ตลาดหุ้นเอเชีย ปิดลบ นักลงทุนชะลอความเสี่ยง กังวลเศรษฐกิจจีน-นโยบายการเงินสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นเอเชีย ปิดปรับตัวลดลงพร้อมกันในวันนี้ (26 ส.ค.) ท่ามกลางแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก นักลงทุนเลือกขายทำกำไรและลดความเสี่ยง หลังยังคงเฝ้าจับตาทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ยังมีความเปราะบาง นอกจากนี้ ข่าวการปลด ลิซา คุก โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลสร้างความไม่แน่นอนต่อเสถียรภาพนโยบายการเงินสหรัฐฯ และสะท้อนแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นตลาดโลก
ตลาดหุ้นโตเกียว ดัชนีนิกเกอิ225 ปิดที่ 42,394.40 จุด ลดลง 413.42 จุด (-0.97%)
ตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของเงินเยนที่กระทบผู้ส่งออกและยานยนต์ แม้หุ้นเทคโนโลยีจะมีแรงซื้อบางส่วนช่วยประคองตลาด ขณะเดียวกันข่าวการเมืองสหรัฐฯ ทำให้บรรยากาศการลงทุนชะลอตัว
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ดัชนี KOSPI ปิดที่ 3,179.36 จุด ลดลง 30.50 จุด (-0.95%)
นักลงทุนเทขายหุ้นชิปและเทคโนโลยี หลังความกังวลต่ออุปสงค์ต่างประเทศยังไม่คลาย แม้ตัวเลขส่งออกเกาหลีใต้ล่าสุดจะบ่งชี้การฟื้นตัวบ้าง แต่ตลาดยังขาดแรงหนุนใหม่ และความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงินสหรัฐฯ ยิ่งเพิ่มแรงกดดัน
ตลาดหุ้นจีน ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปิดที่ 3,868.38 จุด ลดลง 15.18 จุด (-0.39%)
ตลาดถูกแรงขายหุ้นอสังหาริมทรัพย์กดดัน หลังบริษัทพัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ยังเผชิญปัญหาสภาพคล่อง นักลงทุนรอท่าทีรัฐบาลจีนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐานและการบริโภคภายในประเทศ
ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดที่ 25,524.92 จุด ลดลง 304.99 จุด (-1.18%)
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และการเงินร่วงนำตลาด ขณะที่แรงซื้อในหุ้นเทคโนโลยีไม่สามารถพยุงตลาดได้มาก นักลงทุนยังจับตาค่าเงินฮ่องกงที่ทรงตัวใกล้ peg กับดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ตลาดได้รับแรงกดดันจากการขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ