โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ดินเนอร์ทอล์ก 3 ผู้นำไทย-จีน ฉายสัมพันธ์ ‘ฝ่าวิกฤต-สร้างโอกาส’

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หมายเหตุ – นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี นายอู๋ จื้ออู่ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ให้เกียรติปาฐกถาพิเศษ ในงาน Exclusive Dinner Talk 50 ปีไทย-จีน The Golden Road : From Now to Eternity จัดโดย “เครือมติชน” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568

นายอู๋ จื้ออู่ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญ ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ประเทศจีนและประเทศไทยได้ร่วมจัดงานเฉลิมฉลอง ที่กรุงปักกิ่งก็มีงานวันชาติ และ 1 เดือนที่ผ่านมามีโอกาสร่วมกิจกรรมงานสัมมนาที่จุฬาฯ และองค์กรต่าง ๆ ทั้งสภาวัฒนธรรมไทย-จีน สมาคมมิตรภาพไทย-จีน เครือเจริญโภคภัณฑ์ หอการค้าไทย และสภาอุตสาหกรรมไทย

จีน-ไทยใช่อื่นไกลพี่น้องกัน

ขอชื่นชมว่า งานนี้มีรูปแบบหลากหลาย มีเนื้อหาอุดมสมบูรณ์ ให้ข้อคิดและความรู้ ทำให้ผมเหมือนอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรแห่งมิตรภาพ โดยได้สัมผัสกับตัวเอง สมกับคำกล่าวที่ว่า “จีน-ไทยใช่อื่นไกลพี่น้องกัน”

เหมือนที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวไว้เมื่อครั้งเยือนประเทศไทยปี 2022 จีนและไทยนั้นเป็นเพื่อนบ้านที่ดี เป็นมิตรที่ดี เป็นญาติที่ดี เป็นหุ้นส่วนที่ดี ความสัมพันธ์อันดีนี้มาจากความเคารพซึ่งกันและกัน เป็นการคบหาด้วยความจริงใจของรัฐบาลและประชาชนของ 2 ประเทศตลอด 50 ปีที่ผ่านมา

5 ทศวรรษจีน-ไทยได้ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านการทดสอบของการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์โลก เมื่อเราต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ ความลำบาก ทุกครั้งเราใช้โอกาสกระชับความสัมพันธ์ ทำให้ต่างฝ่ายเห็นว่าเป็นเพื่อนมิตรที่แท้จริง

50 ปีความสัมพันธ์ได้ยกระดับขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อปี 2001 ได้ตกลงร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ มาปี 2012 จีน-ไทยได้ร่วมหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ทุกครั้งระหว่างการเยือนของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำทั้ง 2 ชาติก็ตกลงร่วมกันสร้างประชาคมที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนยิ่งขึ้น

ความสัมพันธ์ได้รับการเอาใจใส่จากผู้นำสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระบรมวงศานุวงศ์ของประเทศไทย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสร็จสิ้นเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนครั้งที่ 56

ภายในปีนี้ทางจีนก็จะได้รับเกียรติที่จะได้รับเสด็จการเยือนเชิงประวัติศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประชาชนชาวจีนตั้งหน้าตั้งตารอรับการเสด็จฯ ของพระองค์ในครั้งนี้

ภายในปีนี้ผู้นำจีนมีโอกาสมาเยือนไทยอีกครั้งในวาระที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมความร่วมมือด้านแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง (LMC) ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเรานั้นดีมาก ทั้งเสมอภาคและผลประโยชน์ร่วมกันแบบ Win-Win

เจริญโภคภัณฑ์เป็นบริษัทต่างชาติแห่งแรกที่ลงทุนในจีน จากนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศต่อโลกภายนอก นายธนินท์ เจียรวนนท์ ตัดสินใจร่วมมือกับจีน ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ ที่เข้าไปจีนได้นำเงินทุน เทคโนโลยี รูปแบบบริการทันสมัย 50 ปีผ่านไป ก็เกิดผลตอบแทนเป็นการตัดสินใจที่แม่นยำ

ทุกวันนี้บริษัทจีนได้มาแสวงหาความร่วมมือกับไทย มีความตั้งใจที่จะร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในด้านอุตสาหกรรม Digital Economy การพัฒนาสีเขียว และ Energy บริษัทหัวเว่ยได้ร่วมกับบริษัทไทย ทำให้ไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ใช้ 5G

มีหลายบริษัทที่ดีในนิคมอุตสาหกรรม สร้างงานนับแสนให้กับชาวไทย บริษัทเหล่านี้มี Motto ว่า Growing Thailand Contribute to Thailand หรือเติบโตในไทยก็ต้องสร้างประโยชน์ในไทยเช่นกัน

การร่วมมือด้านเศรษฐกิจในเวทีระหว่างประเทศ เราทั้งสองร่วมมือดีเยี่ยม มีท่าทีที่เหมือนและใกล้เคียงกัน ต่างมุ่งพัฒนาประเทศ โดยไทยสนับสนุน “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่เสนอโดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ขณะที่จีนก็สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG ของไทย รวมทั้งกลไกความร่วมมือล้านช้าง-แม่น้ำโขง และมุ่งมั่นปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

50 ปี เป็นเพียงช่วงเวลาเดียวในประวัติศาสตร์ ทุกย่างก้าวความสัมพันธ์มาจากความพยายาม มุมานะ ไม่ย่อท้อ เป็นแรงให้เราทั้งสองมุ่งสมานใจ สานฝันประชาคมในอนาคต

ไม่รู้ว่าจะมีอุปสรรคอีกเท่าไร แต่ที่แน่ชัด จีนกับไทยยังคงร่วมมือ เคียงบ่าเคียงไหล่อย่างไม่หยุดยั้ง จากปัจจุบันจนชั่วกาลนาน

รถไฟไทย-จีนเชื่อมโลก

“เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นความโชคดี เมื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ 1 เดือน ได้ร่วมประชุมโครงการ “หนึ่งเข็มขัดเศรษฐกิจ หนึ่งเส้นทาง” หรือ Belt and Road Initiative การสร้างรถไฟจากอาเซียนไปจีน การเจรจาครบสมบูรณ์แบบ มีหลายประเทศทั้งสิงคโปร์ จีน คิดพัฒนาไปจนถึงทวีปยุโรป และมีโอกาสประชุมทวิภาคีกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้พูดคุยกันในหลายมิติ

เรื่องสำคัญคือการสร้างทางรถไฟ ไทยเป็นองค์ประกอบสำคัญมาก มองระยะยาวจะมีทางรถไฟตั้งแต่นครราชสีมา ไปถึงหนองคาย ผ่าน สปป.ลาว ไปสู่จีน ถ้าลงใต้ ตั้งแต่สิงคโปร์ มาเลเซีย จะเป็นเส้นทางใช้ส่งอาหารไปยังประเทศจีนได้

เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางอาหารสูง สามารถซัพพลายอาหารให้จีนได้ ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ หากมองนิวซีแลนด์และออสเตรเลียก็มีความมั่นคงทางอาหารสูงมากเช่นกัน การจะส่งอาหารไปยังจีนได้นั้น ถ้ามาลงที่สิงคโปร์ก็ขึ้นรถไฟความเร็วสูงได้ หากสร้างสำเร็จก็จะข้ามผ่านลาวสู่จีน

อุปสรรคในการสร้างนั้น “ใส่เงินอย่างเดียวไม่พอ การใส่ใจเป็นเรื่องสำคัญ” โดยเฉพาะ One Stop Service เช่น หากสร้างรถไฟความเร็วสูง ลดระยะเวลาเดินทางจากใต้สุดไปเหนือสุด ต้องเสียเวลาตรงชายแดน ต้องผ่านหน่วยงานทั้งกระทรวงแรงงาน กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ และกรมศุลกากร กว่าสินค้าจะไปถึง รถไฟก็ออกไปแล้ว ก็ต้องเสียค่ารักษาสินค้า

เชื่อว่า รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ยังคงให้ความสำคัญ ประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับการขึ้นกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐด้วย หากอำนวยความสะดวก จัดการปัญหาต่าง ๆ ทำให้การค้าเติบโตได้เร็ว

ส่วนจะได้เห็นโครงการนี้เสร็จเมื่อไรนั้น เข้าใจว่าจะมีการประมูลเร็ว ๆ นี้ ประมาณ 3 ปี แต่บางจุดยุทธศาสตร์ก็เริ่มสร้างแล้ว เช่น ช่วงขอนแก่นถึงหนองคาย

ส่วนประสบการณ์เวลาดีลกับจีน คําว่า “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” หรือ Common Prosperity สำคัญยิ่ง โดยเฉพาะการเติบโตของเศรษฐกิจที่ควบคู่กัน การค้าขายถือเป็นอันดับหนึ่งในหัวใจของจีน

ตอนไปจีน นอกจากเรื่องการสร้างทางรถไฟไปยุโรปแล้ว ก็พบปะหลายบริษัท ตั้งแต่ Data Center หรือบริษัทที่มาสร้างหัวรถจักรในไทย การเจรจาเพื่อให้เกิดการค้า การลงทุนกันและกัน

ประเด็นที่ 2 ประเทศให้ความสำคัญ ไม่ใช่แค่การเชิญมาลงทุน ให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี แต่การแลกเปลี่ยนบุคลากรก็สำคัญ เพราะธุรกิจใหม่ ๆ ที่จีนมาลงทุน ไทยอาจไม่มีความพร้อม

ส่วนหนึ่งของการเจรจาคือ “People to People Exchange” ต้องแลกเปลี่ยนบุคลากร ถ่ายทอดความรู้ เป็นที่น่ายินดี เมื่อเร็ว ๆ นี้ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการ BOI ได้หารือเรื่องนี้ โดยจะนำหลักสูตรที่ Practical จากบริษัทที่เข้ามาลงทุนในไทยไปสอนในสถาบันอาชีวะต่าง ๆ

อะไรทำให้จีนพัฒนาได้เร็ว “เศรษฐา” กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ประเทศจีนก้าวกระโดดมาถึงทุกวันนี้ และพัฒนาอย่างดีมากในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา คือ “การกำจัดความยากจน” หรือ Poverty Eradication เป็นจุดใหญ่สุดที่ทำให้จีนแข็งแกร่ง ผู้นำมีการบริหารงานต่อเนื่อง สานต่อนโยบายระยะยาวได้ดี การกำจัดความยากจนถือเป็นนโยบายหลักที่ทำให้ผู้นำอยู่ในอำนาจได้นาน

แนวทางของจีนที่คิดว่าจะนำมาปรับใช้กับไทยนั้นมีหลายเรื่อง อาทิ เรื่องการศึกษา ที่จีนผลิตบัณฑิตได้ตรงกับตลาดแรงงานภาคอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปเร็วได้ดี เช่น ด้านอิเล็กทรอนิกส์ Data Center และรถยนต์ EV ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ใหญ่ในรอบ 10 ปี หากไม่มีบุคลากรที่ดีหรือตอบโจทย์ตรงกับตลาดแรงงาน เชื่อว่าการพัฒนาอุตสาหกรรมของจีนคงไม่มาถึงจุดนี้

หากมองในฐานะภาคเอกชนยอมรับว่า คนจีนขยัน อดทน มุมานะ เป็นแก่นของคนที่จะประสบความสำเร็จได้เร็ว

รัฐบาลต้องมีหลักสูตรการเรียนการสอนที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานด้วย เพราะอุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ช่วง 30-40 ปีที่ผ่านมา ไทยเป็น Detroit of the East ด้านการผลิตรถยนต์สันดาป มี Supply Chain ที่แข็งแกร่งจากญี่ปุ่น

แต่ขณะนี้ตลาดเปลี่ยนไปแล้ว หากไม่รีบพัฒนา หรือปรับหลักสูตรในการป้อนบัณฑิตเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมีคุณภาพก็จะเป็นปัญหา

ธุรกิจท่องเที่ยว เราต้องยอมรับปัญหาก่อนคือเรื่องความมั่นใจในความปลอดภัย และความมั่นใจของนักท่องเที่ยวที่จะไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ เช่น ไกด์ผี แท็กซี่เถื่อน ส่วนมาตรการกระตุ้นก็ค่อย ๆ ตามมา หากเกาไม่ตรงจุด ไปกระตุ้นก่อนสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย ส่วนตัวถือเป็นเรื่องใหญ่มาก

ไทยจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นในเดือนกันยายน ซึ่งตรงกับช่วง Golden Week ของประเทศจีน ควรเตรียมความพร้อม เมื่อเร็ว ๆ นี้ มี “สุขุมวิทโมเดล” กวาดล้างยาเสพติด ขอทาน จัดระเบียบความสะอาด การจอดริมถนน เป็นการสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว

แม้จะเป็น Sandbox เล็ก ๆ แต่ถ้าขยายไปแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้ เช่น เยาวราช ข้าวสาร พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ เชื่อว่าความไว้ใจของนักท่องเที่ยวที่ให้กับรัฐบาลไทยจะดีขึ้น

ส่วนงบประมาณการกระตุ้นให้เกิดการมาเที่ยวในประเทศไทยนั้น เป็นตัวที่มาเสริมตอนหลังได้

การสื่อสารให้ชาวจีนรับรู้ถึงความปลอดภัยนั้น เราต้องทำให้เห็น เชื่อให้ได้ ว่ามาเที่ยวเมืองไทยแล้วจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและอาหาร ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนเฝ้ามองดูอยู่ หากให้ความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้ ช่องทางโซเชียลจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าใจและกลับมา

สิ่งที่ยังขาดในการเป็นหุ้นส่วนระหว่างไทย-จีน และการเจรจารับมือภาษีทรัมป์นั้น เป็นที่ประจักษ์ว่า เราเสียดุลการค้าให้จีนค่อนข้างมาก แต่การขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ เป็น Wake up Call ให้ทั่วโลก รวมถึงไทย

สำหรับการเปิดตลาดใหม่ในแง่ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ผลไม้ส่งออก ทูตพาณิชย์ อาจต้องมี KPI ใหม่ แทนที่จะต้องขายข้าวหรือขายทุเรียนอย่างเดียว จะทำให้ลดการขาดดุลได้เยอะมาก

ไทยมีความสัมพันธ์กับจีนมานาน 50 ปี ผูกพันทั้งด้านเชื้อสาย จิตใจ และวัฒนธรรม แม้หลายคนจะห่วงว่า หากไทยประนีประนอมเรื่องภาษีสหรัฐ ทางประเทศจีนจะไม่พอใจ มีหลายเรื่องที่คนอาจจะไม่ทราบ เช่น เรื่องที่สหรัฐ ขอเข้ามาสร้างโรงงานผลิตอาวุธที่ไทย แต่ทราบหรือไม่ว่า ประเทศจีนก็มีโรงงานผลิตอาวุธแล้วที่ไทย 2 แห่ง เป็นต้น เชื่อว่าเรื่องเหล่านี้สามารถแก้ไขได้

วันนี้ปัญหาเฉพาะหน้า คือ “ภาษีสหรัฐ” เชื่อว่า คณะเจรจาทำงานกันเต็มที่ หวังว่าผลน่าจะเป็นบวกต่อภาคอุตสาหกรรมไทย รายละเอียดการเจรจามีอยู่เยอะ ไทยมีหลาย Supply Chain ที่แกร่ง

เพราะฉะนั้น หากต้องให้ผลประโยชน์อะไรกับสหรัฐ แล้วจะกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน เชื่อว่า ไม่น่ามีประเด็น

ผมอยู่ในวงการธุรกิจ และค้าขายกับคนจีนมานาน เชื่อว่า ปรัชญาการทำธุรกิจของ 2 ประเทศ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่เราต้องทำทางรถไฟให้สำเร็จ เป็นเรื่องที่จีนให้ความสำคัญ

ส่วนเรื่องที่อยากให้จีนเข้าใจไทยนั้น หากไทยต้องประนีประนอมเรื่องภาษีสหรัฐ เพราะความจำเป็น แน่นอนว่าไทยจะไม่ปล่อยปละละเลยให้จีนเสียเปรียบในการค้าขาย

ภาพที่อยากเห็น ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ซึ่ง 50 ปีดำเนินมาอย่างดีมาก โดยเฉพาะในระดับพระบรมวงศานุวงศ์ที่เสด็จเยือนประเทศจีน รวมถึงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 จะเสด็จเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการ เป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนให้ดียิ่งขึ้น

ขอยํ้า เรื่องสำคัญที่สุดของจีนตอนนี้ คือ Belt and Road Initiative สร้างรถไฟความเร็วสูง เพราะเราเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการช่วยเขาสร้างความมั่นคงด้านอาหาร เพื่อให้เกิดการค้าขายที่เป็นธรรม

พลิกวิกฤตเป็นโอกาส “ฮับอาเซียน”

“ธนินท์ เจียรวนนท์” ประธานอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด 30 ปีก่อน ผมไปลงทุนที่เมืองจีนครบ 46 ปี โดยช่วง 10 ปีหลังนี้ จีนเน้นเทคโนโลยี ไม่ใช่แค่การค้าอย่างเดียว แต่เน้นการผลิตด้วย ที่ประทับใจมากคือ การใช้หุ่นยนต์ เทคโนโลยี เครื่องจักรที่ทันสมัย ผลิตสินค้าดี ราคาถูก ขายไปทั่วโลก เกิดสิ่งใหม่ๆ หัวเว่ย อาลีบาบา เทนเซ็นต์ ฯลฯ

วันนี้จีนมีคนเก่งคนหนุ่ม 30 กว่าคน รู้เรื่องเทคโนโลยีสูง ผลิตจรวด ผลิตโดรน ผลิตหุ่นยนต์ ภาคการผลิตไม่มีประเทศใด ผลิตได้เร็วเท่าจีน เพราะลงลึกศึกษาจริงๆ ไม่ใช้แรงงาน แต่ใช้สมอง ซึ่งไม่ได้ทำงานสบายๆ ต้องทุ่มเทหนัก

ผมคุยกับผู้สร้างจรวด ถามว่าทำไมทดสอบยิงครั้งเดียวสำเร็จ ผู้ผลิตบอกว่า 1.กำลังเงินไม่พอ 2.ต้องทำสำเร็จให้ได้ เพราะเป็นบริษัทส่วนตัว แม้จรวดจะมีชิ้นส่วนประกอบเป็นแสนชิ้น แต่ใช้คนที่มีความรู้ ทักษะสูงมาก

สร้างเสร็จแล้วต้องใช้เวลา 5 เดือนตรวจสอบ ก่อนยิงต้องทดสอบว่าจุดใดมีปัญหา คน 200 คนทำงานแบบไม่กลับบ้าน ทุ่มเท อดทน ถึงจะสำเร็จ หากสร้างจรวดได้แล้ว เทคโนโลยีอื่นๆ อย่างหุ่นยนต์ รถยนต์ที่ใช้ชิ้นส่วนไม่กี่หมื่นชิ้นก็ทำได้

ที่ต้องพูดเรื่องเทคโนโลยี เพราะมองว่า จากนี้จีนต้องผลิตสินค้าออกไปขายทั่วโลก แต่เทคโนโลยีที่เป็นสมองจะอยู่ที่จีน ทั้งชิ้นส่วนอัจฉริยะ หรือสิ่งต่างๆ ที่เรามองไม่เห็น

ผมมีข้อเสนอแนะคือ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าของอาเซียน ที่ตั้งอยู่ศูนย์กลางจริงๆ และมีนโยบายเป็นมิตรกับทุกคน เราไม่สร้างศัตรู ใครๆ ก็อยากอยู่ในประเทศไทย

ญี่ปุ่นมาลงทุนในไทยมากที่สุด เป็นกลุ่มรถยนต์ แต่จากนี้ไปไม่ใช่รถยนต์แล้ว เทคโนโลยีใหม่ๆ หุ่นยนต์ เครื่องจักรอัตโนมัติ จรวด ชิ้นส่วนไอโอที AI มาแล้ว

หากไทยเข้าใจ การเป็นศูนย์กลางการค้าต้องเริ่มเป็นศูนย์กลางการผลิตได้ด้วย ญี่ปุ่นลงทุนสร้างพื้นฐานไว้แล้ว

หากเรามีนโยบายที่ดีกว่าปัจจุบัน พวกสินค้าเทคโนโลยีที่ผลิตแล้ว ไม่ใช่ขายเพียงในไทยเท่านั้น แต่ไปขายต่างประเทศด้วย เพราะไทยเป็นประเทศเล็กมาก ประชากร 60-70 ล้านคน อาเซียนมี 600-700 ล้านคน เทียบกับจีน 1,400 ล้านคน

ถ้าไทยทำธุรกิจกับจีน ต่างคนต่างไม่มีภาษี เชื่อว่าจีนแพ้ เพราะเสียเปรียบ ไทยจะได้เปรียบก็ต้องศึกษา คนแต่ละประเทศต้องการอะไร มีทั้งลงทุนเอง เชิญคนมาร่วมลงทุน

หากต่างคนต่างไม่มีภาษี จีนเขาจะขายสินค้าให้คนไทย 60 กว่าล้านคน มากกว่า 20 เท่าของเราที่ไปขายให้จีน 1,400 ล้านคน ถ้าเราแพ้ เราก็ต้องโทษตัวเอง เพราะเราไม่ได้ลงลึก ไม่ได้ศึกษาลึกซึ้ง

จีนรู้ว่าตลาดเขายิ่งใหญ่ เขารู้จักตลาดดี เราร่วมทุนกับเขาเท่าไหร่ ให้เขาเป็นบริษัทไทยไปเลยก็ได้ เหมือนที่อเมริกา มีบริษัทหลายแห่งเป็นเชื้อชาติอเมริกา ไม่ปิดกั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นเชื้อชาติเดียวกัน ถ้าเชื้อชาติอเมริกันต้องเป็นอินเดียนแดง

ทำไมสหรัฐได้แต่คนเก่งในโลกนี้ ไทยไม่ต้องห่วง คนที่เข้ามาลงทุน ถ้าไทยรับเขาเป็นคนไทย ผมคิดว่าบุคลากรเหล่านี้ ล้วนยินดี ที่จะเปลี่ยนเป็นสัญชาติไทย ช่วยสร้างประโยชน์ สร้างเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างเงิน สร้างภาษีให้เรา

“ไทยไม่ได้เป็นศูนย์กลางการค้าเท่านั้น แต่เป็นศูนย์กลางการผลิตด้วย เพราะคนไทยมีฝีมือ ต้องทุ่มเท ขยัน รับผิดชอบ มีวินัย ละเอียด ไม่แพ้ใคร แรงงานไทยไปถึงอิสราเอล ยุโรป ญี่ปุ่นแล้ว ศูนย์กลางทางการเงินเราก็เป็นได้”

โลกยุคนี้เป็นยุคเทคโนโลยี ไทยอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด ใครมาเมืองไทยก็ติดใจ ไม่อยากกลับประเทศถิ่นฐาน เราได้เปรียบตรงนี้ ซึ่งเป็นโอกาส แล้วอัตราการเกิดก็น้อย ถ้าไทยได้คนเก่งๆ จากทั่วโลกมาทดแทนก็เป็นโอกาส เพราะวิกฤตคือโอกาส

แต่ไทยต้องเจาะจง เชิญบริษัทไฮเทคของจีนมาลงทุน แล้วสร้างเงื่อนไขต่างๆ เพื่อเอื้อความสะดวก วิน-วิน ทั้งสองฝ่าย

ผมเชื่อมั่นว่า ไทยจะเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรืองที่สุด ร่ำรวยที่สุด ในอาเซียนและในเอเชีย ทุกสิ่งที่กล่าวมา สิ่งแวดล้อมเอื้อประเทศไทย

มีอย่างเดียวคือ ไทยไม่ได้ลงลึกและศึกษาว่าโลกเปลี่ยนแปลงอย่างไร

จีน ญี่ปุ่น มาลงทุนที่ไทยมากขึ้น คิดว่าสหรัฐก็เริ่มมาเหมือนกัน เช่น การลงทุน AI ดาต้าเซ็นเตอร์ ถ้าจับมือกันได้ หวังว่าใน 50 ปีนี้ จะต่อยอดไปเป็นอีกล้านปี ไม่มีสิ้นสุด

ถ้าผู้นำต่อๆ ไปของไทย เห็นว่าจะต้องทำอะไร ให้ประเทศเจริญรุ่งเรือง จับมือกับจีน รวยกันไป ไทยก็รวย จีนก็รวย รวยทั้งคู่

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ดินเนอร์ทอล์ก 3 ผู้นำไทย-จีน ฉายสัมพันธ์ ‘ฝ่าวิกฤต-สร้างโอกาส’

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

เฉลิมพระเกียรติในหลวง สยามพารากอนจัดงาน “ทั่วหล้า เทิดไท้ ถวายใจสดุดี”

10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บิน-เที่ยวไทยฟื้นแรง ครึ่งปีแรก ผู้โดยสารทะลุ 72 ล้าน แม้จีนชะลอ

11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

จิตรกรรม “ปู่ม่าน ย่าม่าน” วัดภูมินทร์ เมืองน่าน ปลอดภัยจากอุทกภัย

Manager Online

เกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข การขับเคลื่อนการท่าเรือแห่งประเทศไทย ท่ามกลางความท้าทายและการเปลี่ยนแปลง

GM Live

ผลบอล ลิเวอร์พูล เครื่องพัง แพ้ มิลาน 2-4 ทัวร์เอเชียที่ฮ่องกง

PostToday

ฉลองวัย 82 ปี "พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์" เดินย่ำหิมะฉ่ำๆ ที่ออสเตรเลีย

Manager Online

เบื้องหลังดีไซน์อาร์ตทอย Eastern Secrets ชวนตามหา (ความลับ) ภาคตะวันออก

Sarakadee Lite

เด็กดอยชีวิตพลิก! ซึ้ง ‘ไอแคร์’ สานฝันมอบ 40 ทุน 11 ล้าน - หวังใช้วิชาพัฒนาบ้านเกิด

MATICHON ONLINE

เกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข กับการขับเคลื่อนการท่าเรือแห่งประเทศไทยท่ามกลางความท้าทายและการเปลี่ยนแปลง

GM Live
วิดีโอ

ไม่รู้จะเริ่มฝึกฟังจากไหน ลองเว็บนี้เลย #English #LearnEnglish #FarangAngmor #listening #skills

ฝรั่งอั่งม้อ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ดินเนอร์ทอล์ก 3 ผู้นำไทย-จีน ฉายสัมพันธ์ ‘ฝ่าวิกฤต-สร้างโอกาส’

ประชาชาติธุรกิจ

ปรับแผนเปิดตัว Toyota bZ4X สิงหาคมนี้ ‘โตโยต้า’ ยัน นำเข้าญี่ปุ่นทั้งคัน

ประชาชาติธุรกิจ

บิน-เที่ยวไทยฟื้นแรง ครึ่งปีแรก ผู้โดยสารทะลุ 72 ล้าน แม้จีนชะลอ

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...