โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ปัญหาหนี้และแนวทางที่"ว่าด้วยการจัดการหนี้ด้อยคุณภาพ"

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ในระหว่างที่เขียนบทความนี้ ผู้เขียนเองยังไม่ทราบถึงรายละเอียดทั้งหมดของแนวทางดังกล่าว จึงยังไม่ขอให้ความเห็นใดในขณะนี้ แต่อย่างไรก็ดี สัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี ได้เผยแพร่รายงานเรื่อง ‘Nonperforming Loans Watch in Asia 2025’ ซึ่งจัดทำขึ้นภายใต้ความร่วมมือของเอดีบี และเครือข่ายความร่วมมือบริษัทบริหารสินทรัพย์นานาชาติ (International Public Asset Management Companies Forum) โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพ หรือ NPL (Non-Performing Loans) และ AMC ในภูมิภาคเอเชีย จึงขอนำเนื้อหาบางส่วนของรายงานมาเล่าสู่กันฟัง

ข้อมูลในรายงานระบุว่าปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนใหญ่แล้วอยู่ในระดับที่ไม่สูงนัก อย่างไรก็ดี มีการชี้ให้เห็นว่าประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมถึงไทย มีมาตรการบริหารจัดการระดับหนี้ด้อยคุณภาพในระบบสถาบันการเงินได้ดีในระยะสั้นเท่านั้น โดยไม่ได้ให้ความใส่ใจกับแรงกดดันด้านคุณภาพสินทรัพย์ของ SME สินเชื่อเพื่อการบริโภค (Consumer Finance) และภาคอสังหาริมทรัพย์เท่าที่ควร ซึ่งอาจส่งให้เกิดปัญหาในระยะต่อไป

ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น มูลค่า NPL ของปี 2024 ในระบบสถาบันการเงินไทย สูงเป็นอันดับสองรองจากเวียดนาม มูลค่าดังกล่าวรวมถึงหนี้ครัวเรือนและหนี้ของนิติบุคคล แต่เนื่องจากความสนใจในภาพรวมของหนี้และหนี้ด้อยคุณภาพในประเทศไทย อยู่ที่หนี้ครัวเรือนเป็นหลัก จึงขอชวนดูข้อมูลจากฐานหนี้ครัวเรือนของบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (NCB) พบว่า ณ สิ้นไตรมาส 2 ของปี 2025 นี้ NPL (หมายถึงหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน) มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 9% ของหนี้ครัวเรือนทั้งหมด หรือเทียบเท่ามูลค่าประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท และอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยพบว่ากลุ่มสินเชื่อที่มี NPL เป็นสัดส่วนค่อนข้างสูงเรียงตามลำดับดังนี้คือ สินเชื่อเช่าซื้อหรือลีสซิ่ง มีหนี้ NPL ประมาณ 26% สินเชื่อประเภทนาโนไฟแนนซ์ มีหนี้ NPL ประมาณ 16.5% บัตรเครดิตมีหนี้ NPL ประมาณ12.7% และสินเชื่อรถยนต์ มีหนี้ NPL ประมาณ11.7% ในส่วนของหนี้นิติบุคคลนั้น พบว่ามี NPL อยู่ 3.8%

ข้อมูลจากการสำรวจในรายงานฯ อาจไม่สมบูรณ์นัก เนื่องจากเป็นการสำรวจกลุ่มตัวอย่างที่เล็กมาก แต่ก็มีประเด็นที่น่าสนใจอยู่ อาทิ การพบว่าส่วนใหญ่แล้วการขายหนี้ให้กับ AMC เป็นลักษณะของการขายตรงระหว่างสถาบันการเงินและ AMC ในขณะที่การทำธุรกรรมในรูปแบบการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ หรือ securitization มีค่อนข้างน้อยในภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้ NPL ที่มีการขายออกไปยัง AMC ส่วนใหญ่นั้น เป็นหนี้ที่มีหลักประกัน รายงานฯ ยังพบว่าปัญหาสำคัญในการบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพด้วยการขายไปยัง AMC อันดับแรก คือเรื่อง‘ราคา’ โดยพบว่ามีความไม่สอดคล้องระหว่างการประเมินราคาของสถาบันการเงินผู้ขาย กฎระเบียบด้านการตั้งสำรอง และการประเมินราคาความเสี่ยงของสถาบันผู้รับซื้อหนี้ อันดับที่สอง คือการใช้ข้อมูลที่อาจไม่ชัดเจนและเพียงพอสำหรับการประเมินความเสี่ยง โดยในประเด็นนี้รายงานฯ ได้กล่าวถึงการที่ผู้ซื้อ ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประวัติการชำระหนี้และการปรับโครงสร้างหนี้ อันดับที่สาม คือข้อจำกัดด้านกฎหมายกฎระเบียบ โดยในประเด็นนี้ รายงานของเอดีบีที่ได้เคยจัดทำก่อนหน้านี้ พบว่าในหลายประเทศ สถาบันการเงินพยายามยืดเวลาการจัดการกับหนี้ด้อยคุณภาพ เนื่องจากกฎระเบียบด้านการตั้งสำรองและการคุ้มครองผู้บริโภคไม่เอื้ออำนวย ในขณะที่ทาง AMC ก็พยายามกดราคาเนื่องจากความไม่แน่นอนและความยุ่งยากด้านกฎระเบียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับกฎหมายล้มละลาย กระบวนการทางศาล และการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เข้มแข็ง ข้อกำหนดด้านภาษีอากรก็เป็นอีกปัจจัยด้านกฎหมายที่รายงานฯ กล่าวถึง ภาระภาษีของการโอน NPL เมื่อใดจึงถือเป็นการขาย อีกทั้งยังมีประเด็นที่เกี่ยวกับการตัดหนี้สูญ การตั้งสำรองเป็นค่าใช้จ่าย ซึ่งในหลายกรณีส่งผลให้การจัดการกับ NPL มีความยืดเยื้อออกไป

เมื่อนำเอาข้อมูลด้าน NPL จากฐานข้อมูลของ NCB มาจัดเรียงแล้ว จะเห็นว่าแนวโน้ม NPL ของประเทศไทยในระยะอันใกล้นี้ ดูเหมือนจะอยู่ในระยะขาขึ้นทั้งในส่วนของหนี้ครัวเรือนและหนี้นิติบุคคล สอดคล้องกับการวิเคราะห์โดยใช้ AI model ในรายงานฯ ของเอดีบี ซี่งพบว่าประเทศไทยอยู่ในข่ายที่ NPL จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในระยะถัดไป (เวียดนามอยู่ในข่าย NPL ผันผวน อินโดนีเซียอยู่ในข่าย NPL เพิ่มขึ้นสูง) ผู้เขียนไม่ทราบว่ามาตรการการรับซื้อหนี้โดย AMC ที่เป็นข่าวกันอยู่นี้ จะประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อใด แต่หากจะให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงครอบคลุม ควรจะมีการศึกษาและพิจารณาประเด็นต่างๆ ตามที่รายงานฯ เอดีบี ได้นำเสนอ เพื่อสร้างระบบนิเวศน์ของการบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพของประเทศให้มีประสิทธิภาพ และให้กลไกของการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพสามารถช่วยให้ลูกหนี้ต่อลมหายใจได้ ฟื้นตัวได้ และกลับมาสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

เปิดตัว ‘Santa Fe’ โฉมใหม่ แฟลกชิปสาขาแรกใจกลางสยามสแควร์

43 นาทีที่แล้ว

'เสี่ยจ๊ะ' ไล่ 'ภูมิธรรม' ตัดขา ชื่อหลุดโผนักเรียน วปอ. ปี69

54 นาทีที่แล้ว

ใหญ่สุดเท่าที่เคยมี! โคเรียนแอร์สั่งซื้อเครื่องบินโบอิง 103 ลำ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ห้างเซ็นทรัลผนึกยักษ์ใหญ่ 72 แบรนด์ ดัน ‘Shop&Win’ เจาะนักช้อปทั่วโลก

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

รถน้ำมันเผชิญ "วิกฤติซ้อน" (Polycrisis) ต้นทุนสูง-แข่งขันรุนแรง-ระเบียบกดดัน เปิดโอกาส EV ครองตลาด

Finnomena

ก.แรงงาน มอบ 46 รางวัล “แรงงานพันธุ์ดีฯ” ขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตแรงงานตามหลักศก.พอเพียง

สยามรัฐ

หุ้นพลังงาน อัพเดทมุมมองบล.กสิกรไทย ราคาน้ำมันทรงตัว แต่อัตรากำไรแตกต่างกัน

ทันหุ้น

ททท. ปั้น ESG Tourism สร้างรายได้ชุมชนพุ่ง 20% นักท่องเที่ยวแตะ 3 หมื่นคน

ข่าวหุ้นธุรกิจ

Solis อินเวอร์เตอร์ ซีรีส์ S6-GC(80-125)K C&I ได้รับรอง ISO 14067:2018 Product Carbon Footprint จาก TÜV Süd

สยามรัฐ

Next Trip Holiday ฉลอง 15 ปี จัดทริปไหว้พระฮ่องกงสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมคอนเสิร์ต เต๋า–เจมส์–โดม ยุค 90

สยามรัฐ

FastMoss วิเคราะห์ "TikTok Shop Ecosystem White Paper: Mid-2025" ต่อยอดตลาดอีคอมเมิร์ซในไทย

สยามรัฐ

SCB TechX ประกาศวิสัยทัศน์ “Strategic FinTech Enabler”

การเงินธนาคาร

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...