อินเดียอ่วม สหรัฐเริ่มเก็บภาษีนำเข้าอัตราใหม่ 50 % แล้ววันนี้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เดินหน้าบังคับใช้มาตรการเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียเป็นสองเท่า สูงสุดถึง 50% อย่างเป็นทางการแล้วในวันพุธ ถือเป็นการยกระดับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มาตรการดังกล่าวเป็นการเพิ่มภาษี 25% จากการนำเข้าน้ำมันรัสเซียของอินเดีย รวมเข้ากับภาษีเดิมอีก 25% ที่สหรัฐฯ กำหนดไว้ ส่งผลให้สินค้าหลายประเภทของอินเดีย เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า อุปกรณ์กีฬา เฟอร์นิเจอร์ และเคมีภัณฑ์ ต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าที่สูงที่สุดในกลุ่มประเทศคู่ค้าใหญ่ของสหรัฐฯ เทียบเท่ากับอัตราที่สหรัฐฯ ใช้กับจีนและบราซิล
เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์อินเดียเผยว่า รัฐบาลเตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันให้กระจายตลาดใหม่ ๆ ในจีน ลาตินอเมริกา และตะวันออกกลาง ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ได้ผ่อนผันเป็นเวลา 3 สัปดาห์ สำหรับสินค้าที่บรรทุกออกจากอินเดียก่อนถึงเส้นตาย โดยสามารถเข้าประเทศสหรัฐฯ ได้ตามอัตราภาษีเดิม นอกจากนี้ สินค้าในกลุ่มเหล็ก อะลูมิเนียม รถยนต์โดยสาร และทองแดง ที่อยู่ภายใต้กฎหมายความมั่นคงการค้า (Section 232) ยังคงถูกแยกจัดเก็บภาษีตามกรอบเดิม
ความพยายามเจรจาระหว่างสองประเทศ ล้มเหลวติดต่อกันถึงห้ารอบ แม้ทางอินเดียจะคาดหวังว่าสหรัฐฯ อาจยอมลดเพดานภาษีลงเหลือ 15% ตามแบบที่มอบให้แก่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหภาพยุโรป แต่สหรัฐฯ ยืนยันมาตรการเดินหน้าตามแผน ผลที่ตามมาอาจกระทบกว่า 55% ของมูลค่าส่งออกอินเดียไปสหรัฐฯ มูลค่า 87,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเปิดโอกาสให้ประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม บังกลาเทศ และจีน ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น
การเผชิญหน้าครั้งนี้ยังสร้างข้อกังขาต่อความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และอินเดีย ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นพันธมิตรสำคัญในกรอบ Quad ร่วมกับออสเตรเลียและญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายยังออกแถลงการณ์ร่วมยืนยันความมุ่งมั่นในการขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจต่อไป