ผบ. เรือนจำฯ เผย อาการลุงพล หลังนอนคุกคืนแรก
จากกรณีศาลจังหวัดมุกดาหารมีคำพิพากษาให้จำคุก นายไชย์พล หรือ ลุงพล ในความผิดฐาน x่าผู้อื่นโดยเล็งเห็นผล จำคุก 15 ปี พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา จำคุก 10 ปี และ กระทำการใด ๆ แก่ร่างผู้เสียชีวิต หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบร่าง ก่อนการชันสูตรพลิกร่างเสร็จสิ้น จำคุก 1 ปี รวมโทษจำคุกทั้งสิ้น 26 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในชั้นศาลฎีกา
โดยนางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา เรือนจำจังหวัดมุกดาหารได้รับตัวนายไชย์พลตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ตัดสินโทษจำคุก 26 ปี โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจร่างกายแรกรับ พบว่ามีสุขภาพปกติ ไม่พบบาดแผล ไม่ป่วยด้วยโรคประจำตัว และไม่มีการนำยามาติดตัว ขณะเดียวกัน การตรวจสุขภาพจิตก็ไม่พบความผิดปกติ นายไชย์พลให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ดี ไม่แสดงอาการเครียดชัดเจน และพูดคุยกับเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังรายอื่นตามปกติ
ในกระบวนการรับตัวเข้าเรือนจำ นายไชย์พลได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวในเรือนจำเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป และไม่ได้ร้องขอสิ่งใดเป็นพิเศษ ภายหลัง เจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้าห้องแยกกักโรคโควิด-19 เป็นเวลา 5 วัน อยู่ร่วมกับผู้ต้องขังรับใหม่รายอื่น ซึ่งสามารถปรับตัวและใช้ชีวิตร่วมกันได้ตามปกติ คาดว่าต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนเข้ากลุ่มคุมขังรวมในพื้นที่สำหรับผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี
ในส่วนของอาหารมื้อเย็นวันที่ 13 สิงหาคม เรือนจำจัดเมนูข้าวสวย ต้มยำไก่ และผัดคะน้าหมู นายไชย์พลรับประทานเกือบหมด เนื่องจากไม่ได้ทานข้าวตั้งแต่ช่วงกลางวัน เจ้าหน้าที่ได้มอบหมายผู้ช่วยงานคอยสังเกตดูแลอย่างใกล้ชิด ตลอดคืนที่ผ่านมาสามารถนอนหลับได้ และมีการพูดคุยกับผู้ต้องขังรายอื่นเป็นบางครั้ง
ล่าสุด เช้าวันที่ 14 สิงหาคม นายไชย์พลรับประทานอาหารเช้าในเมนูแกงจืดหมูใส่แตงกวา และข้าวสวยได้เกือบหมด ขณะที่การเยี่ยมญาติยังไม่มีใครติดต่อขอเยี่ยม และยังไม่ได้ร้องขอสิ่งใดเพิ่มเติมเช่นเดิม สำหรับเมนูอาหารของเรือนจำในวันนี้ ได้แก่ อาหารเช้าแกงจืดหมูใส่แตงกวากับข้าวสวย อาหารกลางวันผัดซีอิ๊วไก่ และอาหารเย็นแกงกะหรี่ไก่มันเทศกับข้าวสวย
ทั้งนี้ เรือนจำจังหวัดมุกดาหารระบุว่า ญาติของนายไชย์พลสามารถติดต่อขอเยี่ยมได้ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคมเป็นต้นไป หลังเสร็จสิ้นกระบวนการแยกกักโรค 5 วัน จึงจะมีการนำตัวไปคุมขังรวมกับผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ต่อไป