ไขปริศนากองทุน “อาทรประชานาถ” ใช้เลขคนตายผู้พร้อมเพย์ ที่แท้ฝีมือใคร?
ช่อง 8 เปิดโปง ปมปริศนากองทุน “อาทรประชานาถ” ผูกเลขบัตรประชาชนคนตาย “หลวงพ่ออลงกต” ยังไม่ทันแจงสังคม ตอนนี้ถูกตำรวจจับ
ก่อนหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางจะจับกุมพระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุกลางดึก ข้อหา ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน สิ่งที่สื่อสืบค้นต้องการความกระจาก คือกรณี “กองทุนอาทรประชานาถ” ที่มี หลวงพ่ออลงกต แห่งวัดพระบาทน้ำพุ เป็นผู้โปรโมทเพื่อรับเงินบริจาคช่วยเหลือวัด แต่กลับพบความซับซ้อนและข้อพิรุธหลายประการ โดยเฉพาะการที่กองทุนไปผูกกับ เลขบัตรประชาชนของ “อลงกต พลมุก” บุคคลที่เสียชีวิตไปแล้ว ทำให้เกิดคำถามถึงความโปร่งใสและที่มาที่ไปของเงินบริจาคหลายล้านบาทนี้
ช่อง 8 ได้ตามสืบจนพบว่า กองทุนอาทรประชานาถ ซึ่งมีการโปรโมทโดยใช้ภาพของหลวงพ่ออลงกต เพื่อรับเงินบริจาคเข้าวัดนั้น กลับถูกผูกพร้อมเพลย์ (PromptPay) เข้ากับเลขบัตรประจำตัวประชาชนของ นายอรงกฎ พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้ว
ผู้ตายคือใคร? นายอลงกต พลมุข เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 เขาเคยเรียนโรงเรียนเดียวกับหลวงพ่ออลงกต แต่ครอบครัวยืนยันว่า นายอรงกฎไม่เคยมีบัญชีกับธนาคารกรุงเทพฯ เลย และมีเพียงบัญชีธนาคารกรุงไทยเท่านั้น แล้วใครกันที่เปิดบัญชี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า บัญชีบริจาคของกองทุนอาทรฯ ถูกเปิดโดย “อลงกต พูนมุก” ตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่าคือ หลวงพ่ออลงกต ซึ่งหลวงพ่อต้องชี้แจงว่าเป็นผู้ไปเปิดบัญชีเอง โดยใช้เลขบัตรประชาชนคนตายจริงหรือไม่
พร้อมเพย์ถูกผูกในปี 2561 ใช้เลขบัตรประชาชนเข้ากับบัญชีธนาคารกรุงเทพฯ ซึ่งผู้ตายไม่เคยทราบเรื่องนี้ และขณะนั้นนายอลงกตยังไม่เสียชีวิต
ล่าสุด สื่อได้ทดลองโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชนของเขา ยังคงสามารถโอนได้ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 24 สิงหาคม 2566 พร้อมเพย์ดังกล่าวก็ถูกถอดออกทันที
คำถามใหญ่จากครอบครัวผู้ตาย ลูกชายได้เข้าติดตามความคืบหน้าและข้อเท็จจริงที่สำนักทะเบียนอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อขอตรวจสอบประวัติการแจ้งชื่อในทะเบียนราษฎร์และการออกบัตรประจำตัวประชาชนของบิดา พ่อเป็นข้าราชการ จึงใช้บัตรข้าราชการมาโดยตลอด และเพิ่งยื่นคำร้องทำบัตรประชาชนครั้งแรกและครั้งเดียวเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 ก่อนเสียชีวิตเพียงไม่กี่ปี ทำให้ครอบครัวไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีคนนำชื่อและเลขบัตรประชาชนของพ่อไปใช้
ครอบครัวเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากกรณีนี้ เพราะบัตรประชาชนและพร้อมเพย์ของไปผูกอยู่กับบัญชีธนาคารกรุงเทพฯ ซึ่งพ่อไม่เคยเปิด พวกเขาจึงต้องการให้ธนาคารกรุงเทพฯ ตรวจสอบว่า “ใครคือไอ้โม่ง” ที่นำเลขบัตรประชาชนของพ่อไปเปิดพร้อมเพลย์
ข้อพิรุธ 3 ประการระหว่าง “พระ” กับ “คนตาย” การตรวจสอบพบข้อพิรุธสำคัญ 3 ประการ
1. ชื่อของหลวงพ่ออลงกต และนายอลงกต พลมุข ผู้ตาย มีความคล้ายคลึงกัน (แม้สะกดแตกต่างกันเล็กน้อยในภาษาไทย)
2. หลวงพ่ออลงกตได้นำเลขบัตรประจำตัวประชาชนของนายอลงกต(ผู้ตาย) ไปใช้ในใบสุทธิของตนเอง
3. กองทุนที่ใช้ภาพของหลวงพ่อโปรโมทเพื่อรับเงินบริจาค กลับไปผูกกับเลขบัตรประชาชนของผู้ตาย และเกี่ยวข้องกับบัญชีธนาคารกรุงเทพฯ โดยธนาคารกรุงเทพฯ ยืนยันแล้วว่าผู้ที่ดำเนินการเรื่องกองทุนนี้ตั้งแต่แรกคือหลวงพ่ออลงกต
ข้อมูลยืนยันจากพี่สาวหลวงพ่อ คุณบัว ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจ หลวงพ่อมีชื่อจริงว่า เกรียงไกร เพชรแก้ว ชื่อเล่น “จ๊อต” เป็นลูกคนที่ 5 ของครอบครัว ไม่เคยมีชื่อว่า “อรงกต พลมุข” มาก่อนเลย คุณบัวทราบว่าหลวงพ่อใช้ชื่อ “อลงกต” ก็ต่อเมื่อท่านบวชแล้วกลับมาเยี่ยมบ้าน ไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีการเปลี่ยนชื่อสกุลพ่อแม่ หรือเลขบัตรประชาชนของหลวงพ่อให้ตรงกับของคนตาย
หลวงพ่อเคยให้สัมภาษณ์ว่าจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาโทจากต่างประเทศ ออสเตรเลีย แต่คุณบัวยืนยันว่า หลวงพ่อไม่เคยเรียนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และไม่เคยไปต่างประเทศ
มีข้อสงสัยเกี่ยวกับช่วงเวลาที่หลวงพ่อหายไปก่อนบวช (ปี 2523-2529) ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการหนีทหาร คุณบัวชี้แจงว่าช่วงนั้นหลวงพ่อกลับมาอยู่บ้านที่ขอนแก่น และไปทำงานขายอาหารและผลไม้อยู่ที่กรุงเทพฯ ย่านสะพานใหม่ ก่อนจะบวชในปี 2529
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง