RBFกดปุ่มโรงงานใหม่Q4รองรับดีมานด์ไทย-เทศโต
#RBF #ทันหุ้น – RBF ลั่นก้าวข้ามจุดต่ำสุด เชื่อไตรมาส 3 และ 4 ยอดขาย-กำไรดีขึ้นต่อเนื่อง พร้อมรับมือการแข่งขันตลาดโลกอยู่หมัด ชูฐานผลิตหลากหลายประเทศช่วยยืดหยุ่นรับมือภาษีสหรัฐ หวังทั้งปี 2568 รายได้ขยายตัว 8-12% ปลายปีโรงงานใหม่ที่พระนครศรีอยุธยาเริ่มผลิต เช่นเดียวกับโรงงานที่อินเดียที่จะเดินเครื่องป้อนดีมานด์ในประเทศ
นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF เปิดเผยว่า หลังจากผลงานไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้ 1,063.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และกำไรสุทธิที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท 96.89 ล้านบาท ลดลง 5.30% ส่วนหนึ่งมาจากโครงการในจีนที่หยุดไป และจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) โดยเฉพาะด้านการตลาดและการขยายทีมเซลล์
เล็งครึ่งปีหลังดีขึ้น
ทั้งนี้บริษัทประเมินผลการดำเนินงานบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และเชื่อมั่นว่าธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ทั้งไตรมาส 3/2568 และไตรมาส 4/2568 จะขยายตัวดีต่อเนื่องโดยคาดจะส่งผลให้ตัวเลขอัตราส่วนการเงินทั้งในแง่ ROA, ROE รวมไปถึง กำไร EBITDA ปรับตัวดีขึ้นได้ ภายใต้กลยุทธ์หลักคือการรักษาลูกค้าเดิมและขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้ผ่านการเพิ่มยอดขายและการขายพ่วง อีกทั้งมีการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
อีกทั้งบริษัทยังคงเดินหน้ากลยุทธ์กระจายฐานการผลิตไปยังหลายประเทศ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และ อินเดีย เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาฐานการผลิตเพียงแห่งเดียว พร้อมกับเสริมศักยภาพในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ และความผันผวนของนโยบายเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ ให้บริษัทสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ และรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกอย่างแข็งแกร่ง
สำหรับภาพรวมทั้งปี 2568 จะพยายามสร้างการเติบโตรายได้ได้ตามเป้าหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ประกาศไว้ที่การขยายตัว 8-12%
Q4รง.ใหม่ลุยกำลังผลิต
การขยายตลาดและเพิ่มกำลังการผลิตภายในประเทศผ่านโรงงานแห่งใหม่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และรอเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตสินค้าได้ในไตรมาส 4/2568 ซึ่งจะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ส่งผลเชิงบวกต่อผลประกอบการในระยะกลางถึงระยะยาว โดยเฉพาะการใช้สิทธิประโยชน์จากโครงการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้อย่างเต็มที่ ช่วยยกระดับศักยภาพการผลิตและสนับสนุนการเติบโตของบริษัทอย่างยั่งยืน
ขณะที่โรงงานที่อินเดีย ส่วนงานหลักจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2568 และสายการผลิตเกล็ดขนมปังจะเริ่มดำเนินการบางส่วนได้ก่อนในช่วง 20-25 สิงหาคม 2568 แต่ในภาพรวมคาดจะมีความสมบูรณ์จนถึงขั้นเริ่มผลิตได้ภายในไตรมาส 4/2568 เช่นกัน
อัตราภาษีสหรัฐไม่กระทบ
ด้าน พ.ต.พญ.จัณจิดา รัตนภูมิภิญโญ กรรมการ RBF เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สัญญาณยอดขายกลับมาเป็นเชิงบวกนับแต่ไตรมาส 2/2568 ที่ผ่านมา จึงเชื่อว่าไตรมาสต่อๆ ไปจะยังเป็นเชิงบวกต่อไป
ทั้งนี้สัดส่วนรายได้บริษัทล่าสุดจำแนกเป็นในประเทศ 78% และต่างประเทศ 22% ซึ่งส่วนที่ส่งออกไปสหรัฐอเมริกาซึ่งก่อนหน้านี้มีความกังวลอัตราภาษีนั้น บริษัทมีฐานการผลิตกระจายหลายประเทศ มีทางเลือกที่สามารถปรับฐานการผลิตไปยังประเทศที่ได้เปรียบกว่าได้ อีกทั้งอัตราภาษีได้กำหนดออกมาชัดเจนแล้วทั้งไทยและกลุ่มประเทศอื่นๆ ที่บริษัทมีฐานผลิตอยู่ถือว่าใกล้เคียงกันมาก ลูกค้ามีความกังวลน้อยลง ยกเว้นที่ประเทศอินเดียเท่านั้น
อย่างไรก็ตามที่ประเทศอินเดียก็มีการบริโภคภายประเทศในระดับสูง ฉะนั้นการผลิตที่อินเดียเพื่อป้อนตลาดภายในก็ยังมีความคุ้มค่าและมีโอกาสเติบโต