เสี่ยเต็นท์รถสุดเซ็ง รถถูกขโมย ตั้งรางวัลหาเบาะแส พบถูกเผาทิ้งกลางป่า!
เมื่อวันที่ 3 ก.ค. นายทศม เรืองพยุงศักดิ์ กำนันตำบลปากแพรก รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบรถกระบะถูกไฟไหม้ที่ป่าเชิงเขาในพื้นที่ฝึกพระไชยานุภาพ กองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี จึงแจ้งให้ นายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ทราบสั่งการให้ว่าที่ร้อยตรีธนายุทธ พินิจมนตรี ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองกาญจนบุรี นำเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดการข่าวกองกำลังสุรสีห์ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณกลางป่าเชิงเขาที่เคยใช้ในการฝึกซ้อมทางการทหาร แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นพื้นที่ในการฝึกแล้ว มีสภาพเป็นป่าและหุบเขาค่อนข้างชัน จะมีถนนเข้าไปได้หลายทาง ตรงยอดเขาจะเป็นลานโล่ง พบวัตถุพยานหลายชิ้น มีรอยล้อรถที่หญ้าแห้ง จุดแรกที่คาดว่าจะมีการนำรถมาจอดแล้วถอดแผ่นป้ายทะเบียนรถออก แล้วจุดไฟในรถปล่อยรถไหลลงเนินหุบเขา ซึ่งมีร่องรอยการชนต้นไม้จนกันชนหลุด ไฟหน้าแตก ระยะตกลงไปประมาณ 50 เมตร ที่เชิงเขา พบซากรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ก แบบแคป จอดชนติดอยู่กับต้นไม้ สภาพไฟไหม้วอดทั้งคัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ห่างออกไป 30 เมตร พบแผ่นป้ายทะเบียนตกอยู่ในสภาพถูกพับงอ ดูภายนอกมีเลข 3473 กรุงเทพมหานคร จึงเก็บไว้ตรวจสอบลายนิ้วมือ
ต่อมา ได้มี นายวีระชัย ศิวชาติ อายุ 36 ปี หุ้นส่วนผู้จัดการฯ "จรัญรุ่งเรืองกิจ หมอจัดให้" พร้อมทีมงานเดินทางมาดูรถกระบะคันที่ถูกไฟไหม้ พร้อมยืนยันว่า รถกระบะคันดังกล่าวเป็นรถที่ถูกโจรกรรมไปเมื่อช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยตนเองได้เดินทางไปแจ้งความไว้แล้วที่สภ.เมืองกาญจนบุรี และประกาศตามหาเบาะแสตั้งรางวัล 1 หมื่นบาท กระทั่งมาพบรถถูกเผาอยู่ในป่าดังกล่าว
นายวีระชัย กล่าวว่า รถคันที่ถูกเผาน่าจะเป็นรถคันเดียวกับที่ถูกโจรกรรมไปจากเต็นท์รถของตนที่อยู่ห่างออกไปจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กิโลเมตรอย่างแน่นอน แม้ป้ายทะเบียนที่ถูกพบจะเป็นคนละทะเบียน แต่ตนจำลักษณะรถได้ชัดเจน ซึ่งรถคันนี้มีมูลค่าหลายแสนบาท ตนซื้อมาเพื่อเตรียมจะขายให้ลูกค้าแต่ก็มาถูกก่อเหตุไปก่อน ซึ่งตนค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะเป็นฝีมือของคนใกล้ตัวและอยากจะฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้