทร์ กรณีพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา ถึงขั้นยุยงให้ใช้ความรุนแรง พร้อมทั้งกล่าวว่า "ให้ชาวสุรินทร์ตายให้หมด" จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้
คลิปไลฟ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจแก่ชาวบ้านและประชาชนจำนวนมากโดยมองว่าเป็นถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม เป็นการปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในสังคม และอาจบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บางส่วนถึงขั้นเดินทางมายังวัดเพื่อขอพบทันที แต่ไม่พบตัวหลวงตาสุจ เพราะมีรายงานว่าเจ้าตัวอยู่ในประเทศกัมพูชา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2568 พระครูถาวรวิชระชัย เจ้าอาวาสวัดป่าหนองแคร่ และเจ้าคณะตำบลกระสัง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของหลวงตาสุจ ได้ลงนามออกหนังสือถอดถอนจากการสังกัดวัดอย่างเป็นทางการ โดยให้เหตุผลว่า พฤติกรรมของหลวงตาสุจละเมิดข้อวัตรพระสงฆ์ สร้างความแตกแยกในหมู่พุทธศาสนิกชน ถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย "อาบัติ" และส่งผลเสื่อมเสียต่อคณะสงฆ์โดยรวม
ในหนังสือระบุชัดว่า เป็นการปฏิบัติที่พระสงฆ์ไม่พึงกระทำ และขัดต่อหลักธรรมวินัย จึงมีมติให้ "ปัพพาชนียกรรม" หรือการขับออกจากวัดต้นสังกัด มีผลตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
เหตุการณ์นี้ยังอยู่ในความสนใจของสาธารณชน ขณะที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่ใช้สื่อสาธารณะเพื่อสร้างความขัดแย้ง พร้อมย้ำว่าศาสนาควรเป็นพื้นที่แห่งสันติ ไม่ใช่เวทีปลุกปั่นความเกลียดชัง
โดยข้อความในเอกสารระบุ
"ตามปรากฏการณ์จากสื่อโซเซียล ที่ท่านได้ละเมิดข้อวัตรปฏิบัติ เกี่ยวกับสิ่งที่พระสงฆ์ พึงปฏิบัติในเรื่องของความสงบเรียบร้อยของวัดและศาสนา เกี่ยวกับการยุยงให้พุทธศาสนิกชน อุบาสก อุบาสิกา ให้เกิดความแตกแยก ถือเป็นอาบัติ (ข้อห้ามในพระธรรมวินัย) ที่พระภิกษุไม่ควรปฏิบัติ ซึ่งเป็นกิจที่พระสงฆ์ไม่ควรอย่างยิ่ง ทั้งนี้เป็นการส่งเสริมให้แตกแยก ความสามัคคี ในชุมชนและระดับประเทศ ซึ่งเรื่องที่โจษจัณฑ์ และเป็นโลกวัชชะ เป็นที่เสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์อย่างมาก เนื่องจากท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ สังกัดวัดป่าหนองแคร่ ทางวัดจึงขอปัพพาชนียกรรม ท่านออกจากการสังกัด วัดป่าหนองแคร่ ตั้งแต่บัดนี้ (29 มิ.ย. 2568) เป็นต้นไป"