วิตามินและสารอาหารแก้สมองล้า ช่วยฟื้นฟูความจำ ป้องกันภาวะซึมเศร้า
หลายคนทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ จนรู้สึกเหนื่อยล้า แม้จะนอนพักเพียงพอหรือดื่มกาแฟไปหลายแก้ว ก็ยังไม่รู้สึกสดชื่นอย่างที่ควรเป็น ปัญหาอาจไม่ได้มาจากร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความเหนื่อยล้าของสมองโดยตรง แม้จะรู้สาเหตุ แต่การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ก็ไม่ง่าย เพราะภาระงานที่ต้องรับผิดชอบยังคงมีอยู่ ดังนั้น การบำรุงสมองด้วยวิตามินและสารอาหารที่เหมาะสม จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยเติมความสดชื่น ฟื้นพลัง และทำให้วันทำงานที่เหนื่อยล้าผ่านไปได้อย่างเบาขึ้น
5 วิตามินบำรุงสมอง สนับสนุนระบบประสาท ช่วยลดอัลไซเมอร์
อินทผลัมสด VS อินทผลัมแห้ง แบบไหนดีกว่ากัน? เผยประโยชน์และโภชนาการ
ผลกระทบต่อร่างกายจากการโหมทำงานหนัก
ก่อนที่จะไปรู้จักกับวิตามินบำรุงสมองสำหรับคนทำงานหนัก ต้องอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนก่อนว่าการโหมทำงานหนัก พักผ่อนน้อย และไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพ ก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายไปจนถึงสมองอย่างไรบ้าง
- ภาวะสมองล้า (Brain Fog Syndrome): การทำงานหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน ส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดภาวะสมองล้า โดยผู้ที่ประสบภาวะนี้จะมีอาการคล้ายอัลไซเมอร์ เริ่มจากรู้สึกอ่อนเพลีย คิดอะไรช้าลง สมองตื้อ ลืมง่าย สมาธิสั้น ว่อกแว่กง่าย ตัดสินใจลำบาก ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานและชีวิตประจำวัน
- รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย: การทำงานหนักทำให้ร่างกายใช้พลังงานมาก และเมื่อร่างกายไม่ได้พักผ่อนอย่างเหมาะสม ก็ย่อมส่งผลให้รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย อ่อนแรง กล้ามเนื้อตึง ปวดเมื่อยตามร่างกาย ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อพาร์ตอื่น ๆ ของชีวิตที่จะแย่ตามไปด้วย
- ลืมง่าย สมาธิสั้น: การโหมทำงานหนัก ส่งผลต่อระบบความจำ ทำให้สมองทำงานช้าลง เกิดปัญหาการจดจำ ลืมง่าย สมาธิสั้น คิดอะไรไม่ต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมไม่เป็นผลดีต่อการทำงาน รวมถึงการใช้ชีวิต
- ตัดสินใจลำบาก: ความเครียดสะสมจากการทำงานหนัก ทำให้ระบบการตัดสินใจเกิดการแปรปรวน เนื่องจากสมองทำงานช้าลง เมื่อรับข้อมูลเข้ามาก็มีโอกาสที่จะตัดสินใจลำบากยิ่งขึ้น รู้สึกลังเล ไม่มั่นใจ
- อารมณ์แปรปรวน: ความเหนื่อยล้าจากการโหมงานหนัก อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนรอบข้างแย่ลงได้ เนื่องจากอารมณ์ที่แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ควบคุมอารมณ์ยาก
นอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายแล้ว การที่สมองล้ายังกระทบต่อด้านอื่น ๆ ในชีวิตอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ประสิทธิภาพการทำงาน ไปจนถึงสุขภาพจิต ดังนั้น ก่อนที่ทุกอย่างแย่ลงเป็นโดมิโน ก็ควรที่จะหันมาใส่ใจดูแลสมอง ด้วยพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงความเครียด รับประทานอาหารให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นผักผลไม้ ปลา ธัญพืช โปรตีน สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่มีวิตามินบำรุงสมองทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปที่มีไขมันอิ่มตัว และน้ำตาลสูง รงมทั้งบำรุงสมองด้วยวิตามิน
รวมวิตามินและสารอาหารบำรุงสมอง
- วิตามินบี 1: มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต เปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน ส่งผลต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันภาวะเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ความจำเสื่อม พบมากในข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ถั่วลิสง เมล็ดทานตะวัน ไข่แดง และเนื้อสัตว์
- วิตามินบี 6: เป็นวิตามินบำรุงสมองสำหรับคนทำงานหนักที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสารสื่อประสาท ช่วยให้ความจำดีขึ้น ควบคุมอารมณ์ ป้องกันภาวะซึมเศร้า พบมากในกล้วย อาโวคาโด แซลมอน อกไก่ ถั่วเหลือง และผักใบเขียว
- วิตามินบี 12: วิตามินบำรุงสมองชนิดนี้มีหน้าที่สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยให้ระบบประสาททำงานเป็นปกติ ลดความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ พบมากในเนื้อสัตว์ ไข่ ปลาแซลมอน นม โยเกิร์ต และชีส
- วิตามินซี: เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเซลล์สมองจากความเสียหาย เพิ่มประสิทธิภาพความจำ โดยพบมากในผลไม้รสเปรี้ยว เช่น กีวี ส้ม ฝรั่ง มะละกอ และผักใบเขียว
- วิตามินอี: อีกหนึ่งวิตามินบำรุงสมองที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง ลดความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ พบมากในน้ำมันมะกอก ถั่ว เมล็ดธัญพืช อาโวคาโด และผักใบเขียว
- กรดไขมันโอเมกา-3: สำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาสมอง ช่วยให้ความจำดีขึ้น บำรุงระบบประสาท ป้องกันภาวะสมองเสื่อม พบได้มากในปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมกเคอเรล เมล็ดแฟลกซ์ และวอลนัต
อย่าปล่อยให้งานหนักทำร้ายสุขภาพจนทรุดโทรม ตรงกันข้าม ควรใส่ใจดูแลตัวเอง บำรุงด้วยวิตามินบำรุงสมองอย่างครบถ้วน
ขอบคุณข้อมูลจาก :BDMS Wellness Clinic